ปี 1992  นายสี จิ้นผิง ซึ่งขณะนั้นเป็นเลขาธิการคณะกรรมการพรรคเทศบาลเมืองฝูโจว เป็นประธานในการจัดทำ "วิสัยทัศน์เชิงกลยุทธ์การพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมเมืองฝูโจว 20 ปี" หรืออีกชื่อหนึ่งว่าโครงการยุทธศาสตร์ "3820" มีเนื้อหาสำหรับการก่อสร้างเมือง การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม การพัฒนาวัฒนธรรมและการศึกษา เป็นต้น  แต่มีหัวใจหลักคือ "ถือประชาชนเป็นศูนย์กลาง" อยู่ในโครงการนี้

ในเขตชุมชนชางเสีย เมืองฝูโจว เรื่องราว "การเยี่ยมเยือนเขตชุมชนชางเสียสามครั้ง" ของสหาย สี จิ้นผิง ได้รับการบอกเล่าแบบปากต่อปากมาจนถึงทุกวันนี้ เนื่องจากเป็นที่อยู่แบบชุมชนแออัด เป็นพื้นที่ยากจนเก่าแก่และเสื่อมโทรม  ซึ่งเป็นปัญหาที่แก้ไขยากมากตลอดเวลา เมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม ค.ศ. 2000 สหายสี จิ้นผิงซึ่งดำรงตำแหน่งผู้ว่าการมณฑลฝูเจี้ยนในขณะนั้น  ได้นำเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานต่างๆ เดินทางมาตรวจสอบที่นี่หลายครั้ง

“สหายสี จิ้นผิงมาที่บ้านของผม บ้านของเราอบอ้าวและร้อนมาก ในวันที่อากาศร้อนและอยู่ใกล้กับชาวบ้านเราเขาบอกว่า ปัญหาของประชาชนก็คือปัญหาของเขา” นายถัง ชิงว่าง  ชาวบ้านในเขตชุมชนชางเสีย เมืองฝูโจวเล่าเหตุการณ์ย้อนอดีต

ในวันเดียวกัน สหายสี จิ้นผิงยังได้จัดการประชุมสัมมนากับตัวแทนของผู้อยู่อาศัยเกี่ยวกับการปรับปรุงเขตนี้  เขากล่าวว่า: "โปรดส่งข้อความถึงทุกคนว่ารัฐบาลจะแก้ไขให้ดี" หลังจากนั้นไม่นานโครงการปรับปรุงเขตชุมชนชางเสียก็เริ่มขึ้น  ในช่วงเวลานั้นสหายสี จิ้นผิงไปถึงที่นั่นสองครั้งเพื่อเร่งงานปรับปรุง หนึ่งปีต่อมาผู้คนกว่า 3,400 ครัวเรือนสามารถย้ายเข้าไปอยู่บ้านใหม่ได้สำเร็จ

ในฐานะหนึ่งในเมืองที่มีระบบแม่น้ำมากที่สุดในจีน เมืองฝูโจวในช่วงต้นทศวรรษ 1990 ได้รับผลกระทบจากการปล่อยน้ำเสียจากโรงงานอุตสาหกรรมและครัวเรือน  ในเวลานั้นทุกคนมุ่งเน้นไปที่การพัฒนาเศรษฐกิจ และพวกเขาไม่รู้ว่าจะจัดการกับความสัมพันธ์ระหว่างการพัฒนาเศรษฐกิจและการคุ้มครองสิ่งแวดล้อมอย่างไร ในการประชุมงานคุ้มครองสิ่งแวดล้อมครั้งที่ 3 ของเมืองฝูโจว สหายสี จิ้นผิง ชี้ให้เห็นว่า: “ควรส่งเสริมให้พัฒนาเศรษฐกิจควบคู่ไปกับรักษาสิ่งแวดล้อม พฤติกรรมใด ๆ ที่สร้างความเสียหายต่อสิ่งแวดล้อมเพื่อผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจชั่วคราวนั้นไม่คุ้มค่ากับผลประโยชน์ที่ได้รับ"

เริ่มต้นจากโครงการยุทธศาสตร์ “3820” ฝูโจวได้ใช้ความพยายามในระยะยาว และส่งเสริมการพัฒนาแบบสีเขียวตลอด แม่น้ำภายใน 107 สายได้รับการปรับปรุงทีละสาย ทะเลสาบซีหูได้รับการปรับปรุงให้แล้วเสร็จ และสภาพแวดล้อมทางน้ำของลุ่มแม่น้ำหมิ่นเจียงก็ได้รับการปรับปรุงใหม่เช่นกัน ปัจจุบัน เมืองฝูโจวมีสวนสาธารณะมากกว่า 1,500 แห่ง และอัตราการครอบคลุมพื้นที่สีเขียวในเมืองมีกว่า 43%

โครงการเชิงยุทธศาสตร์ "3820" เน้นเรื่องการถือประชาชนเป็นศูนย์กลาง โดยได้นำประโยชน์ที่แท้จริงมาสู่ชาวเมืองฝูโจว รายได้หลังหักภาษี (Disposable Income) ต่อหัวของชาวเมืองเพิ่มขึ้นเป็น 58,009 หยวนในปี 2023 จาก 2,273 หยวนในปี 1992 และรายได้ต่อหัวของชาวชนบทก็เพิ่มขึ้นเป็น 28,636 หยวนในปี 2023 จาก 1,109 หยวนในปี 1992  ปัจจุบันถ้าเดินเล่นในเมืองฝูโจวสิ่งที่ทุกคนสามารถสัมผัสคือความมีชีวิตชีวาของเมือง และการใช้ชีวิตอย่างมีความสุขของประชาชน

Bo/Lei/Zi