สวัสดีครับท่านผู้ฟังรายการทางสถานีวิทยุซีอาร์ไอ สัปดาห์นี้ผมจะพาท่านไปเดินเล่นในสวนสาธารณะปาต้าชู่กันต่อนะครับ

สัปดาห์ที่แล้ว ผมได้เล่าถึงวิธีการเดินทาง ความน่าสนใจของสถาพแวดล้อมโดยรอบไปแล้ว พร้อมทั้งแนะนำวัดหลิงกวง ซึ่งเป็นหน้าด่าน และสำคัญที่สุดของจำนวนวัดทั้งหมดที่เราจะไปกราบนมัสการให้ครบ

วัดฉางอาน

การมาท่องเที่ยวที่สวนสาธารณะปาต้าชู่นั้นจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีเวลาอย่างน้อยก็ครึ่งวัน เพราะแต่ละวัดนั้นตั้งอยู่ห่างกันบนเทือกเขาสามลูก โดยมีวัดหลิงกวงอยู่ตรงกลาง และที่สำคัญต้องมีกำลังขาที่แข็งแรงพอสมควร

แต่ก็มีวิธีประหยัดแรง และร่นเวลาได้ โดยการนั่งกระเช้าไฟฟ้าขึ้นไปยังยอดเขา จากนั้นจึงค่อยๆ เดินลงมายังวัดต่างๆ ซึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมา ผมได้กลับไปที่ปาตาชู่อีกครั้ง เพื่อทดลองดูว่าต้องใช้เวลาเท่าไหร่ และเหนื่อยขนาดไหน เพื่อที่จะได้มาเล่าให้ทุกท่านฟังอย่างถูกต้อง

                  องครักษ์ฮา                         องครักษ์เฮิง

ขอให้จินตนาการตามนะครับว่า วัดหลิงกวงนั้นเป็นหลักอยู่ตรงกลาง แต่ผมจะยังไม่แวะ แต่จะเดินไปทางทิศตะวันออก เพื่อไปยังวัดเจิ้งกั่ว (Zhengguo) ซึ่งตั้งอยู่โดดเดี่ยวเสียก่อน เส้นทางที่เดินขึ้นไปนั้นลาดชัดเล็กน้อย แต่ก็ร่มรื่นไปด้วยแมกไม้ ตามรายทางมีหย่อมใต้ร่วมไม้ พร้อมเก้าอี้ไว้ให้ผู้ที่เหน็ดเหนื่อยนั่งพัก บนถนนสายนี้ท่านจะไม่ได้ยินเสียงอะไรเลยนอกจากเสียงธรรมชาติ ซึ่งในฤดูร้อนเช่นนี้ จักจั่นก็จะพากันระเบงเสียงก้องไปทั้งผืนป่า และได้เสียงยอดไม้ที่เสียดสีกันเพราะสายลมโบกโบย นอกจะรู้สึกว่าหายใจโล่งชุ่มชื่นไปทั้งปอดแล้ว ยังรู้สึกโล่งหูเพราะปราศจากเสียงรบกวนจากยวดยาน และยังโล่งตา เพราะสีเขียวสดของหมู่ไม้ที่รายรอบ