• กู่ลั่งหยู่ (เกาะกู่ลั่ง)

กู่ลั่งหยู่คือเกาะเล็กๆ อันเงียบสงบและสวยงามมากแห่งหนึ่ง  เกาะกู่ลั่งมีเอกลักษณ์ที่โดดเด่น สถาปัตยกรรมเป็นการผสมผสานกันระหว่างสไตล์จีนและตะวันตก และก็มีสถาปัตยกรรมสไตล์หมิ่นหนาน (ฮกเกี้ยน) ที่นี่จะได้พบเห็นสถานกงสุลแบบดั้งเดิมของชาวตะวันตก สไตล์ยุโรปในยุคศตวรรษที่ 19 จำนวนมาก   และเนื่องจากบนเกาะแห่งนี้มีสถาปัตยกรรมหลากหลายรูปแบบ จึงได้ชื่อว่าเป็นสถานที่แห่งนิทรรศการสถาปัตยกรรม  นอกจากนี้ที่นี่ยังเป็นแหล่งรวมความพิเศษต่างๆ ของร้านอาหารและร้านค้าที่เต็มเปี่ยมไปด้วยรูปแบบทางศิลปะ  ในปี 2017 เกาะกู่ลั่งได้ขึ้นบัญชีเป็นมรดกโลกอันดับที่ 52 อีกด้วย แบบนี้ไม่ไปไม่ได้แล้ว

2. มหาวิทยาลัยเซี่ยเหมิน

มหาวิทยาลัยเซี่ยเหมินเป็นหนึ่งในมหาวิทยาลัยที่สวยที่สุดของจีน  ภายในเต็มไปด้วยต้นไม้เขียวขจี  ทั้งการเดินเล่นเอกเขนกหรือการนั่งอ่านหนังสือใต้ร่มเงาไม้ใหญ่ก็ทำให้คุณรู้สึกสบายๆ ได้ทั้งสิ้น  สถานที่ที่ห้ามพลาดชมภายในมหาวิทยาลัยแห่งนี้ก็คือ ทะเลสาบฝูหรง  หุบเขาคนรัก สนามกีฬาซ่างเสียน และอุโมงค์ฝูหรง  ในบรรดาสถานที่เหล่านี้ อุโมงค์ฝูหรงมีชื่อเสียงดังที่สุด  มีคนยกให้สถานที่นี้เป็นอุโมงค์ศิลปะวัฒนธรรมที่เยี่ยมที่สุดของจีน  ตลอดเส้นทางในอุโมงค์แห่งนี้เต็มไปด้วยข้อความต่างๆ มากมาย ซึ่งศิษย์มหาวิทยาลัยเซี่ยเหมินทั้งหลายแต่งแต้มจารึกไว้กันเองกับมือ

• เฉิงชั่วอั่น

เฉิงชั่วอั่นคือหมู่บ้านชาวประมงติดทะเลที่เรียบง่ายแห่งหนึ่ง  ปัจจุบันได้กลายเป็นหมู่บ้านทางวัฒนธรรมและความคิดสร้างสรรค์ที่มีชื่อเสียง  ที่นี่คุณสามารถนั่งชงชา บนเก้าอี้ไม้เก่าแก่ บนศีรษะมีต้นไม้ผลที่มีแสงแดดสาดส่องทะลุลงมา ปลายจมูกได้กลิ่นเค็มๆ ของลมทะเลที่โชยมา  หลีกหนีชีวิตที่วุ่นวายในเมืองมาสู่ความสงบสบายเช่นนี้ได้ที่นี่

4. ถนนรอบเกาะ

ถนนรอบเกาะสายนี้สร้างตามแนวทะเล  ตลอดเส้นทางมีจุดชมวิวหลายจุด  เป็นสถานที่ที่ใครมาเมืองเซี่ยเหมินต้องมาเยือน การเดินบนทางเดินไม้ มีหาดทรายอยู่ใกล้ๆ มองไปยังน้ำทะเลที่อยู่ไกลๆ และชมพระอาทิตย์ขึ้นและตก วิวทะเลเช่นนี้ทำให้คนไม่อยากจะขยับเท้าไปไหน  หรือใครที่ชอบออกกำลังหน่อย ก็สามารถเช่ารถจักรยานขี่เล่น กินลมทะเลชิลๆ ฮ่า...ไม่มีอะไรน่าหลงใหลเท่านี้อีกแล้ว!