หอนาฬิกา ร้านหนังสือต่างประเทศที่ใหญ่ที่สุด
และแถวหวังฟูจิ่งนี้ คุณกุหลาบ สายประดิษฐ์ นักหนังสือพิมพ์และนักเขียนชาวไทยที่องค์การยูเนสโกยกย่องให้เป็นบุคคลสำคัญของโลก ช่วงที่ท่านพำนักอยู่ในเมืองจีน ก็เคยพักอยู่ในโรงแรมที่ชื่อว่า "เหอผิงปิน" ซึ่งตั้งอยู่ในหูถ่งที่ชื่อว่า "จินอี๋" ซึ่งข้อมูลเหล่านี้ ผมไปสืบค้นมาจากในเว็บไซค์ของซีอาร์ไอนี่เอง ซึ่งคุณสุธาทิพย์ โมราลาย นักเขียนชาวไทยที่ซึ่งเคยเป็นผู้เชี่ยวชาญของภาคภาษาไทย ได้เคยสัมภาษณ์คุณโจว เซิง อดีตหัวหน้าภาคภาษาไทยของวิทยุปักกิ่ง ซึ่งก็คือ ซีอาร์ไอ ในปัจจุบันนี้ไว้ ซึ่งเป็นข้อมูลสำคัญยิ่งที่ทำให้เราได้ทราบถึงความเคลื่อนไหว และการใช้ชีวิตของท่านขณะที่พำนักอยู่ในเมืองจีน
ไม่ว่าจะเป็นฤดูไหนถนนหวังฝูจิ่งก็ไม่เคยร้างผู้คน ขนาดอุณหภูมิลบ 6 องศาเซลเซียสในวันที่ผมไปเดินเล่นนั้น ผู้คนยังขวักไขว่ โดยเฉพาะชาวต่างชาติและชาวจีนต่างมณฑลที่เข้ามาท่องเที่ยวในแหล่งช้อปปิ้งที่ทันสมัยที่สุดแห่งหนึ่งของกรุงปักกิ่งนี้ อาคารสองข้างทางประดับด้วยป้ายโฆษณาสินค้าหลากสี มีจอโทรทัศน์ขนาดใหญ่ ให้ความรู้สึกเหมือนเช่นเดินอยู่ในเมืองใหญ่อันทันสมัยหลายแห่งของโลก
เดินมาหนึ่งอึดใจก็จะพบกับร้านขายหนังสือขนาดใหญ่ตั้งตระหง่านอยู่ทางด้านขวามือ มีชื่อว่า "หวังฝูจิ่ง บุ๊กสโตร์" ผู้คนเดินเข้าออกราวกับเป็ฯซุปเปอร์มาร์เก็ตทั่วไป ในจำนวน 5 ชั้นของอาคารอัดแน่นไปด้วยหนังสือทุกประเภท ทั้งของจีนและต่างประเทศ ท่านผู้ฟังลองประเมินคร่าวๆ ดูกันเองก็แล้วกันนะครับว่า จำนวนหนังสือจะมีมากเท่าไร
งานหนังสือขนาดใหญ่ของจีนจัดขึ้นเพียงปีละครั้งเท่านั้น ไม่ได้มีมากมายจนทำลายระบบการขายเหมือนบ้านเรา ที่คนรอซื้อแต่ช่วงลดราคา ทำให้การกระจายหนังสือไปไม่ทั่วถึง ร้านหนังสือเล็กๆ จึงอยู่ไม่ได้ เพราะทั้งไม่มีหนังสือใหม่ขายแล้ว ยังไม่สามารถให้ส่วนลดลูกค้าได้มากเท่ากับที่สำนักพิมพ์ผู้ผลิตเอามาขายเอง สิ่งเหล่านี้ควรได้รับการแก้ไขอย่างทันท่วงที พอๆ กับการเมืองเลยทีเดียว
ซึ่งผมคิดว่าแก้ได้ด้วยการวางแผนใหม่ตั้งแต่ขั้นต้น สร้างสังคมให้เป็นสังคมการอ่าน กำหนดให้เป็นวาระแห่งชาติ ที่ทุกวงการต้องร่วมมือกัน เมื่อการอ่านเข้มแข็ง ร้านหนังสือก็อยู่ได้ สำนักพิมพ์ก็มีกำไร นักเขียนก็ไม่อดอยาก มีแรงงานอันสดชื่นในการสร้างผลงานที่ดีออกมา และที่สำคัญสังคมก็จะมีรากฐานในการคิด แล้วในวันหนึ่งการเมืองก็จะดีขึ้นด้วย
ผมอยากเห็นคนเดินเข้าร้านหนังสือ แล้วหอบหิ้วกันออกมาเหมือนที่เห็นที่นี่ที่สุด และในเมื่อคิดแบบนี้ ผมจึงต้องลงมือปฏิบัติด้วยตัวเองก่อน จึงเดินเข้าไปคว้าหนังสือออกมา 2 เล่ม เป็นรวมเรื่องสั้นล่าสุดของ ฮารูกิ มูรากามิ เรื่อง Blind Willow, Sleeping Woman และนิยายเรื่อง On the Road ของ Jack Kerouac สุดยอดนักเขียนยุคบีทนิค ซึ่งในเมืองไทยยังไม่มีการแปลออกมา แต่ฉบับภาษาจีนตอนนี้เพิ่งวางแผงได้ไม่นาน
1 2 3 4 5
|