การประชุมผู้นําเอเซียตะวันออกของปีนี้ได้จัดขึ้นภายใต้ภูมิหลังที่ประเทศเอเซียตะวันออกรักษาแนวโน้มความร่วมมือ รับมือกับวิกฤตการเงินโลกอย่างแข็งขัน นายกรัฐมนตีรเวิน เจียเป่ากล่าวในการประชุมผู้นํา อาเซียน-จีนครั้งที่ 12 ว่า เมื่อต่อหน้ากับการท้าทายอย่างหนักหน่วงของวิกฤตการเงินโลก จีนกับอาเซียนช่วยเหลือซึ่งกันและกัน เสริมสร้างความร่วมมือ ส่งเสริมการพัฒนาร่วมกันโดยจับมือกันฝ่าการท้าทายต่างๆ ปัจจุบัน สถานการณ์การเงินของจีนกับประเทศอาเซียนได้รักษาความมั่นคงในขั้นพื้นฐาน เศรษฐกิจมีแนวโน้มพัฒนาไปด้วยดี การค้าระหว่างสองฝ่ายกําลังเข้าสู่ขั้นตอนการเติบโตเชิงฟื้นฟู
เขตการค้าเสรีจีน-อาเซียน ซึ่งได้รับความสนใจจากทั่วโลก จะเสร็จสมบูรณ์ในปี 2010 ตามกําหนดเวลา หลังจากเสร็จสมบูรณ์แล้ว จีนกับอาเซียนจะมีการค้าเสรีขั้นพื้นฐาน ภาษีศุลกากรจะไม่เป็นอุปสรรคหลักของการค้าแบบทวิภาคีอีกต่อไป การรวมเศรษฐกิจทั้งสองฝ่ายเป็นหนึ่งเดียวกันจะเข้าสู่ระดับสูงที่ไม่เคยมีมาก่อน ซึ่งนับเป็นเหตุการณ์สําคัญของประวัติศาสตร์ความสัมพันธ์ระหว่างสองฝ่าย ต่อสภาพเช่นนี้ นายเวิน เจียเป่าเสนอว่า จีนยินดีจัดการประชุมอภิปรายเขตการค้าเสรีจีน-อาเซียนในปีหน้า และร่วมกับอาเซียนสร้างเว็บไซต์ธุรกิจของเขตการค้าเสรี สร้างเขตความร่วมมือทางเศรษฐกิจในประเทศอาเซียน ขยายการลงทุนของจีนที่มีต่อประเทศอาเซียน คุ้มครองสิทธิทรัพย์สินทางปัญญา ขจัดกําแพงการค้าแบบเทคโนโลยี สร้างระบบตรวจสอบและกักกันโรคของสัตว์และพืชที่นําเข้าและส่งออกอย่างเป็นเอกภาพ นายกรัฐมนตรีเวิน เจียเป่ายังเสนอว่า ทั้งสองฝ่ายควรเร่งสร้างสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานให้เร็วขึ้น
ผู้นําประเทศอาเซียนมีความเห็นเป็นเอกฉันท์ว่า จีนใช้ปฏิบัติการที่เป็นจริงสนับสนุนและช่วยเหลือประเทศอาเซียนขจัดความยากลําบาก ร่วมกันรับมือกับการท้าทาย เป็นกําลังสําคัญในการรักษาความมั่นคงของเศรษฐกิจการเงินส่วนภูมิภาค และส่งเสริมสันติภาพและการพัฒนา ฝ่ายต่างๆ หวังว่าจะรักษาการหารือทางการเมืองกับจีนต่อไป เพิ่มพูนความไว้วางใจทางการเมืองซึ่งกันและกัน ใช้การสร้างเขตการค้าเสรีจีน-อาเซียนเสร็จสมบูรณ์เป็นโอกาส เสริมสร้างความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการค้า และการติดต่อของเจ้าหน้าที่ ส่งเสริมการแลกเปลี่ยนและความร่วมมือในด้านการคลัง การเงิน สาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน การป้องกันและควบคุมโรค สิ่งแวดล้อม และวัฒนธรรม เพื่อได้รับผลงานที่แท้จริงมากยิ่งขึ้น ตลอดจนส่งเสริมการปฏิรูประบบการเงินเศรษฐกิจระหว่างประเทศ รักษาสิทธิผลประโยชน์ร่วมกัน
ส่วนในการประชุมผู้นําอาเซียน-จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ครั้งที่ 12 นายกรัฐมนตรีเวิน เจียเป่ากับผู้นําญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และ 10 ประเทศอาเซียนได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับการรับมือกับวิกฤตการเงินโลก ดําเนินความร่วมมือที่มุ่งสู่ความเป็นจริง นายเวิน เจียเป่าเสนอว่า ประเทศต่างๆ ต้องใช้นโยบายการคลังและเงินตราที่เหมาะสมต่อไป เพื่อส่งเสริมความมั่นคงและการเติบโตของเศรษฐกิจ เสริมสร้างแนวโน้มการฟื้นฟูของเศรษฐกิจ กระชับความร่วมมือทางการคลังและการเงินให้ลุ่มลึกยิ่งขึ้น พยายามให้มีการลงนามในข้อตกลงกรอบการขยายวงเงินมาตรการริเริ่มเชียงใหม่(CMIM)ก่อนปลายปีนี้ จัดทำกองทุนสํารองเงินตราต่างประเทศในภูมิภาค เร่งสร้างสถาบันติดตามตรวจสอบเศรษฐกิจส่วนภูมิภาคที่เป็นอิสระ เร่งการสร้างตลาดพันธบัตรเอเซีย และขยายการค้าและการลงทุนภายในภูมิภาค เป็นต้น