2019-09-20 10:04CRI
จากแผนปฏิบัติการเพื่อป้องกันและควบคุมมลพิษทางอากาศแล้ว จีนยังมีการประกาศแผนปฏิบัติการ 3 ปี เพื่อเอาชนะสงครามทวงคืนฟ้าใสอีก เมื่อเดือนมิถุนายน ปี 2018 นายหลี่ เค่อเฉียง นายกรัฐมนตรีของจีน ได้ประกาศเริ่มแผนปฏิบัติการ 3 ปี เพื่อพิชิตสงครามทวงคืนฟ้าใส ถือเป็นการต่อยอดแผนปฏิบัติการเพื่อป้องกันและควบคุมมลพิษทางอากาศที่ประกาศใช้ก่อนหน้านี้ โดยยึดหลัก 5 ประการ ได้แก่ การขจัดมลพิษทางอากาศตามกฎหมาย ตามหลักวิทยาศาสตร์ ตามระบบ ดำเนินการโดยละเอียด และใช้ระบบสารสนเทศ เพื่อให้ท้องฟ้าของจีนเป็นสีฟ้าอีกครั้ง
กลุ่มคนรุ่นใหม่ องค์กรสิ่งแวดล้อมต่าง ๆ ของจีนยังเป็นตัวแปรสำคัญในพัฒนาการด้าน PM 2.5 นอกจากนี้ เทคโนโลยี และระบบ Big data ที่มีในปัจจุบันยังเอื้อต่อการส่งข้อมูลเข้ามายังระบบเพื่อนำข้อมูลดังกล่าวไปวิเคราะห์และแก้ปัญหา ในด้านธุรกิจได้มีการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีใหม่ ๆ และเครื่องมือตรวจวัด PM 2.5 อย่างแข็งขัน
ในบรรดามาตรการควบคุม PM 2.5 ของภาคธุรกิจ มีอยู่ประการหนึ่ง คือ การเปลี่ยนมาใช้พลังงานสะอาดในการขนส่งและการผลิต ซึ่งเห็นได้จากการใช้รถยนต์ไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ยกตัวอย่างเช่น ในเมืองอู่อัน มณฑลเหอเป่ย มีวิสาหกิจเหล็กและเหล็กกล้า วิสาหกิจซีเมนต์ วิสาหกิจถ่านหิน และวิสาหกิจอุตสาหกรรมหนักอื่น ๆ รวม 26 แห่ง ทุกปี วิสาหกิจเหล่านี้ต้องขนส่งวัตถุดิบและผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ เข้าออกเมืองกว่า 140 ล้านตัน ในอดีตได้ใช้รถยนต์ในการขนส่งทางถนนเป็นหลัก ถือเป็นสาเหตุหนึ่งของการปล่อยควันพิษและก่อให้เกิดฝุ่นละอองเป็นอย่างมาก ปีหลัง ๆ มานี้ มณฑลเหอเป่ยรณรงค์ให้วิสาหกิจต่าง ๆ ใช้การขนส่งทางรางแทนการขนส่งทางถนน โดยได้มีการสร้างทางรถไฟจากสถานีรถไฟกลางของเมืองอู่อันเชื่อมต่อถึงวิสาหกิจต่าง ๆ โดยบริษัทเหล็กและเหล็กกล้าผู่หยาง มณฑลเหอเป่ย ได้ลงทุน 500 ล้านหยวน สร้างทางรถไฟความยาว 4.3 กิโลเมตรจากสถานีกลางในเมืองไปยังบริษัท ทางรถไฟสายนี้สามารถรองรับการขนส่งสินค้าจำนวน 10 ล้านตันต่อปี ทั้งนี้ สถิตยังแสดงให้เห็นอีกว่า การใช้ขบวนรถไฟขนส่งสินค้าที่มีความยาว 60 ตู้ สามารถลดมลพิษทางอากาศที่เกิดขึ้นเทียบเท่ากับการขนส่งด้วยรถบรรทุกขนาดใหญ่จำนวน 110 คัน
นอกจากภาคธุรกิจแล้ว การรักษาฟ้าใส และทำให้ค่า PM2.5 อยู่ในระดับที่เหมาะสม รัฐบาลจีนได้ให้คำแนะนำแก่ประชาชน ได้ยินมาว่า ตอนนี้ จีนกำลังมีเทรนด์ใหม่ โดยให้ชาวบ้านออกเดินทางด้วย BMW
ทว่า BMW ที่รัฐบาลส่งเสริมนั้น ไม่ใช่รถยนต์สัญชาติเยอรมนีอย่าง BMW แต่ในที่นี้ คือ ตัวย่อมาจาก Bus - รถประจำทาง Metro - รถไฟใต้ดิน และ Walk – การเดินเท้า เทรนด์ใหม่นี้กำลังเรียกได้ว่าเป็นกระแสที่ได้รับความนิยมของผู้คนทั่วไป นอกจากนี้ จีนยังให้ความสำคัญกับการทดแทน โดยกำหนดหลักการใช้ชีวิต 3 ประการ ได้แก่ Reduce ลดใช้ Reuse ใช้ซ้ำ และ Recycle นำกลับมาใช้หมุนเวียน
ปัจจุบัน เมืองต่าง ๆ ของจีนทุกเมืองมีนโยบายและมาตรการในการป้องกันและควบคุม PM 2.5 รายงานระบุว่า เมืองซีอาน มณฑลส่านซี ได้ทดลองใช้เครื่องฟอกอากาศขนาดยักษ์ ขนาดเท่ากับปล่องควันของโรงงานอุตสาหกรรม โดยสามารถลดปริมาณลดฝุ่นละอองขนาดเล็ก หรือ PM 2.5 ได้ร้อยละ 15 ในพื้นที่รัศมี 10 ตารางกิโลเมตร
ขณะที่ฮ่องกงก็มีการเปิดอุโมงค์ความยาว 3.7 กิโลเมตร ที่ติดตั้งระบบฟอกอากาศ ซึ่งสามารถฟอกอากาศได้ชั่วโมงละ 5.4 ล้านลูกบาศก์เมตร ช่วยกำจัดอนุภาคที่อันตรายและไนโตรเจนไดอ็อกไซด์ได้อย่างน้อยร้อยละ 80 ผ่านการใช้พัดลมยักษ์ดูดอากาศเข้าไปยังโรงฟอกอากาศที่อยู่ในอาคาร 3 หลังตลอดแนวอุโมงค์
ด้านเมืองถางซาน มณฑลเหอเป่ย รณรงค์ให้ชาวเมืองใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายภาพการทำลายสิ่งแวดล้อม แล้วนำไปโพสต์บนอินเตอร์เน็ต
ผลปรากฏว่า ภายในระยะเวลาไม่ถึง 2 เดือน ได้มีการโพสต์ภาพเกี่ยวกับการทิ้งขยะไม่ถูกที่กว่า 600 ภาพ และการเผาสิ่งของที่ก่อให้เกิดควันพิษเกือบ 50 ภาพ โดยทางเทศบาลเมืองถางซานได้ให้เงินรางวัล 100 - 300 หยวน แก่เจ้าของภาพที่ทำประโยชน์ต่อการสร้างจิตสำนึกในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม
จริง ๆ แล้ว เงินรางวัลจำนวนมากน้อยไม่ใช่เรื่องสำคัญ ผู้เข้าร่วมกิจกรรมดังกล่าวไม่ได้ต้องการเงินรางวัลเพียง 200 - 300 หยวน หากแต่ทำไปเพื่ออนุรักษ์ฟ้าใส และเพื่อให้ลูกหลานมีสิ่งแวดล้อมที่ดีและน่าอยู่
การอนุรักษ์ฟ้าใสไม่ใช่เรื่องเฉพาะกิจหรือทำเพียงแค่ชั่วขณะ หากแต่เป็นภาระกิจระยะยาวที่ต้องการผลที่เป็นรูปธรรม นอกจากนี้ การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ยังต้องอาศัยความเสียสละของทุกคนด้วย ตัวอย่างเช่น ปัจจุบัน ในช่วงเทศกาลตรุษจีน เทศกาลที่สำคัญที่สุดในรอบปี ชาวจีนต่างพากันงดจุดประทัดและดอกไม้ไฟ
ทำนองเดียวกัน ในเมืองไทย เวลาผู้คนไปไหว้พระตามวัดต่าง ๆ ก็น่าจะมีการรณรงค์ให้ลดละเลิกการจุดธูปเทียนเพื่อหยุดซ้ำเติมปัญหาฝุ่นควัน PM 2.5 แม้บางคนอาจจะยังไม่ค่อยคุ้นชิน แต่ถ้าคนส่วนใหญ่ยินดีที่จะปฏิบัติตามก็น่าจะลดปัญหามลพิษลงได้บ้าง
แม้สิ่งที่ทำจะมีผลเพียงเล็กน้อย แต่เมื่อเราพยายามทำบางอย่าง เราจะอยู่แถวหน้าของสิ่งนั้น หวังว่า เราทุกคนจะเริ่มอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมโดยเริ่มที่ตัวเอง และทำตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป เพื่อความสะอาดปลอดโปร่งของท้องฟ้า
ปัญหา PM2.5 เป็นปัญหาที่ต้องอาศัยการเปลี่ยนรูปแบบการพัฒนา ตั้งแต่ระดับตัวบุคคลจนถึงส่วนรวม จากระบบการบริหารไปจนถึงการลงมือปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม โดยทุกขั้นตอนต้องเดินหน้าพร้อมกัน