หลังผ่านเวลา 8 ปี เขตการค้าเสรีจีน-อาเซียนเปิดขึ้นอย่างเป็นทางการ ซึ่งได้ครอบคลุม 11 ประเทศ ประชากร 1900 ล้านคน ยอดจีดีพี 6 ล้านล้านเหรียญสหรัฐฯ เป็นเขตการค้าเสรีใหญ่อันดับ 3 ของโลก รองจากเขตการค้าเสรีสหภาพยุโรป เเละเขตการค้าเสรีอเมริกาเหนือ นายจาง อวิ้นหลิ่ง ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยปัญหาระหว่างประเทศสภาวิทยาศาสตร์สังคมเเห่งชาติจีนเห็นว่า
"ก่อนอื่น การเปิดขึ้นของเขตการค้าเสรีจีน-อาเซียนเป็นกระบวนการที่ ค่อยเป็นค่อยไป ไม่เหมือนกับการเปิดเขตการค้าเสรีอเมริกาเหนือ 2 เเม้ว่าเรายังเป็นประเทศกำลังพัฒนา เเต่เราปฏิบัติตาม กฎระเบียบขององค์การการค้าโลกอย่างเข้มงวด ไม่สร้างกำเเพงกีด กันทางการค้าต่อประเทศอื่นๆ เราใช้วิธีเเบบค่อยเป็นค่อยไป พยายามบรรลุเป้าหมายเปิดตลาดในเวลาเท่าที่จะสั้นได้ 3 เขตอาเซียนยังมีสมาชิกที่ด้อยพัฒนามากมาย เราควรช่วยเหลือพวกเขาก้าวหน้าเร็วขึ้น ทำให้ประเทศต่างๆ ได้รับผลประโยชน์ นี่เป็นเรื่องที่สำคัญ 4 เราได้สร้าง สิ่งอำนวยความสะดวกขั้นพื้นฐาน บุกเบิกอนุภูมิภาคเป็นต้น โดยเป็นเงื่อนไขบังคับก่อนปรับปรุงสภาพเศรษฐกิจให้ดีขึ้น การนี้ไม่เพียงเป็นผลดีต่อการเติบโตของเศรฐกิจจีน หากยังดีต่อการพัฒนาของประเทศ อาเซียน
ในกระบวนการเจรจาเกี่ยวกับการเปิดเขตการค้่าเสรีจีนกับอาเซียนมีความร่วมมือทางด้านเศรษฐกิจในทุกด้าน นอกจากจัดงานมหกรรม จีน-อาเ๊ซียนเป็นประจำเเล้ว ยังได้กำหนดให้เเวดวงสำคัญ 5 วงการเข้ามาร่วมคือ ท่าเรือเเละโลจิสติก การสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกขั้นพื้นฐาน การท่องเที่ยว การอำนวยความสะดวกเเ่ก่การค้าเเละการลงทุน เเละการเกษตร ตลอดจนได้ขยายความร่วมมือในอนุภูมิภาคต่างๆ เช่น ภูมิภาคลุ่มเเม่น้ำโขง เเละภูมิิภาคเเพนอ่าวเป่ยปู้เป็นต้น ได้ผลักดันการเปิดตลาด การเเลกเปลี่ยนบุคลากรเเละสินค้า ส่งเสริมการเพิ่มขีดความสามารถในการเเข่งขันของวิสาหกิจ เเละการเติบโตของเศรษฐกิจในภูมิภาคดังกล่าว
นายฉาว อวิ๋นหวา ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มหาวิทยาลัยจี้หนานชี้ว่า การเปิดเขตการค้าเสรีจีน-อาเซียนจะ นำผลประโยชน์สู่ทั้งสองฝ่าย เขากล่าวว่า
"เขตการค้าเสรีได้นำผลประโยชน์เเก่ทั้งสองฝ่าย มีความหมายสำคัญมาก สำหรับจีนเเล้ว อาเซียนเป็นเพื่อนบ้านที่สำคัญที่สุด เมื่อพิจารณาจากด้านการเมือง การเปิดเขตดังกล่าวมีความหมายสำคัญต่อการปฏิรูปเเละเปิดประเทศ ส่วนในด้านเศรษฐกิจ อาเซียนได้พัฒนาเป็นคู่ค้า เเละประเทศลงทุนสำคัญของจีน ต่างถืออีำกฝ่ายหนึ่งเป็นคู่ค้าสำคัญอันดับ ที่ 4 ปัจจุบัน ความต้องการเเละความสัมพันธ์ด้านเศรษฐกิระหว่าง จีนกับอาเซียนยังมีช่องว่างที่จะพัฒนาต่อไป พร้อมกับที่เขตการค้าเสรีจีน-อาเซียนได้เปิดขึ้น ความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจระหว่างสองฝ่ายจะมีความใกล้ชิดยิ่งขึ้น"