เขตการค้าเสรีจีน-อาเซียนจะจัดตั้งขึ้นในวันที่ ๑ มกราคมปี ๒๐๑๐ วันที่ ๒๙ ธันวาคมนี้ นายจางเค่อหนิงเจ้าหน้าที่กรมระหว่างประเทศกระทรวงพาณิชย์จีน และนายวราวุธ ชูวิรัชอัครราชทูตไทยประจำประเทศจีนต่างแสดงความเห็นที่กรุงปักกิ่งว่า เขตการค้าเสรีจีน-อาเซียนที่ใกล้จะจัดตั้งขึ้นจะเอื้อประโยชน์ต่อทั้งสองฝ่าย โดยจะส่งเสริมการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของทั้งสองฝ่าย

เขตการค้าเสรีจีน-อาเซียนเป็นเขตการค้าเสรีแห่งแรกที่จีนร่วมจัดตั้งกับต่างประเทศ และเป็นเขตการค้าเสรีแห่งแรกที่กลุ่มอาเซียนร่วมจัดตั้งกับต่างประเทศ เขตการค้าเสรีจีน-อาเซียนจะครอบคลุมประชากรถึง 1900 ล้านคน ซึ่งจะกลายเป็นเขตการค้าเสรีใหญ่อันดับที่ ๓ ของโลก ในการแถลงข่าวที่จัดขึ้นในวันที่ ๒๙ ธันวาคมนี้ นายจางเค่อหนิงเจ้าหน้าที่กรมระหว่างประเทศกระทรวงพาณิชย์จีนกล่าวว่า ภายหลังจัดตั้งเขตการค้าเสรีจีน-อาเซียนการค้าสินค้าหว่างสองฝ่ายส่วนใหญ่จะลดภาษีศุลกากรจนศูนย์ เขากล่าวว่า

"ตั้งแต่วันที่ ๑ มกราคมปี ๒๐๑๐ เป็นต้นไป การค้าสินค้าระหว่างจีนกับ ๖ ประเทศสมาชิกอาเซียน คือ อินโดนีเซีย มาเลเซีย ไทย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ และบรูไน สินค้า 90% จะลดภาษีศุลกากรเป็นศูนย์ ภาษีศุลกากรโดยเฉลี่ยของจีนต่ออาเซียนจะลดลงจาก9.8% เป็น 0.1% ภาษีศุลกากรโดยเฉลี่ยของอินโดนีเซีย มาเลเซีย ไทย ฟิลิปินส์ สิงคโปร์ และบรูไนต่อจีนก็จะลดลงจาก12.8% เป็น 0.6% จีนกับ ๔ ประเทศสมาชิกใหม่ของอาเซียน คือ พม่า กัมพูชา ลาว และเวียดนามจะบรรลุเป้าหมายที่ให้สินค้า90%ลดภาษีศุลกากรเป็นศูนย์ก่อนปี ๒๐๑๕ "

ขณะกล่าวถึงประเด็นการลดภาษีศุลกากรอย่างมาก และนำเข้าสินค้ามากขึ้นจะกระทบอุตสาหกรรมและธุรกิจในประเทศหรือไม่ เจ้าหน้าที่ผู้นี้กล่าวว่า จีนกับประเทศอาเซียนมีอุตสาหกรรมและธุรกิจที่เกื้อกูลกันได้มาก โครงสร้างการส่งออกก็ต่างกัน การจัดตั้งเขตการค้าเสรีจึงมีแต่จะทำให้ทั้งสองฝ่ายได้รับชัยชนะร่วมกันเท่านั้น

หลังจากเขตการค้าเสรีจีน-อาเซียนจัดตั้งขึ้น วิสาหกิจของทั้งสองฝ่ายจะลงทุนระหว่างกันอย่างสะดวกยิ่งขึ้น จากข้อตกลงว่าด้วยการลงทุนในเขตการค้าเสรีที่สองฝ่ายลงนามกันแล้ว ต่างจะให้นักลงทุนของกันและกันมีสิทธิพลเรือน สิทธิพิเศษทางการค้า และได้รับการปฏิบัติอย่างเที่ยงธรรมในการลงทุน ในการแถลงข่าวที่จัดขึ้นเมื่อวันที่ ๒๙ เดือนธันวาคมนี้ นายวราวุธ ชูวิรัชอัครราชทูตไทยประจำประเทศจีนแสดงความเห็นว่า ประเทศสมาชิกอาเซียนมีความปรารถนาที่จะขยายความร่วมมือด้านการลงทุนกับจีน เขากล่าวว่า

"เขตการค้าเสรีจีน-อาเซียนที่ใกล้จะจัดตั้งขึ้นจะครอบคลุมพื้นที่ ถึง13,000,000 ตารางกิโลเมตร และจะนำประโยชน์มาสู่ประชากรถึง 1900 ล้านคน ถ้าพูดในแง่ภาครัฐ เราได้สร้างกรอบการค้าเสรีให้แก่วิสาหกิจแล้ว ทำให้เขตการค้าเสรีสามารถแสดงบทบาทอย่างเต็มที่ ปัจจุบัน กระทรวงพาณิชย์ไทยกำลังประชาสัมพันธ์เรื่องโอกาสที่เขตการค้าเสรีอาจจะนำมาสู่ภาคธุรกิจ จากนี้ไปจะประชาสัมพันธ์ในประเด็นนี้มากขึ้นเรื่อย ๆ นอกจากประเทศไทย มาเลเซีย สิงคโปร์ได้ออกนโยบายดึงดูดนักลงทุนจีน ประเทศอาเซียนหลาย ๆ ประเทศตระหนักถึงลักษณะพิเศษของเขตการค้าเสรี และพยายามปฏิบัติตามนโยบายของเขตการค้าเสรี"

ตั้งแต่ข้อตกลงว่าด้วยการค้าสินค้าในเขตการค้าเสรีจีน-อาเซียนมีผลบังคับใช้เมื่อปี ๒๐๐๕ เป็นต้นมา การค้าระหว่างจีนกับอาเซียนเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว ยอดการค้าระหว่างสองฝ่ายในปี ๒๐๐๘ มีกว่า 230,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ผู้เชี่ยวชาญเห็นว่า จีนกับอาเซียนอยู่ใกล้เคียงกัน เศรษฐกิจมีส่วนเกื้อกูลกันได้มาก เขตการค้าเสรีจีน-อาเซียนจึงมีอนาคตที่สดใส แต่ถ้าจะให้ข้อตกลงว่าด้วยเขตการค้าเสรีนำประโยชน์สู่ภาคประชาชนอย่างแท้จริง ยังต้องให้วิสาหกิจของทั้งสองฝ่ายศึกษานโยบายของเขตการค้าเสรี ปฏิบัติตามระเบียบข้อบังคับของเขตการค้าเสรี ใช้สิทธิพิเศษต่าง ๆ ที่เกิดจากการจัดตั้งเขตการค้าเสรีอย่างเต็มที่ (cai)