นายหยางเจี๋ยฉือรัฐมนตรีต่างประเทศจีนที่ติดตามนายเวินเจียเป่าไปเข้า่ร่วมกาประชุมกล่าวว่า ปีหลัง ๆ นี้ ความร่วมมือในภูมิภาคเอเซียตะวันออกมีมากขึ้น ประเทศต่างๆมีผลประโยชน์ที่สัมพันธ์ใกล้ชิดกันยิ่งขึ้น ในขณะที่รักษาการพัฒนาทางเศรษฐกิจที่รวดเร็วและมั่นคง จีนยังได้พยายามผลักดันความร่วมมือของเอเซียตะวันออก เขากล่าวว่า
"นายเวินเจียเป่านายกรัฐมนตรีจีนได้กล่าวคำปราศรัยสำคัญในที่ประชุม โดยได้บรรยายข้อเสนอของจีนเกี่ยวกับการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของภูมิอากาศ การรับมือกับวิกฤตการเงิน กระชับความร่วมมือและส่งเสริมการแลกเปลี่ยนระหว่างประเทศสมาชิกต่าง ๆ ในที่ประชุมสุดยอดเอเซียตะวันออก ได้รับการชื่นชมอย่างกว้างขวางจากฝ่ายต่าง ๆ นอกจากนี้ ยังได้ประกาศข้อเสนอที่เป็นรูปธรรมเกี่ยวกับการประชุม 10 + 1 10+3 และ 10+6 ทั้งได้เสนอแผนการของจีนเกี่ยวกับการกระชับความร่วมมือกับฝ่ายต่าง ๆ ประเทศต่าง ๆ ล้วนเห็นว่า จีนได้สร้างคุณูปการสำคัญเพื่อความสามัคคี ความร่วมมือและการพัฒนาเอเซีย "
เดือนเมษายนที่ผ่านมา นายเวินเจียเป่าประกาศมาตรการและข้อเสนอจำหนวนหนึ่งในนามของรัฐบางจีนโดยระบุว่า จะจัดตั้งกองทุนความร่วมมือจีน อาเซียนที่มียอดเงินลงทุน 10,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ให้สินเชื่อ 15,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพื่อสนับสนุนอาเซียน ให้เงินช่วยเหลือพิเศษ 270 ล้านหยวนแก่ประเทศในอาเซียนที่ยังด้อยพัฒนา เป็นต้น มาตรการเหล่านี้เป็นประโยชน์อย่างมากต่อแประเทศอาเซียนที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตการเงินโลก ในการประชุมครั้งนี้ นายเวินเจียเป่าประกาศว่า การรวบรวมเงินทุนงวดเรแก 1,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ สหรับใช้จัดตั้งกองทุนงวดแรกของกองทุนความร่วมมือจีน อาเซียนเสร็จสิ้นลงแล้ว โดยสามารถที่จะเริ่มงานของกองทุนได้ภายในปีนี้ นอกจากนี้ เขตการค้าเสรีจีน - อาเซียนจะจัดตั้งขึ้นในปี 2010 ตามเวลาที่กำหนด นายเวินเจียเป่ายังกล่าวว่า ปีหน้า จีนจะจัดประชุมฟอรั่มเกี่ยวกับเขตการค้าเสรี สองฝ่ายจะร่วมกันเปิดเว็บไซต์พาณิชย์เขตการค้าเสรี สร้างเขตความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างประเทศอาเซียน
ระหว่างการประชุมครั้งนี้ นายเวินเจียเป่ายังได้พบปะกับผู้นำบางประเทศ ขณะพบปะกับนายเควิน รัดด์ นายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย นายเวินเจียเป่ากล่าวว่า
"ความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับออสเตรเลียที่ให้ความเคารพและเชื่อถือต่อกันและกันนั้นสอดคล้องกับผลประโยชน์พื้นฐานของประชาชนทั้งสองประเทศ ทั้งเป็นประโยชน์ต่อสันติภาพ ความมั่นคงและความเจริญรุ่งเรืองของภูมิภาคเอเซียแปซิฟิก ข้าพเจ้ายินดีที่จะใช้ความพยายามร่วมกับนายกฯเควิน รัดด์"
ขณะพบปะะกับมานโมฮัน ซิงห์นายกรัฐมนตรีอินเดีย นายกรัฐมนตรีทั้งสองประเทศต่างเห็นว่า ปัญหาชายแดนระหว่างสองประเทศควรปฏิบัติตามหลักการทางการเมืองที่สองฝ่ายได้ลงนามไว้แล้ว และดำเนินการเจรจาที่เปิดเผยด้วยความจริงใจต่อไป ทำให้การเจรจาประสบผลคืบหน้าอย่างต่อเนื่อง จนถึงขั้นมีแผนแก้ไขที่ยุติธรรมและสมเหตุสมผล
(Min/Lin)