เมื่อวันที่ 8 กรกฎาคมที่ผ่านมา องค์การ การศึกษา วิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ หรือยูเนสโกจัดการประชุมคณะกรรมการมรดกโลกสมัยสามัญครั้งที่ 41 ที่เมืองกรากูฟของโปแลนด์ ที่ประชุมได้พิจารณาอนุมัติให้ "เกาะกู่ลั่งอี่ว์" มณฑลฝูเจี้ยนของจีนเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรม ในขณะที่วันก่อน คือ เมื่อวันที่ 7 กรกฎาคมที่ผ่านมา ที่ประชุมดังกล่าวได้พิจารณาอนุมัติให้เขตอนุรักษ์ธรรมชาติ "เข่อเข่อซีหลี่" มณฑลชิงไห่เป็นมรดกโลกทางธรรมชาติ ทำให้ปัจจุบัน จีนมีมรดกโลกรวมแล้วถึง 52 แห่ง ซึ่งมีมากเป็นอันดับหนึ่งของโลก
สำหรับเกาะกู่ลั่งอี่ว์นั้น คณะกรรมการโบราณสถานและโบราณวัตถุโลกให้เหตุผลว่า "เกาะกู่ลั่งอี่ว์"แสดงให้เห็นการแลกเปลี่ยนและผสมผสานระหว่างค่านิยมหลายอย่างในสมัยแรกเริ่มที่เกิดกระแสโลกาภิวัฒน์ทางเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชีย รูปแบบสถาปัตยกรรมมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว สะท้อนให้เห็นการผสมผสานทางสถาปัตยกรรม ขนบธรรมเนียมประเพณีและวัฒนธรรมระหว่างจีน ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และยุโรป การผสมผสานดังกล่าวเป็นผลที่เกิดจากความหลากหลายทางวัฒนธรรมของคนต่างด้าวและชาวจีนโพ้นทะเลที่กลับสู่บ้านเกิดบนเกาะแห่งนี้ จึงได้ก่อรูปเป็นสถาปัตยกรรมรูปแบบใหม่ นั่นก็คือ "รูปแบบการตกแต่งสไตล์เซี่ยเหมิน"
เกาะกูลั่งอี่ว์ (Gulangyu Island)มีพื้นที่เพียง 1.88 ตารางกิโลเมตร ตั้งอยู่ฝั่งตรงข้ามของเมืองเซี่ยเหมิน โดยมีแม่น้ำลู่เหอกั้นอยู่ และมีระยะทาง 600 เมตร เดินทางโดยเรือข้ามฟากใช้เวลาเพียง 5 นาทีเท่านั้น บนเกาะจะไม่อนุญาตให้มียานพาหนะใดๆ ทั้งสิ้น ดังนั้น การเดินทางบนเกาะ จึงต้องใช้การเดินเท้าอย่างเดียว
ชื่อเกาะกู่ลั่งอี่ว์ มีที่มามาจากการกระทบของน้ำกับหิน คือเมื่อน้ำกระทบหินแล้วจะเกิดเสียงดังเหมือนกับตีกลอง สำหรับจุดท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงบนเกาะได้แก่ รึกวงเหยียน(Sunlight Rock) ซึ่งเป็นจุดที่สูงที่สุดของเกาะ ตั้งอยู่บนเขาหัวมังกร (Tiger Head Hill) หรืหลงโถวซาน ซึ่งตั้งอยู่ทางตะวันออกของชายหาด เมื่อพระอาทิตย์ขึ้นทางทิศตะวันออก แสงอาทิตย์จะตกกระทบที่ก้อนหินดังกล่าว จึงเป็นที่มาของชื่อ Sunlight Rock และเมื่อยืนอยู่ ณ จุดนี้ จะมองเห็นทัศนียภาพที่สวยที่สุดของเกาะกู่ลั่งอี่ว์
กู่ลั่งอี่ว์ เป็นเกาะที่ได้รับสมญานามว่า เกาะดนตรี เนื่องจากผู้คนที่อาศัยอยู่บนเกาะนี้ นิยมชมชอบดนตรีเป็นชีวิตจิตใจ โดยเฉพาะเปียโน จะเป็นเครื่องดนตรีที่คนบนเกาะนี้โปรดปรานเป็นที่สุด ซึ่งจะเห็นได้จาก 3 ใน 4 ของบ้านบนเกาะนี้ จะมีเปียโนไว้เล่น นอกจากนี้ บนเกาะยังมีพิพธภัณฑ์เปียโน จัดแสดงเปียโนจากอดีตจนถึงปัจจุบัน โดยมีพื้นที่ประมาณ 2,000 ตารางเมตร เริ่มเปิดตั้งแต่ปี 2000 เป็นพิพิธภัณฑ์เฉพาะกิจแต่เพียงแห่งเดียวในโลกที่จัดแสดงเปียโนจากประเทศต่างๆ ทั่วโลก นอกจากการจัดแสดงเปียโนประเภทต่างๆ แล้ว ภายในพิพิธภัณฑ์ยังตกแต่งด้วยภาพเขียนและภาพถ่ายของนักเปียโนผู้มีชื่อเสียงของจีนและของโลกด้วย จึงกล่าวได้ว่า พิพิธภัณฑ์เปียโนแห่งนี้ เป็นทั้งแหล่งรวมทางวัฒนธรรมเปียโนและแหล่งข้อมูลของนักดนตรีอีกด้วย
DAI