1

จีนเป็นประเทศที่มีชนเผ่าต่างๆ 56 ชนเผ่า ชนเผ่าส่วนใหญ่ต่างมีประเพณีต้อนรับปีใหม่ประจำชนเผ่า นอกจากนั้น ยังมีอีกหลายชนเผ่า เช่น มองโกล แมนจู จ้วง ปู้อี ต้ง เหยา ไป๋ หลี น่าซี อี้ว์กู่ เป็นต้น ก็นิยมฉลองเทศกาลตรุษจีนเช่นเดียวกับชนเผ่าฮั่น แต่มีความแตกต่างกันในหลายๆ ด้าน อาทิ วิถีชีวิตความเป็นอยู่ อาหารการกิน รวมถึงประเพณีเฉลิมฉลองด้วย

ชนกลุ่มน้อยที่นิยมฉลองเทศกาลตรุษจีนต่างก็มีวิธีการฉลองที่มีเอกลักษณ์ของตน ยกตัวอย่างเช่น ชนเผ่าเหมียว หรือชนเผ่าม้งในอำเภอผิงเปียน มณฑลยูนนานจะรับประทานข้าวเหนียวที่ปรุงพิเศษเป็นสีสันสวยงาม โดยจะนำข้าวเหนียวดิบมาแช่ในสีที่ได้จากธรรมชาติ แล้วจึงนำไปนึ่ง เมื่อสุกก็จะกลายเป็นข้าวเหนียวสีสันพรรณราย

ชนเผ่าจ้วงในเขตปกครองตนเองชนเผ่าจ้วงกวางสี ในเช้าตรู่ของวันปีใหม่ หญิงสาวชาวจ้วงจะสวมเสื้อผ้าชุดใหม่ รองเท้าคู่ใหม่ แล้วพากันไปตักน้ำที่ลำธาร ซึ่งชาวจ้วงเรียกว่า "น้ำใหม่" พร้อมทั้งเก็บก้อนหินมา 6 ก้อน ซึ่งเป็นสัญลักษณ์แทนสัตว์เลี้ยง 6 ชนิดคือ วัว ม้า หมู แพะ สุนัข และแมว ขณะที่เดินกลับบ้านจะกู่ร้องเลียนเสียงสัตว์ทั้ง 6 ชนิด โดยเชื่อว่า เป็นการนำความสมบูรณ์พูนสุขมาสู่ครอบครัว เมื่อถึงบ้านจึงนำน้ำที่ได้ใส่น้ำตาลทรายแดง ใบไผ่ ต้นหอมซอย ขิง ต้มรวมกัน แล้วรับประทานร่วมกันในครอบครัว ชาวจ้วงเชื่อว่า น้ำใหม่เป็นสัญลักษณ์ของความมีสิริมงคล เชื่อกันว่าดื่มแล้วจะมีสติปัญญา ฉลาดหลักแหลม นอกจากนี้ประเพณีการดื่มน้ำจากลำธารแล้ว ชาวจ้วงยังมี ประเพณีรื่นเริง อาทิ การประกวดร้องเพลงและเต้นระบำพื้นเมือง ที่เรียกว่า ชุนถังอู่ ซึ่งเชื่อกันว่า หากเต้นชุนถังอู่จะทำให้พืชพันธ์ ธัญญาหารอุดมสมบูรณ์

ชนเผ่าไป๋ในอำเภอเฮ่อชิ่งมณฑลยูนนาน ก่อนวันปีใหม่ ชาวไป๋จะปักต้นสน 2 ต้นที่ลานบ้านตนเอง และปูลานบ้านด้วยใบสน ซึ่งหมายถึง ความสะอาด เพราะคำว่า ต้นสน การออกเสียงภาษจีนของต้นสนคือ ชิงซง มีเสียงพ้องกับคำที่มีความหมายว่า สะอาด ภาษาจีนเรียกว่า ชิงเจี๋ย เมื่อเสียงไก่ขันดังขึ้นในเช้าตรู่ของวันปีใหม่ หัวหน้าครอบครัวจะเอาถังน้ำไปตักน้ำที่ลำธารในป่า เรียกว่า "การตักน้ำแห่งฤดูใบไม้ผลิ" พอพระอาทิตย์โผล่พ้นขอบฟ้า เด็กผู้ชายก็จะตะโกนว่า "ไฉเหมิน"หมายความว่า "ประตูทรัพย์" แล้วเปิดประตูใหญ่ของบ้าน เกือบจะเป็นเวลาเดียวกับที่จุดประทัดเป็นสัญญาณว่า ปีใหม่ได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว วันนี้คนในครอบครัวก็จะกินขนมที่ทำจากข้าวเจ้าเรียกว่า "หมี่เกา" หลังจากรับประทานอาหารเช้าแล้ว ผู้เฒ่าผู้แก่ก็จะอวยพรแก่เด็ก และพาไปเที่ยวตามป่าเขาลำเนาไพร

ส่วนชนเผ่าไป๋ที่เมืองต้าหลี่ของมณฑลยูนนานจะต้อนรับแขก ด้วย "ซันเต้าฉา" ซึ่งมีความหมายถึงปรัชญาการดำรงชีวิต ที่มีทั้ง รสหวาน ขม และระลึกถึง โดยใช้ชา 3 จอกเป็นตัวแทน ซึ่งเป็นประเพณีดั้งเดิมของชนเผ่านี้

ในช่วงเทศกาลตรุษจีน ชนเผ่าลี่ซู่ หรือ ลีซอในอำเภอเถิงชง มณฑลยูนนาน จะมีการแสดงต่างๆ เช่น เดินบนมีด หรือ เดินบนขี้เถ้าร้อนๆ 5-10 วินาที ทั้งนี้เพื่อเป็นการแสดงออกถึงความเข้มแข็ง กล้าหาญ

เทศกาลตรุษจีนของชนเผ่าน่าซีที่เมืองลี่เจียงมณฑลยูนนาน จะเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 จนถึงวันที่ 15 เดือนอ้าย วันที่ 1 ชาวน่าซีจะรับประทานอาหารเจและไปเซ่นไหว้บรรพบุรุษที่สุสาน วันที่ 2 ไปอวยพรปีใหม่เพื่อนบ้านและญาติสนิทมิตรสหาย ตั้งแต่วันที่ 3 เป็นต้นไป ทำพิธีบวงสรวงเทวดา ทุกปีแต่ละครอบครัวจะสลับกันเป็นเจ้าภาพ ขอเทวดาดลบันดาลให้พืชผลอุดมสมบูรณ์ คนและสัตว์เลี้ยงอยู่รอด ปลอดภัย นอกจากนี้ยังมีพิธียิงธนู ในแต่ละหมู่บ้านยังมีการทำชิงช้า เพื่อนหนุ่มสาวจะได้มานั่งเล่น โดยมีข้อแม้ว่า หน้าที่ทำชิงช้าจะเป็นของคู่บ่าวสาวที่แต่งงานกันในปีนั้น เพื่อความสิริมงคลว่า ผู้ที่มานั่งจู๋จี๋กันก็จะสมหวังในความรักเฉกเช่นเดียวกับเจ้าบ่าวเจ้าสาวที่เป็นคนทำ โดยผู้ชายหรือเจ้าบ่าวเป็นคนไปแบกไม้มาทำโครง ส่วนเจ้าสาวก็มีหน้าที่ผูกเชือก และจากความเชื่อของชนเผ่าน่าซีที่ว่า สุนัขเป็นสัตว์ที่นำพืช 5 ชนิดได้แก่ ข้าว ข้าวโพด ข้าวบาเลย์ ถั่ว และจี้(ธัญญาพืชชนิดหนึ่ง) ซึ่งถือว่าเป็นต้นกำเนิดของพืช นานาชนิดมาให้มนุษย์ ดังนั้น ชนเผ่าน่าซีจึงนำข้าวสารมาเลี้ยงสุนัข ด้วย

ชนเผ่าเกอเหล่าในตอนกลางของตะวันตกและทางใต้ของมณฑลกุ้ยโจว ในช่วงเทศกาลปีใหม่ พวกเขาจะทำเหล้า ฆ่าหมู ฆ่าไก่ ทำเต้าหู้ และขนมจ้างที่ทำจากข้าวเหนียว โดยจะทำขนมจ้างชิ้นใหญ่มากหนึ่งชิ้นเพื่อใช้เซ่นไหว้บรรพบุรุษ และจะวางไว้โดยไม่แตะต้องขนมชิ้นนี้เลยเป็นเวลา 3 วัน ช่วงเทศกาลก็มีกิจกรรมบันเทิง ร้องเพลงพื้นเมือง เป็นต้น

（Dai）