ส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติ ตลาดเครื่องเรือน
นอกจากนี้ยังมีการสร้างระบบไอซีการ์ด และการเพิ่มเส้นทางรถไฟใต้ดินอีกหลายสาย สาธารณูปโภคเหล่านี้ต่างหากที่เป็นการลงทุนขนาดมโหฬาร และเป็นการมองการณ์ไกลของรัฐบาล ที่คิดว่าเป็นการสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกขั้นพื้นฐานให้กับประชาชน และเมืองที่ขยายออกไปเรื่อยๆ ซึ่งผมดูในแผนที่รถไฟใต้ดินในอนาคตที่จะแล้วเสร็จในปี 2012 นั้นยังจะมีการสร้างเพิ่มอีกหลายสาย ครอบคลุมไปทั้งเมืองหลวงแห่งนี้
ขออภัยที่บอกให้ท่านเดินตรงไปยังจุดหมาย แต่ผมเองดันแวะออกนอกเส้นทางเสียเองด้วยนิสัยว่าเป็นคนชื่นชมรายทางมากกว่าเป้าหมาย เห็นอะไรสำคัญก็ยากจะบอกเล่ากัน เพราะน่าจะเป็นประโยชน์สำหรับการเรียนรู้วิธีคิด และวิธีบริหารงานของประเทศกำลังพัฒนาที่เป็นยักษ์ใหญ่ที่สุด ในอีกแง่หนึ่งก็เพื่อสะท้อนให้เห็นว่า การมองที่ประโยชน์ระยะยาวของประชาชนอย่างแท้จริงแบบนี้ ไม่มีในมุมมองนักบริหารบ้านเมืองของเราสักเท่าไรนัก
ไม่ว่าจะไปอยู่ที่ไหนก็ยังรู้สึกว่าตนเองเป็นคนไทย เห็นอะไรดี ก็อยากให้บ้านตัวเองดีด้วยก็แค่นั้นเองล่ะครับ
(แทรกเพลง)
กลับเข้าสู่เส้นทางการไปช้อปปิ้งของเราต่อกันดีกว่านะครับ
ระหว่างทางจะผ่านโรงแรมหัวไทย ผ่านร้านขายแว่นตาที่เปิดติดกันหลายร้าน และตึกแถวที่ขายเฟอร์นิเจอร์โบราณ ซึ่งเพื่อนชาวจีนที่เพิ่งตกแต่งบ้านเสร็จ แนะนำผมว่า ของโบราณในตึกเหล่านี้ส่วนใหญ่เป็นของแท้แน่นอน และมีสภาพสมบูรณ์ โดยแถบไม่ต้องเลือกมาก แต่ราคาก็ไม่ใช่น้อยทีเดียวล่ะครับ ส่วนที่พันเจียหยวนนั้น ก็คงต้องเลือกกันเอาเองแบบ "ตาดีได้ ตาร้ายเสีย"
ผมนั้นเป็นพวก "ไม่ลองก็ไม่รู้" ก็เลยไม่สนใจที่จะแวะเดินเข้าไปดูในตึกนั้น เพราะยังไงซะที่นี่ก็ยังเป็นของตาย มาซื้อเมื่อไรก็ได้ ถ้ามีสตางค์พอ...เฮ้อ
ผมก็เลยมุ่งหน้าฝ่าลมหนาวตรงดิ่งไปตามเส้นทางอย่างแน่วแน่ พอมาถึงทางแยกก็ให้เลี้ยวขวา เดินไปอีกสัก 100 เมตรก็จะพบทางเข้าที่ผู้คนพลุกพล่าน เดินเข้า-ออกตลอดทั้งวัน
ตลาดของเก่าพันเจียหยวนเปิดบริการทุกวัน จันทร์ ศุกร์ เปิด 8.30 18.00 น. ส่วนเสาร์-อาทิตย์ เปิด 04.30 18.00 น. ใครสะดวกช่วงไหน วันไหน ก็เลือกไปตามนั้นเลยครับ ส่วนผมไปที่นี่มา 2 ครั้ง ไปทีไรก็เป็นช่วงบ่ายทุกที แถมเดินไม่เท่าไหร่ ตลาดก็วายซะแล้ว ยิ่งเป็นหน้าหนาวอย่างนี้ด้วยล่ะก็ 4 โมงเย็นกว่า พ่อค้าแม่ค้าก็เริ่มทยอยปิดร้านกันหมดแล้ว
วิธีห่อหนังสือ ถึงเวลากลับบ้าน
1 2 3 4 5
|