วันที่ ๑ ธันวาคมนี้เป็นวันเอดส์โลกปีที่ ๒๒ ผลการสำรวจล่าสุดแสดงว่า 40% ของผู้ป่วยโรคเอดส์ในจีนเคยถูกเลือกปฏิบัติ ทั้งนี้แสดงว่า ชาวจีนยังขาดความรู้เกี่ยวกับโรคเอดส์ ด้วยสาเหตุดังกล่าวนี้ ท้องที่ต่าง ๆ ของจีนจึงจัดกิจกรรมต่าง ๆ ในวันเอดส์โลก เพื่อเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับโรคเอดส์สู่ประชาชน พร้อมเรียกร้องให้ทั่วทั้งสังคมเอาใจใส่ผู้ป่วยโรคเอดส์และผู้ติดเชื้อไวรัสเอชไอวี
วันเดียวกัน สภากาชาดจีนจัดกิจกรรมรณรงค์เกี่ยวกับการป้องกันโรคเอดส์ตามสถานีรถไฟต่างๆ ในเมืองกว่า ๑๐ เมือง นางเติ้งย่าผิง นักกีฬาจีนที่มีชื่อเสียงในฐานะทูตด้านการป้องกันโรคเอดส์ของสภากาชาดจีนเข้าร่วมกิจกรรมดังกล่าว และเรียกร้องให้มวลชนเอาใจใส่ผู้ป่วยโรคเอดส์ เธอกล่าวว่า
"โรคเอดส์ไม่ต้องกลัว เพราะเป็นโรคที่ป้องกันและรักษาได้ เราหวังว่า กิจกรรมในวันนี้จะช่วยให้ผู้คนทั้งหลายมีความรู้เกี่ยวกับโรคเอดส์เพิ่มมากขึ้น ขจัดความหวาดกลัวต่อโรคเอดส์ ยุติการเลือกปฏิบัติต่อผู้ป่วยโรคเอดส์และผู้ติดเชื้อไวรัสเอชไอวี ช่วยให้ผู้ติดเชื้อเอชไอวีได้รับการตรวจและรักษาโดยเร็ว เพื่อให้พวกเขามีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น "
ผลการประเมินของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของจีนและสหประชาชาติแสดงว่า ผู้ป่วยโรคเอดส์และผู้ติดเชื้อเอชไอวีที่ยังมีชีวิตอยู่ในจีนมีประมาณ 740,000 คน ในจำนวนนี้ ผู้ป่วยและผู้ติดเชื้อที่พบในปี ๒๐๐๙มี 48,000 คน ผู้ป่วยและผู้ติดเชื้อที่พบในปีนี้เป็นพาหะสำคัญในการแพร่เชื้อเอดส์ ที่สถานีรถไฟทางทิศใต้ของกรุงปักกิ่ง นางกวออิง ผู้โดยสารให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวว่า
"ผู้คนจำนวนมากขาดความรู้เกี่ยวกับการป้องกันโรคเอดส์ จึงต้องเสี่ยงต่อการเป็นโรคเอดส์ กิจกรรมรณรงค์เหล่านี้จะช่วยให้ผู้คนทั้งหลายมีความรู้เกี่ยวกับการป้องกันโรคเอดส์มากขึ้น ดิฉันคิดว่า ต้องเผยแพร่ความรู้ด้านนี้สู่ผู้คนจำนวนมากขึ้น "
หลายปีมานี้ รัฐบาลจีนใช้ความพยายามอย่างไม่ลดละในการดำเนินการป้องกันโรคเอดส์ โดยได้ใช้มาตรการที่มีประสิทธิภาพต่าง ๆ อาทิ ให้ลริการตรวจฟรีแก่กลุ่มที่เสี่ยงต่อโรคเอดส์ และทำการรักษาฟรีแก่ผู้ป่วยโรคเอดส์ พร้อมลงลึกในกิจการด้านการป้องกันโรคเอดส์ จากข้อมูลสถิติ เมื่อปีที่แล้ว รัฐบาลจีนจัดสรรงบประมาณ ๑๐๐๐ ล้านหยวนในการป้องกันและรักษาโรคเอดส์
เมื่อเร็วๆ นี้ นายมิเชล สิดิบี (Mr. Michel Sidibe) รองเลขาธิการสหประชาชาติ ผู้อำนวยการโครงการโรคเอดส์แห่งสหประชาชาติ (UNAIDS)ประเมินค่าอย่างสูงต่อกิจการป้องกันโรคเอดส์ของจีน โดยเฉพาะด้านการยุติการเลือกปฏิบัติต่อผู้ป่วยโรคเอดส์ เขากล่าวว่า
"จีนมีความก้าวหน้ามากในการปฏิบัติต่อผู้ป่วยโรคเอดส์และผู้ติดเชื้อไวรัสเอชไอวี เมื่อหลายปีที่แล้ว รัฐบาลไม่ยอมให้ประชาชนและสื่อมวลชนกล่าวถึงประเด็นเกี่ยวกับโรคเอดส์ แต่ปัจจุบัน เราเห็นกับตาว่า จีนใช้มาตรการป้องกันและรักษาโรคเอดส์ต่างๆ อย่างเอาจริงเอาจัง และได้ใช้พลังทางสังคมเพื่อป้องกันโรคเอดส์ อีกทั้งได้ให้การสนับสนุนด้านการเงินมากขึ้นในการป้องกันโรคเอดส์ นอกจากนี้ยังได้ทุ่มกำลังเต็มที่เพื่อยุติการเลือกปฏิบัติต่อผู้ป่วยโรคเอดส์ "
(cai)
