China Radio International
ข่าวภายใน
    ประเทศ
ข่าวต่างประเทศ
 ข่าวการเมืองและ
 การต่างประเทศ
 ข่าวเศรษฐกิจ
 ข่าววัฒนธรรม

 ข่าววิทยาศาสตร์
  เทคโนโลยี่

 ข่าวกีฬา
 ข่าวอื่น
วันที่ 13 พฤศจิกายน ปี ค.ศ.2009
อ่านต่อ>>

จีนปัจจุบัน

เศรษฐกิจ

พาเที่ยวจีน

วัฒนธรรม

ชนชาติส่วนน้อย

การเมือง
(GMT+08:00) 2009-07-10 16:08:56    
เปิดหู กับคอนเสิร์ตแจ๊ซประตูที่ 9 ใต้เงื้อมเงาพระราชวังต้องห้าม
รายการสถานีต่อไป

cri

คอนเสิร์ตที่จะไปดูในครั้งนี้มีชื่ออย่างเป็นทางการว่า "The 4th Beijing Ninegates International Jazz Festival" ซึ่งจัดเป็นประจำทุกปีในช่วงปลายฤดูใบไม้ผลิ และครั้งนี้เป็นครั้งที่ 4 มีวงดนตรีชั้นนำจาก 13 ประเทศ มาขับกล่อมเมืองปักกิ่งด้วยสำเนียงดนตรีแห่งอิสรภาพ โดยเปิดการแสดงระหว่างวันที่ 22-27 พฤษภาคมที่ผ่านมา

รอบที่ผมและเพื่อนไปดูนั้นเป็นคืนสุดท้าย ซึ่งผมดูจากประวัติและผลงานของแต่ละวงแล้ว ถือว่าไม่อาจพลาดได้ และผู้จัดก็ได้วางวงเหล่านี้ไว้ในวันสุดท้าย ก็ย่อมแสดงถึงความพิเศษ และฝีมือทางดนตรีว่าต้องเหนือชั้นกว่าวงในวันอื่นๆ

เราไปถึงหน้าประตูทางเข้าอย่างเฉียดฉิวเวลาเริ่มการแสดง แต่ตอนนั้นทั้งชาวปักกิ่งและชาวต่างชาติผู้มีใจรักดนตรีแจ๊ซทั้งหลายก็เพิ่งมาถึงก่อนเราไม่นานเช่นกัน เพราะยังเห็นยืนเลือกซื้อเสื้อยืด หมวก และกระเป๋าที่มีลายสกรีนเป็นชื่องานอยู่อย่างเนืองแน่น บ้างก็ยืนจับกลุ่มสูบบุหรี่คุยกันอยู่ที่บริเวณก่อนทางเข้า

Moreno Donadel หัวหน้าวง

บรรยากาศเช่นนี้ทำให้นึกถึงคอนเสิร์ตแจ๊ซที่สนามเสือป่า ที่จัดกลางแจ้งกลั้วอากาศของหน้าหนาวเมืองไทยเป็นอย่างยิ่ง และทุกปีก็จัดวงดังๆ มาลงไม่แพ้กับที่ปักกิ่งเลย บางปีก็เชิญวงใหญ่อย่าง "โฟร์เพลย์" มาเล่นได้ ซึ่งตอนอยู่เมืองไทยนั้น ผมก็แทบจะไม่เคยพลาดเลยสักปี และพอทราบข่าวว่าที่ปักกิ่งมีคอนเสิร์ตแจ๊ซด้วยก็รีบจองบัตรมาชมทันที

วงแรกที่เดการแสดงในวันนั้นคือ วงโมเรโน โดนาเดล ทรีโอ (Moreno Donadel Trio) ซึ่งประกอบด้วยเปียโน เบสไฟฟ้า และกลอง โดยมีเพียงโมเรโนเท่านั้นที่เป็นชาวต่างชาติ ที่เหลือนั้นเป็นชาวจีนทั้งสองคน ซึ่งโมเรโนผู้เป็นหัวหน้าวงนั้นอยู่ที่ปักกิ่งมากว่า 10 ปี เขาจึงพูดกับผู้ฟังได้ทั้งภาษาอังกฤษและภาษาจีน ซึ่งผมก็ยังฟังไม่ค่อยคล่องทั้งสองภาษา ต่อเมื่อเขาเริ่มบรรเลงเพลงโน้ตตัวแรกขึ้นมานั่นเอง ผมจึงได้เข้าใจภาษาดนตรีของเขาขึ้นมาบ้าง

เพลงแรกเปิดฉากด้วยเปียโน และเป็นพระเอกตลอดเพลง แต่ก็มีลูกโซโลของเบส และกลอง ตามธรรมเนียมของการเล่นเพลงแจ๊ซ และมีจังหวะการล้อกันระหว่างกลองกับเปียโน ที่เรียกว่าภาษาแจ๊ซ หรือ Jazz Talk อย่างสนุกสนาน ซึ่งลีลาการสะบัดไม้กลองถี่ยิบ และสีหน้าที่ได้อารมณ์ของมือกลองดูเหมือนจะดึงดูดความสนใจของผู้ชมได้ทั้งโรงเลยทีเดียว ทุกครั้งที่เขาจบการโซโล่จะได้รับเสียงปรบมือกึกก้องอย่างปลาบปลื้ม

 ความพิเศษของวงนี้ คือ การเล่นแจ๊ซในสำเนียงลาติน ซึ่งได้มีแซกโซโฟน ทรัมเป็ด และกลองทอม เข้ามาร่วมแจมในช่วงนี้ด้วย ยิ่งวงมีเครื่องดนตรีมากชิ้น ก็ยิ่งมีการแลกหมัดโซโลกันอย่างเมามัน เรียกจังหวะโยกไหล่และศีรษะให้กับผู้ฟังได้อย่างครึกครื้นทีเดียวเชียว เพราะอินไปกับอารมณ์เพลงในสไตล์ลาตินที่เต็มไปด้วยความสนุกสนานร่าเริง

1 2 3 4 5 6