ในปัจจุบันส่วนที่เป็นโซนร้านค้าในอาคารแบบโบราณก็ยังคงมีอยู่ ซึ่งซ่อนตัวอยู่ตรงกลางของหมู่ห้างสรรพสินค้าสมัยใหม่ทั้งหลาย มีลักษณะเป็นซือเหอย่วน มี่ลานตรงกลางขนาดใหญ่
ที่จอดรถชัตเทิลบัสและร้านขายตั๋วเครื่องบิน บรรยากาศภายในร้านหนังสือ
นอกจากประวัติศาสตร์ด้านการค้าแล้ว ซีตานยังเคยเป็นที่แสดงการเคลื่อนไหวของพลังประชาชนในการเรียกร้องประชาธิปไตยในช่วงปี 1979 กำแพงที่ทอดตัวอยู่ตามถนนซีตานเคยเป็นที่ติดโปสเตอร์ และหนังสือพิมพ์ซึ่งมีตัวอักษรเขียนด้วยลายมือขนาดใหญ่ ที่มักนำไปติดไว้ตามกำแพงและมีข้อความวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาล ที่เรียกว่า "ต้าจื้อเป้า" (Dazibao)
หลังจากนั้นก็ไม่มีเหตุการณ์ทางการเมืองอะไร มีแต่การพัฒนาในฐานะแหล่งรวมของห้างสรรพสินค้าสำคัญ อาทิ ห้างซีตาน ห้างจงหยู ห้างจอย ซิตี้ ห้างแกรนด์ แปซิฟิก และยังมีร้านค้าเก่าแก่ที่เปิดมาตั้งแต่สมัยก่อนอยู่ด้วย อาทิ ร้านกุ้ยเชียงชุน (Guixiangcun) ร้านรองเท้าว่านหลี่ ร้านขายชาหยวนฉางโฮ่ว (Yuanchanghou) เป็นต้น
ที่ซีตานกลายเป็นแหล่งรวมของเด็กแนว และคนฮิปๆ ของปักกิ่งนั้น เพราะที่ซีตานมีโรงภาพยนตร์ขนาดใหญ่ มีโรงโบว์ลิ่ง มีสินค้านานาชนิดที่นำสมัย และราคาไม่แพงเกินกำลังซื้อของเหล่าวัยรุ่น
โดยเฉพาะในห้างซีตานหมิงจูซื่อฉาง หรือ "ตลาดไข่มุกซีตาน" หรือ ที่วัยรุ่นปักกิ่งเรียกกันสั้นๆ ว่า "หมิงจู" นั้นเป็นแหล่งรวมของวัยรุ่นขนานแท้ เพราะแต่ละชั้นแบ่งตามประเภทสินค้าต่างๆ อย่างชัดเจน และมีให้เลือกมากมาย ทั้งเครื่องประดับกุ๊กกิ๊กน่ารัก อุปกรณ์เสริมความงาม พวกตุ๊กตาตัวเล็กๆ ที่เอามาห้อยกับเป้ได้ เสื้อผ้า และรองเท้า ทั้งหมดรวมอยู่ในห้างเดียว ทางเดินขนาดพอสวนกัน 2 คนสบายๆ กลายเป็นสวนกัน 5 คน ทุกซอกที่ซอกซอนไปจึงต้องเหมือนค่อยๆ ไหลไป จะหยุดดูของนานๆ ก็ต้องปักหลักดีๆ และการเดินชนกันนั้นเป็นเรื่องปกติ ถ้าใครถือเนื้อถือตัว และถูกเฉี่ยวชนไม่ได้ มาร้องลั่นห้างถามคนอื่นว่าตัวเองเป็นลูกใครที่นี่ รับรองว่าไม่มี่ใครสน ก็คนมากมายขนาดนี้ ไม่ชนกันก็คงเป็นเรื่องแปลก
ร้านขายหนังสือที่ใหญ่ที่สุดในปักกิ่ง
ฝูงชนบนสะพานทางข้ามไปห้างแกรนด์ แปซิฟิก
1 2 3 4 5
|