วันที่ 7 มกราคมนี้ การประชุมเขตการค้าเสรีจีน-อาเซียนเปิดขึ้นที่เมืองหนานหนิง เมืองเอกเขตปกครองตนเองจ้วงกวางสีทางภาคใต้ของจีน ผู้ที่เข้าร่วมประชุมกว่า 400 คนอภิปรายการสร้างสรรค์และพัฒนาเขตการค้าเสรีในอนาคตภายใต้ประเด็นหลัก "ให้ผลประโยชน์ร่วมกัน สร้างความเจริญรุ่งเรือง"นายอี้ เสี่ยวจุ่น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์จีนกล่าวในที่ประชุมว่า การสร้างเขตการค้าเสรีจีน-อาเซียนเป็นจุดเริ่มต้นใหม่ในการส่งเสริมความสัมพันธ์และผลักดันกระบวนการความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันทางเศรษฐกิจของจีน-อาเซียน
เขตการค้าเสรีจีน-อาเซียนเป็นเขตการค้าเสรีแห่งแรกที่จีนกับต่างประเทศร่วมกันสร้าง และก็เป็นเขตการค้าเสรีที่ประกอบด้วยประเทศกำลังพัฒนามากที่สุดในโลก มีประชากร 1,900 ล้านคน จีดีพีประมาณ 6 ล้านล้านดอลล่าร์สหรัฐฯและยอดการค้า 4.5 ล้านล้านดอลล่าร์สหรัฐฯ เขตการค้าเสรีจีน-อาเซียนได้เริ่มดำเนินงานตั้งแต่วันที่ 1 มกราคมนี้ นายอี้ เสี่ยวจุ่นกล่าวว่า การสร้างเขตการค้าเสรีจีน-อาเซียนสะท้อนให้เห็นถึงความพยายามของจีนในการผลักดันการเปิดประเทศและเร่งสร้างความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันทางเศรษฐกิจภูมิภาคอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เขตการค้าเสรีสร้างประโยชน์อย่างแท้จริงแก่วิสาหกิจและประชาชนทั้งสองฝ่าย รัฐบาลทั้งสองฝ่ายนอกจากต้องปฏิบัติตามพันธกรณีอันพึงมีในข้อตกลงและเพิ่มการประชาสัมพันธ์ในบทบาทของเขตการค้าเสรีแล้ว ยังต้องให้การสนับสนุนการพัฒนาสิ่งอำนวยความสะดวกขั้นพื้นฐานการรวบรวมและหมุนเวียนเงินทุน และผลักดันความสะดวกด้านการค้าและการลงทุนระหว่างทั้งสองฝ่าย เขากล่าวว่า
ปัจจุบัน พร้อมๆ กับสถานการณ์เศรษฐกิจดีขึ้น คาดว่าในหลายปีข้างหน้าจีนจะเพิ่มการลงทุนในอาเซียนมากยิ่งขึ้น ทั้งสองฝ่ายควรใช้ประโยชน์กองทุนเพื่อความร่วมมือระหว่างสองฝ่ายและทรัพยากรอื่นๆ อย่างเต็มที่ เร่งสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกขั้นพื้นฐาน ส่งเสริมการคมนาคมติดต่อกับทางหลวง ทางรถไฟ การบินและการสื่อสารระหว่างทั้งสองฝ่าย เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการที่จะพัฒนาความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจและการค้าระหว่างสองฝ่าย ต่อยอดจากสิ่งที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน ส่งเสริมและพัฒนาความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจและการค้าทวิภาคีมากยิ่งขึ้น
จีน-อาเซียนดำเนินโครงการเก็บเกี่ยวล่วงหน้าซึ่งจะเน้นลดภาษีผลิตผลการเกษตรตั้งแต่ปี2004 ต่อมาตลาดสินค้าและการค้าบริการได้เปิดกว้างขึ้นเรื่อยๆ เขตการค้าเสรีนำผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจแก่ทั้งสองฝ่ายมากยิ่งขึ้น ยอดการค้าทวิภาคีจาก 78,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯในปี 2003 เพิ่มเป็น 230,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯในปี 2008
หลังเขตการค้าเสรีสร้างเสร็จสมบูรณ์ ผลิตภัณฑ์กว่า 90 %ระหว่าง จีนกับบูรไน ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย มาเลเซีย ไทยและสิงคโปร์จะปลอดภาษีศุลกากร ถึงปี 2015 จีนกับเวียดนาม ลาว กัมพูชาและพม่าก็จะยกเลิกภาษีศุลกากรด้วย
นายซุนดัม พุสพานาดัน รองเลขาธิการอาเซียนกล่าวว่า การสร้างเขตการค้าเสรีจีน-อาเซียนสร้างโอกาสด้านการพัฒนาและความร่วมมือแก่ทั้งสองฝ่าย มีส่วนช่วยลดช่องว่างระหว่างประเทศต่างๆ และผลักดันความร่วมมือด้านการค้าและการลงทุนข้ามแดน ภายใต้สภาพการณ์ที่ลัทธิกีดกันทางการค้าทวีความรุนแรงมากขึ้น จีนกับประเทศสมาชิกต่างๆ ของอาเซียนควรผลักดันความมีเสรีด้านการค้าและการลงทุน เพื่อให้มาตรการอำนวยความสะดวกต่างๆ ของเขตการค้าเสรีแสดงบทบาท เขากล่าวว่า
เราต้องใช้ความพยายามมากยิ่งขึ้นเพื่อขจัดอุปสรรคทางการค้า และปรับปรุงระบบบริหารการนำเข้าและส่งออกให้ดีขึ้น ขณะเดียวกัน รัฐบาลควรผลักดันให้บรรลุความมีเสรีทางการค้า เพิ่มพูนความเชื่อถือซึ่งกันและกัน ซึ่งทั้งสองฝ่ายต่างสามารถได้ประโยชน์มากยิ่งขึ้นจากเขตการค้าเสรีจีน-อาเซียน
Kt