China Radio International
ข่าวภายใน
    ประเทศ
ข่าวต่างประเทศ
 ข่าวการเมืองและ
 การต่างประเทศ
 ข่าวเศรษฐกิจ
 ข่าววัฒนธรรม

 ข่าววิทยาศาสตร์
  เทคโนโลยี่

 ข่าวกีฬา
 ข่าวอื่น
วันที่ 13 พฤศจิกายน ปี ค.ศ.2009
อ่านต่อ>>

จีนปัจจุบัน

เศรษฐกิจ

พาเที่ยวจีน

วัฒนธรรม

ชนชาติส่วนน้อย

การเมือง
(GMT+08:00) 2009-07-21 15:25:41    
นั่งรถไฟไปดูหนังอินโดฯ ที่แหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ของกรุงปักกิ่ง
รายการสถานีต่อไป

cri

แต่อุปสรรคเรื่องความยากจน ก็ไม่สามารถขัดขวางใจที่ใฝ่เรียนรู้ได้ เด็กทั้ง 10 คนต่างตั้งใจเรียน แม้โรงเรียนอื่นจะเรียนวิชาคณิตศาสตร์ด้วยเครื่องคิดเลข พวกเขากลับต้องใช้ท่อนไม้มาหัดทดเลข แต่โชคของพวกเขาก็ยังมีบ้าง เพราะมีลินตัง (Lintang) นักเรียคนแรกที่มาสมัครเรียน ซึ่งบ้านฐานะยากจนมาก และบ้านอยู่ไกล แต่เขาก็มาเรียนไม่เคยขาด ซึ่งปรากฏในภายหลังว่าเขาเป็นอัจฉริยะทางคณิตศาสตร์

    

                           โซลาน่า                       น้ำพุสวยกลางลาน

แม้การประกวดพาเหรด โรงเรียนจากมีวงโยธวาทิตที่มีอุปกรณ์ครบครัน แต่ด้วยจินตนาการของมหาร์ (MaHar) ผู้เป็นศิลปินใหญ่ในกลุ่มเพื่อน ที่พกวิทยุทรานซิสเตอร์ติดตัวตลอดเวลา และชอบฟังเพลงแจ๊ซ เป็นคนคิดการแสดงพาเหรด ซึ่งเขาได้ประยุกต์การเต้นของชนเผ่าดั้งเดิมของเกาะ และแต่งกายด้วยใบไม้เท่าที่หาได้ บวกกับความตั้งใจสามัคคีของทุกคน ทำให้ชนะใจกรรมการ และชาวบ้านทุกคน รวมทั้งเด็กหญิงที่มีฐานะดีคนหนึ่ง ถึงกับย้ายมาเรียนที่โรงเรียนจะพังมิพังแหล่ของพวกเขาด้วย เพราะชื่นชมในความคิดสร้างสรรค์

สีสันของเรื่องนี้อยู่ที่ตัวแสดงหลักซึ่งเป็นผู้เล่าเรื่อง เพราะเป็นคนที่เป็นหนุ่มเร็วที่สุดในกลุ่มเพื่อน เพราะเริ่มมีความรักกับลูกสาวเจ้าของร้านขายของจิปาถะ ที่เขามักได้รับหน้าที่ให้ไปเอาชอล์กจากร้านนนี้เป็นประจำ แล้วเขาก็ได้พบกับอาหลิง (A Ling) เด็กสาวรุ่นราวคราวเดียวกัน แต่สูงกว่าเขามาก และเป็นชาวอินโดนีเซียเชื้อสายจีน ทำให้เรียดรอยยิ้มได้ จากอารมณ์รักแบบเด็กๆ ที่เห็นแค่มือของคนที่ตนเองแอบรักก็มีความสุขแล้ว

             ฉากแรกของภาพยนตร์                           โฉมหน้านักแสดงเด็ก

เด็กทั้ง 10 คนในเรื่องนี้แสดงได้อย่างสมบทบาท ไม่แอ็กติ้งแข็งทื่อให้น่ารำคาญ เพราะเป็นไปตามธรรมชาติยิ่ง ซึ่งเพื่อนชาวอินโดนีเซียก็บอกเองว่า ภาพยนตร์เรื่องนี้ทุกคนแสดงได้ดีมาก เพราะปกติแล้วดาราของอินโดนีเซียจะแสดงได้ไม่ดีเท่านี้

ภาพยนตร์เรื่องนี้ นอกจากจะฉายภาพของการใฝ่ศึกษาของคนระดับล่าง ผ่านมิตรภาพใสๆ ของเด็กๆ แล้ว ยังสอดแทรกคำปฏิญาณที่เด็กทุกคนต้องท่องไว้ด้วย ยิ่งทำให้คนที่ผ่านวัยเด็กไปแล้วยิ่งหวนหาอดีต และซาบซึ้งไปกับวีรกรรมของเด็กเหล่านี้มากยิ่งขึ้น

คำปฏิญาณนั้นมี 5 ข้อ เรียกเป็นภาษาอินโดนีเซียว่า ปันกาสิลา (Pancasila) แปลคร่าวๆ ได้ว่า 1. จงเชื่อในพระเจ้าเพียงองค์เดียว 2. มีความยุติธรรมและมีมนุษยธรรม 3. ประเทศอินโดนีเซียเป็นหนึ่งเดียว 4. ประชาธิปไตยเป็นที่ยอมรับโดยเอกฉันท์ โดยการไตร่ตรองของตัวแทน และ 5. ทั่วทั้งสังคมล้วนเพื่อนประชาชนชาวอินโดนีเซีย

1 2 3 4 5