แหล่งของฝาก
ในตรอกแห่งนี้มีของกินเล่นนานาชนิด สิ่งแรกที่ขาดเสียมิได้เลยก็คือผลไม้เชื่อมหลากสีสันที่เสียบไม้และเคลือบน้ำตาลใสแจ๋วยั่วน้ำลายอย่างยิ่ง และยังมีร้านปิ้งย่าง ทั้งปลาหมึก แพะ เนื้อวัว เนื้อหมูราคา 5 หยวนถ้วนเท่ากันทุกร้าน และพิเศษสุดมีแมงป่องและม้าน้ำย่างด้วย เห็นแล้วขนลุก มากกว่าน่ากิน แต่ก็เป็นอาหารที่ชาวจีนเชื่อว่ากินแล้วบำรุงร่างกาย ใกล้กันมีร้านอาหารจีนแบบกินด่วนทั้งที่เป็นแบบราดข้าว และบะหมี่ชามยักษ์
ตรงกลางซอยมีร้านขายของฝากเรียงติดกันเป็นแถวยาว จำพวกตุ๊กตา หมวก รูปปั้นทหารจิ๋นซี สมุดพกประธานเหมา ชุดชา ตะเกียบ ภาพเขียนพู่กันจีน ซึ่งสินค้าในซอยนี้จะขายได้กับกลุ่มลูกค้าที่กรุ๊ฟทัวร์จัดมาลงเป็นส่วนใหญ่ เพราะไม่มีโอกาสได้ไปเสาะหาแหล่งที่ถูกกว่า และคุณภาพดีกว่า
เมื่อเดินวกกลับมาที่ถนนใหญ่ ด้านขวายังคงเป็นห้างสรรพสินค้าหรูหรา ส่วนด้านซ้ายมีการจัดแสดงภาพถ่ายเหตุการณ์สำคัญที่เกิดขึ้นตลอดปี 2008 ซึ่งนับว่าเป็นปีที่ทั้งน่าเศร้าและน่าดีใจที่สุดของจีน นั่นก็คือเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่มณฑล เสฉวน ซึ่งเป็นโศกนาฏกรรมครั้งร้ายแรงที่สุดของจีน มีผู้เสียชีวิตเฉียดแสนคน ซึ่งปัจจุบันยังบูรณะซ่อมแซมอยู่ กับอีกเหตุการณ์ที่จีนทำให้ทั่วโลกตะลึง ด้วยการจัดกีฬาโอลิมปิก 2008 ที่ยิ่งใหญ่และประสบความสำเร็จอย่างยิ่ง
ภาพเหตุการณ์ทั้งหมดยังตราตรึงอยู่ในหัวใจคนจีนไม่เลือนหาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งความสูญเสียที่มณฑลเสฉวน แต่ละภาพดูทีไร ก็เรียกน้ำตาให้รื้นไหลได้ทุกครา โดยเฉพาะภาพกำปั้นของเด็กที่โผล่ออกมาจากซากปรักหักพัง และภาพทะเลคนที่ชูร่างเด็กที่ไร้ชีวิตเคลื่อนออกมาจากที่เกิดเหตุ
ถัดจากมุมแสดงภาพเป็นห้างสรรพสินค้าที่มีหอนาฬิกาทรงยุโรป ที่ตีบอกเวลาตลอดทุกชั่วโมง ตรงนี้เป็นจุดที่นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่หยุดเพื่อถ่ายภาพเป็นที่ระลึก
ส่วนผมเดินเลยไปยังจุดหมายที่ตั้งใจไว้ นั่นก็คือ ร้านหนังสือ Beijing Foreign Languages Bookstore ซึ่งเป็นร้านเดียวในปักกิ่งที่รวมหนังสือภาษาต่างประเทศไว้มากที่สุด มากกว่าร้านแรก ที่เน้นหนังสือจีน ซึ่งเมื่อถึงเวลาที่ผมสามารถอ่านออกได้อย่างคล่งแคล่ว ร้านนั้นก็จะกลายเป็นร้านประจำของผมในอนาคต
1 2 3 4 5
|