เมื่อเช้าวันที่ 8 มกราคมนี้ มีการปิดฟอรั่มเขตการค้าเสรีจีน-อาเซี่ยนที่เมืองหนานหนิง เมืองเอกเขตปกครองตนเองชนชาติจ้วงกวางสีของจีน ที่ประชุมประกาศแถลงการณ์ประธานโดยชี้ว่า ผลักดันการค้าและการลงทุนให้เป็นเสรี คัดค้านลัทธิกีดกันทางการค้าและการลงทุน สอดคล้องกับผลประโยชน์พื้นฐานของประเทศต่างๆ ประเทศในเขตนี้ควรบุกเบิกตลาดการลงทุนในประเทศอื่นให้มากขึ้น สร้างสิ่งแวดล้อมการลงทุนที่สะดวก โปร่งใสและเที่ยงธรรม

หลังจากเขตการค้าเสรีจีน-อาเซี่ยนเปิดขึ้นอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 1 มกราคมนี้เป็นต้นมา ระหว่างจีนกับ 6 ประเทศสมาชิกได้แก่ ไทย บรูไน ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย มาเลเซีย และสิงคโปร์ มีสินค้ากว่า 90% ที่ได้รับการยกเว้นภาษีศุลกากร ถึงปี 2015 ระหว่างจีนกับเวียดนาม ลาว กัมพูชาและพม่าจะมีการยกเว้นภาษีเช่นกัน

เจ้าหน้าที่จากสำนักงานเลขานุการอาเซียนคนหนึ่งกล่าวในพิธีปิดประชุมว่า

"ผมขอเน้นว่า หลังเขตการค้าเสรีจัดตั้งขึ้นแล้ว นอกจากจะนำผลประโยชน์แก่เราในด้านการยกเว้นภาษีแล้ว เราก็จะต้องเผชิญกับการท้าทายจากสิ่งที่ไม่ใช่การกีดกันทางการค้า ซึ่งเกี่ยวข้องกับการเพิ่มต้นทุนอันเนื่องมาจากมาตรฐานของผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยีที่แตกต่างกัน ดังนั้น เราจึงควรให้ความสนใจมากขึ้นต่อสิ่งที่ไม่ใช่การกีดกันทางการค้า"

ข้อคิดเห็นดังกล่าวก็เป็นความรับรู้ร่วมกันของผู้ที่เข้าร่วมการประชุมครั้งนี้เช่นกัน นายจาง เค่อหนิง อุปทูตพาณิชย์กรมระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์จีนกล่าวในพิธีปิดประชุมว่า

"ประเทศต่างๆ ในเขตนี้ควรปฏิบัติตามระบบการค้าสินค้าและระบบการค้าการบริการที่บรรลุไว้ ผลักดันการค้าเสรี ปฏิบัติตามนโยบายให้สิทธิพิเศษในเขตการค้าเสรีอย่างจริงจัง ประเทศต่างๆ ควรเปิดตลาดการลงทุนแก่กันให้มากขึ้น สร้างเขตที่มีการลงทุนเพิ่มขึ้นอย่างไม่มีอุปสรรค ทำให้ความร่วมมือด้านการลงทุนเป็นแรงขับเคลื่อนใหม่ในการเติบโตทางเศรษฐกิจ"

ผู้เข้าร่วมประชุมจำนวนมากเสนอว่า ในกระบวนความร่วมมือ การให้การรับรองด้านมาตรฐานเทคโนโลยีแก่กันเป็นปัญหาโดดเด่นที่วิสาหกิจของทุกประเทศต้องเผชิญ ยังคงต้องให้รัฐบาลประเทศต่างๆประสานกัน นายลิม จอค ฮอย เจ้าหน้าที่กระทรวงการต่างประเทศและพาณิชย์บรูไนเสนอให้ทุกประเทศดำเนินการแลกเปลี่ยนในรูปแบบต่างๆ ให้การรับรองทวิภาคี เพื่อขจัดอุปสรรคที่ขัดขวางความร่วมมือขั้นต่อไป

"ปัจจุบัน เราได้สร้างเขตการค้าเสรีขึ้นแล้ว ซึ่งหมายถึงการลดภาษีจะเป็นแนวโน้มที่แน่นอน เราจะอภิปรายประเด็นในขอบเขตที่กว้างขึ้น เขตการค้าเสรีไม่เพียงแต่หมายถึงการยกเว้นภาษีอย่างเดียว ยังจะต้องดำเนินการปรึกษาหารือและมีความร่วมมือในอีกหลายด้าน อาทิ มาตรฐาน และระบบเป็นต้น เพื่อจัดการค้าที่มีเสรีจริงๆ"