นันทวัลย์ ศกุนตนาค:ก็จริงๆ แล้วนี้ เป็นโอกาสดีมากที่ประเทศจีนเห็นความสําคัญของการค้ากับอาเซียน และจัดงานเฉลิมฉลองการทํา FTA กับอาเซียนขึ้น โดยที่ปัจจุบันนี้ FTA คือด้านการลดภาษีสินค้านี้ ทํากันมาประมาณ 5 ปีแล้ว ทยอยลดมาเรื่อยๆ และก็มกราคมปีนี้ ภาษีของสินค้าประมาณ 90% ของทั้งหมดลดเป็น 0 แล้ว นอกจากนั้น ยังมีข้อตกลงด้านการค้าบริการ และการคุ้มครองการลงทุนด้วย ฉะนั้นก็จะเห็นว่า FTA ระหว่างอาเซียนกับจีนค่อนข้างจะครอบคลุมในทุกๆ ด้าน
ผู้สื่อข่าว:เมื่อพูดถึง FTA หรือการค้าเสรีระหว่างจีนกับอาเซียน ส่วนใหญ่ประเทศต่างๆ ในภูมิภาคเอเชียก็จะเน้นถึงผลิตผลการเกษตรมากกว่า ดูจากประวัติศาสตร์แล้ว การแลกเปลี่ยนด้านการค้าขายระหว่างจีนกับไทยก็มีสินค้าด้านการเกษตรแลกเปลี่ยนมากมาย ส่วนการเปิดเขตการค้าเสรีนี้ มีผลกระทบต่อผลิตผลการเกษตรของไทยอย่างไรบ้าง
นันทวัลย์ ศกุนตนาค:จริงๆ แล้ว FTA จะส่งผลให้การค้าระหว่างสองประเทศเพิ่มขึ้นมาก ส่วนที่เพิ่มมากและเร็วก็คือสินค้าอุตสาหกรรม ก็อย่างที่ทราบกันแล้วว่าสินค้าอุตสาหกรรมขยายโรงงานเมื่อไหร่ก็ได้เพิ่มปริมาณการผลิตเท่าไหร่ก็ได้ตามใจที่มีตลาด ฉะนั้นจะเห็นว่า จาก FTA นี้ มูลค่าการค้าระหว่างไทยกับจีนเพิ่มขึ้นเยอะมาก จากภายในช่วงเวลา 5 ปี จาก15,000 ล้านเหรีญสหรัฐฯ เป็นประมาณ 36,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นถึง 20,000 กว่าล้านภายใน 5 ปี ทีนี้ในจํานวนนี้ส่วนหนึ่งก็เป็นสินค้าเกษตร สินค้าเกษตรเองขยายตัวเยอะ เฉพาะผลไม้นี้ ไทยส่งมาประมาณ 150 กว่าล้านเหรียญสหรัฐฯ และก็จะนําเข้าจากจีนประมาณ 154 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ในปีที่ผ่านมา ฉะนั้นก็จริงๆ แล้ว ปริมาณไม่มาก จากหลายหมื่นล้านนี้ผักผลไม้เป็นหลักร้อยล้านเท่านั้น แต่ว่าข่าวมักจะมีเรื่องสินค้าเกษตร เพราะว่าเกี่ยวข้องกับเกษตรกร ซึ่งเป็นบุคคลสําคัญในประชากรส่วนที่สําคัญในทุกๆ ประเทศ รัฐบาลของทุกประเทศก็จะเป็นห่วง แต่ว่าใน FTA กับจีนนี้อย่างที่เรียนแล้วว่า ผลกระทบด้านสินค้าเกษตรนี้ ที่ว่ามีไม่มาก ในสื่อต่างๆ ก็อาจจะเห็นข่าวบ้างว่า ผลไม้จีนเข้ามาตีตลาดไทยจํานวนมาก แต่ว่าจริงๆ ถ้าเผื่อดูจากสถิติอย่างที่เมื่อกี้เล่าแล้วว่า ผลไม้ไทยเข้ามาในจีนปีหนึ่งประมาณ 150 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ผลไม้่จีนเข้าไปเมืองไทย 154 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ก็ใกล้เคียงกัน เพียงแต่ว่าอาจจะตลาดไทยเล็ก ก็จะมองเห็นว่าของจีนเต็มเลย แต่ว่าประเทศจีนกว้างใหญ่ไพศาล ไทยนี้ส่งผลไม้มาในจีนขณะนี้ประมาณ 30% ของที่ไทยส่งออกทั้งหมดแล้ว ก็คือตลาดจีนเปิดโอกาสให้กับผักผลไม้จากประเทศไทยค่อนข้างมาก เช่นเดียวกับที่ไทยซื้อจากจีน
ฟังจากที่คุณนันทวัลย์ ศกุนตนาค อธิบดีกรมเจรจาาการค้าระหว่างประเทศ กล่าวมาแล้ว ภาคเกษตรของไทยคงเกิดความมั่นใจมากขึ้น ว่าสินค้าเกษตรของจีนจะไม่เป็นฝ่ายบุกตลาดไทยอย่างเดียว เพราะสินค้าเกษตรไทยอย่างพืชผักและผลไม้เมืองร้อนก็มีโอกาสในตลาดจีนมาก เนื่องจากจำนวนประชากรที่มีกว่าพันล้านคน ประกอบกับขณะนี้ชาวจีนมีกำลังซื้อมากขึ้น และนิยมบริโภคผลไม้จากไทยมาก ผมเชื่อว่าถ้าสามารถรักษาคุณภาพของผลไม้ไทยที่ส่งออกมายังจีนให้มีคุณภาพดีสม่ำเสมอ ก็น่าจะมีอนาคตสดใสในจีน