ตั้งแต่ปี 2002 จีนกับอาเซี่ยนเริ่มจัดการเจรจาเกี่ยวกับเขตการค้าเสรี โดยผ่านความพยายามร่วมกันเป็นเวลาหลายปี ทั้งสองฝ่ายได้ลงนามข้อตกลงการค้าสินค้า ข้อตกลงการค้าด้านการบริการและข้อตกลงการลงทุนในปี 2004 2007และ2009ตามลำดับ สร้างระบบกฏหมายเบื้องต้นที่สำคัญเกี่ยวกับเขตการค้าเสรีจีน-อาเซียน ซึ่งเป็นหลักประกันในการสร้างเขตการค้าเสรีจีน-อาเซียนในปี 2010 ตามกำหนด
นายสวี่ หนิงหนิง เลขาธิการคณะมนตรีพาณิชย์จีน-อาเซียนของฝ่ายจีนกล่าวกับผู้สื่อข่าวซีอาร์ไอว่า การสร้างเขตการค้าเสรีจีน-อาเซียนจะสร้างโอกาสการพัฒนามากยิ่งขึ้นแก่วิสาหกิจทั้งสองฝ่าย เขากล่าวว่า
เขตการค้าเสรีจีน-อาเซียนเป็นตลาดใหญ่ที่ครอบคลุมถึงจีนและ 11 ประเทศสมาชิกอาเซียน เป็นตลาดที่เป็นเอกภาพ ภาคธุรกิจมีบทบาทสำคัญในกระบวนการจัดตั้งเขตการค้าเสรีจีน-อาเซียน เขตการค้าเสรีจีน-อาเซียนจะประสบความสำเร็จหรือไม่ขึ้นอยู่กับภาคธุรกิจทั้งสองฝ่ายได้รับประโยชน์หรือไม่ ถ้าวิสาหกิจไม่สามารถพัฒนาก้าวหน้าอย่างเห็นได้ชัด และไม่มีความร่วมมือที่อำนวยผลประโยชน์แก่กัน ก็ไม่ใช่เขตการค้าเสรีที่ประสบความสำเร็จ
นายสวี่ หนิงหนิงกล่าวว่า หลังจากเขตการค้าเสรีจีน-อาเซียนเปิดขึ้นแล้ว จะนำโอกาสและการท้าทายมากยิ่งขึ้นแก่วิสาหกิจทั้งสองฝ่าย โดยเฉพาะหลังจากยกเลิกภาษีศุลกากร ในตลาดของ 11 ประเทศสมาชิกอาเซียน จะเกิดโซ่อุตสาหกรรมใหม่ ซึ่งต้องให้สมาคมด้านต่างๆ ของทั้งสองฝ่ายร่วมกันอภิปรายวางแผนภายในเขตการค้าเสรี เพื่อทำให้ผลิตภัณฑ์ของเขตมีกำลังแข่งขันมากยิ่งขึ้นและขยายตลาดไปสู่โลก
การสร้างเขตการค้าเสรีจีน-อาเซียนไม่ใช่เพื่อขยายตลาดอย่างเดียว แต่เพื่อกระชับความสัมพันธ์ระหว่างกันให้ใกล้ชิดยิ่งขึ้นโดยผ่านการขยายตลาด และร่วมกันบุกเบิกตลาดระหว่างประเทศให้กว้างขวางยิ่งขึ้น เพื่อให้เขตนี้ลดผลกระทบจากกระแสโลกภิวัตน์ เช่นวิกฤตการเงินโลก
ขณะที่เร่งสร้างเขตการค้าเสรีจีน-อาเซียนเร็วขึ้น มีวิสาหกิจจีนมากยิ่งขึ้นให้ความสำคัญกับอาเซียน ปี 2008 การลงทุนในอาเซียนของจีนเพิ่มขึ้น 125% เมื่อเทียบกับปี 2007 ในจำนวนนี้ การลงทุนในสิงคโปร์เพิ่มขึ้นกว่า 2 เท่า จีนเป็นประเทศผู้ลงทุนมากที่สุดในพม่า และรองลงมาคือ ลาว แม้ว่าหลายปีมานี้การลงทุนในอาเซียนของจีนเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่เมื่อเทียบประเทศอาเซียนที่ลงทุนในจีนยังน้อยมาก นายสวี่ หนิงหนิงกล่าวว่า มีความสนใจน้อย และไม่ทราบตารางเวลาเปิดตลากเขตการค้าเสรีจีน-อาเซียนเป็นปัญหาสำหรับวิสาหกิจของจีนในปัจจุบัน เขากล่าวว่า
ผลการสำรวจพบว่า มีวิสาหกิจจีน 90 % มีความรู้น้อยเกี่ยวกับเขตการค้าเสรีจีน-อาเซียน เพราะว่าเขตการค้าเสรีจีน-อาเซียนได้พัฒนาอย่างรวดเร็วมาก ขณะเดียวกันการประชาสัมพันธ์ล่าช้าไป ดังนั้น ในที่ประชุมสุดยอดผู้นำจีน-อาเซียนเมื่อวันที่ 24 ตุลาคมปีที่แล้ว นายเวินเจียเป่า นายกรัฐมนตรีจีนได้ออกข้อเสนอ 6 ประการ ประการแรกก็คือส่งเสริมการประชาสัมพันธ์และเผยแพร่นโยบายและกฏข้อบังคับของเขตการค้าเสรี
นายสวี่ หนิงหนิงกล่าวว่า เพื่อปฏิบัติตามข้อเสนอของนายเวินเจียเป่า ปัจจุบัน คณะมนตรีพาณิชย์จีน-อาเซียนกำลังจะจัดการฝึกอบรมเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นและผู้นำสมาคมต่างๆ เกี่ยวกับนโยบายเขตการค้าเสรี
kt