ปีนี้ธุรกิจการท่องเที่ยวของประเทศไทยกำลังฟื้นตัว จากสถานการณ์โควิด-19 ที่คลี่คลาย และจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางมาท่องเที่ยวประเทศไทย รวมถึงนักท่องเที่ยวจากประเทศจีนที่คาดว่า จะมาเที่ยวประเทศไทยอย่างคึกคัก หลังจากจีนมีการผ่อนคลายมาตรการโควิด-19 ด้วยการยกเลิกมาตรการกักตัวผู้ที่เดินทางจากต่างประเทศ ตั้งแต่วันที่ 8 มกราคม 2566 เป็นต้นไป
โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยคาดว่า ในปี 2566 นี้ จะมีนักท่องเที่ยวจีนเดินทางมาท่องเที่ยวประเทศไทยมากกว่า 5 ล้านคน เฉพาะในช่วงไตรมาสแรก ตั้งแต่เดือนมกราคมถึงเดือนมีนาคมนี้ น่าจะมีจำนวนนักท่องเที่ยวจีนประมาณ 300,000 คน
การกลับมาของนักท่องเที่ยวจีนหลังจีนผ่อนคลายมาตรการโควิด-19 ทำให้ประเทศไทยมีการเตรียมความพร้อมเรื่องการอำนวยความสะดวกด้านการท่องเที่ยวควบคู่กับการเตรียมความพร้อมด้านสาธารณสุข
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงมาตรการรับนักท่องเที่ยวว่า ประเทศไทยมีความพร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวทุกมิติ ยึดหลักปฏิบัติเท่าเทียมกันทุกชาติ และเป็นไปตามมาตรฐานวิชาการ
มาตรการสำคัญในการรับนักท่องเที่ยว ได้แก่
- กำหนดให้นักท่องเที่ยวทำประกันสุขภาพก่อนเข้าประเทศ
- ให้นักท่องเที่ยวที่จะเข้าไทยแสดงหลักฐานการฉีดวัคซีนโควิด-19 อย่างน้อย 2 เข็ม
- ระหว่างท่องเที่ยวในประเทศไทย แนะนำให้พักโรงแรม SHA+ ที่มีบริการตรวจหาเชื้อโควิด-19 เพื่อรับการตรวจ RT-PCR ก่อนออกจากประเทศไทย
- มีการตั้งศูนย์ประสานงานร่วมเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยว
- สุ่มตรวจนักท่องเที่ยวที่สนามบิน โดยไม่ได้มีเป้าหมายประเทศใดประเทศหนึ่งโดยเฉพาะ
- มีการตรวจเฝ้าระวังเชื้อไวรัสกลายพันธุ์จากน้ำเสียบนเครื่องบิน
- จัดวัคซีนเข็มกระตุ้นให้กับผู้ขับรถสาธารณะ
- ในส่วนของกรุงเทพมหานคร ให้สำนักเขตทั้ง 50 เขต เก็บข้อมูลนักท่องเที่ยว และประสานกับสถานประกอบการใช้มาตรฐาน SHA+ ที่รัดกุม
- วันที่ 12 มกราคม 2566 กระทรวงคมนาคม กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงสาธารณสุข จะร่วมกันตรวจความพร้อมรับนักท่องเที่ยว ที่สนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิ
นอกจากการเตรียมพร้อมของภาคการท่องเที่ยวแล้ว ยังมีการเตรียมพร้อมเรื่องระบบสาธารณสุข ที่ภาครัฐยืนยันว่า ระบบสาธารณสุขของไทยสามารถรองรับนักท่องเที่ยวได้ รวมถึงการให้ข้อมูลเกี่ยวกับการระบาดของโควิด-19 ในเชิงวิชาการ
จากที่มีข้อสังเกตว่า ในประเทศจีนยังมีโควิด-19 ระบาด และนักท่องเที่ยวจีนอาจนำเชื้อโควิด-19 มาแพร่ในประเทศไทย เรื่องนี้นายแพทย์ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย อธิบายว่า
“การรับนักท่องเที่ยวชาวจีนไม่ได้น่ากลัวกว่าชาติอื่น เพราะสายพันธุ์ที่ระบาดในจีน คือ BA.5 เป็นสายพันธุ์ที่เคยระบาดในประเทศแล้ว ถ้ามาจากจีนไม่น่าวิตก ถ้าจะกลัวต้องกลัวสายพันธุ์ที่ยังไม่เคยระบาดในบ้านเรา การเกิดสายพันธุ์ใหม่เกิดที่ไหนก็ได้บนโลก แต่ทั่วโลกมีระบบการเฝ้าระวังด้วยการถอดรหัสพันธุกรรม เพื่อเฝ้าระวังอยู่แล้ว เมื่อยังไม่รู้ว่าสายพันธุ์ใหม่จะเกิดที่ประเทศใด ก็ไม่รู้จะไปป้องกันปิดกั้นชาติใด เพราะการป้องกันประเทศจีน ประเทศเดียวไม่ใช่เป็นวิธีการแก้ปัญหา อาจจะมาจากประเทศใดก็ได้”
นายแพทย์ยง ระบุด้วยว่า จากผลการศึกษา “ประชากรไทยติดเชื้อไปแล้ว 70 เปอร์เซ็นต์ หรือประมาณ 50 ล้านคน ถ้าตรวจภูมิต้านทานต่อเปลือกนอกไวรัส จะพบว่าร้อยละ 96 ของประชากรไทย มีภูมิต้านทานรับรู้แล้ว เกิดจากการฉีดวัคซีน และ/หรือการติดเชื้อร่วมด้วย และการระบาดของประเทศไทยกำลังอยู่ในขาลงตามฤดูกาล”
ดังนั้น คนไทยไม่จำเป็นต้องวิตกต่อนักท่องเที่ยวจำนวนมากที่จะเดินทางมาท่องเที่ยวประเทศไทย เพราะไทยใช้หลักการอยู่ร่วมกับโควิด-19 และใช้แนวทางด้านสาธารณสุขและการขับเคลื่อนเศรษฐกิจควบคู่กันในการบริหารจัดการการท่องเที่ยว
นักท่องเที่ยวที่จะเดินทางมาท่องเที่ยวประเทศไทยเพิ่มมากขึ้นในปีนี้ ภายใต้มาตรการด้านสาธารณสุขที่รัดกุม และมาตรการด้านการท่องเที่ยวที่ชัดเจน จึงถือเป็นสัญญาณที่ดีของการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยว ที่คนไทยตั้งตารอมานานกว่า 3 ปี
บทความ : ประวีณมัย บ่ายคล้อย