เมื่อเร็วๆ นี้ ที่กรุงปักกิ่ง คณะกรรมาธิการตรวจสอบวินัยของคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีนแถลงผลการปราบปรามการทุจริตคอรัปชันประจำปี 2009 ระบุว่า ช่วงระหว่างเดือนมกราคมถึงเดือนพฤศจิกายนปี 2009 หน่วยงานตรวจสอบและคณะกรรมาธิการตรวจสอบวินัยของคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีนระดับต่างๆ ได้ดำเนินคดีกับข้าราชการที่กระทำผิดวินัยกว่า 115,000 คดี ตัดสินคดีไปแล้วกว่า 100,000 คดี ผู้กระทำผิดวินัยที่ถูกลงโทษมีกว่า 106,600 คน
นายกาน อี่เซิ่ง
นายกาน อี่เซิ่ง รองเลขาธิการคณะกรรมาธิการตรวจสอบวินัยคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีนแถลงว่า ในจำนวนข้าราชการที่ถูกลงโทษ เป็นสมาชิกพรรคคคอมมิวนิสต์จีนกว่า 85,000 คน คิดเป็นร้อยละ 0.11 ของจำนวนสมาชิกพรรคฯ ทั้งหมด ในจำนวนดังกล่าว มีกว่า 2,200 คนถูกขับออกจากพรรคฯ และถูกส่งตัวไปยังหน่วยงานยุติธรรมเพื่อดำเนินคดีอันเนื่องจากมีพฤติกรรมฉ้อราษฎร์บังหลวง หรือ โกงกินบ้านเมืองและรับสินบน ด้วยการดำเนินคดี ได้กอบกู้ผลเสียหายทางเศรษฐกิจให้แก่ประเทศชาติกว่า 4,440 ล้านหยวน
นายกาน อี่เซิ่งกล่าวว่า การปราบปรามการทุจริตคอรัปชั่นของจีนในปี 2009 มุ่ง 5 ประเด็นด้วยกัน
"คือ หนึ่ง ดำเนินการกับผู้กระทำผิดวินัยและผิดกฎหมายระหว่างการปฏิบัติตามนโยบายสำคัญๆ ของคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีนอย่างเฉียบขาด สอง ดำเนินการกับข้าราชการระดับแกนนำที่ทุจริตคอรัปชันอย่างเด็ดขาด สาม ดำเนินการกับผู้รับสินบนจากแวดวงธุรกิจและกรณีทำลายผลประโยชน์มวลชนอย่างร้ายแรง สี่ ดำเนินการกับผู้ทุจริตคอรัปชันอันเป็นชนวนให้เกิดเหตุชุมนุมประท้วงและอุบัติเหตุร้ายแรง และห้า ดำเนินการกับผู้กระทำผิดวินัยและผิดกฎหมายในแวดวงสำคัญๆ อย่างเด็ดขาด"
สำหรับข้าราชการระดับผู้ว่าราชการมณฑลและระดับรัฐมนตรีกระทรวงที่ทุจริตจนต้องถูกดำเนินคดีในปี 2009 นั้น มีการแถลงว่า ข้าราชการระดับผู้ว่าราชการมณฑลและระดับรัฐมนตรีกระทรวง 9 รายถูกส่งตัวไปยังหน่วยงานยุติธรรม ซึ่งรวมถึงหวาง อี้ อดีตรองผู้ว่าการธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งชาติ หมี่ เฟิ่งจวิน อดีตรองประธานคณะกรรมการประจำสภาผู้แทนประชาชนมณฑลจี๋หลิน จู จื้อกาง อดีตรองประธานคณะกรรมาธิการฝ่ายการเงินและเศรษฐกิจ สภาผู้แทนประชาชนแห่งชาติ และเฉิน เส้าจี อดีตประธานสภาปรึกษาการเมืองประชาชนมณฑลกวางตุ้ง ฯลฯ นอกจากนี้ ยังมีอีก 6 รายกำลังอยู่ระหว่างการตรวจสอบอยู่ ได้แก่ สวี่ จงเหิง อดีตนายกเทศมนตรีเมืองเซินเจิ้น หลี่ ถางถาง อดีตรองผู้ว่าราชการเขตปกครองตนเองชนชาติหุยหนิงเซี่ย หวง เหยา อดีตประธานสภาปรึกษาการเมืองประชาชนมณฑลกุ้ยโจว ซุ่ง โหย่ง อดีตรองประธานคณะกรรมการประจำสภาผู้แทนประชาชนมณฑลเหลียวหนิง ฯลฯ
นายกาน อี่เซิ่งระบุว่า กำลังการปราบปรามเช่นนี้ไม่เพียงแต่แสดงให้ประจักษุ์ถึงความเด็ดเดี่ยวแน่วแน่ของพรรคคอมมิวนิสต์จีนในการปราบปรามการทุจริตเท่านั้น หากยังได้รับความเห็นชอบจากประชาชนอีกด้วย ส่วนประชาคมโลกก็กล่าวชื่นชมผลการปราบปรามการทุจริตคอรัปชันของจีน
เขายังระบุว่า หลักนโยบายในการปราบปรามการทุจริตคอรัปชันของจีนในปัจจุบันคือ "ทั้งปราบทั้งป้องกัน มุ่งที่การป้องกัน" คือ พร้อมๆ กับการดำเนินคดีนั้น จะต้องให้ความสำคัญกับการป้องกันการเกิดเหตุทุจริตจากต้นตอ ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญกว่า
ด้วยมาตรการปราบปรามต่างๆ เมื่อปี 2009 ทั่วประเทศจีนมีข้าราชการเกือบ 30,000 คนสมัครใจที่จะยื่นเงินสด พันธบัตร และคูปอง ฯลฯ ที่พวกเขาได้รับมาให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเป็นเงินประมาณ 200 ล้านหยวน นอกจากนี้ หน่วยงานในพื้นที่ต่างๆ ยังตัดงบประมาณรายจ่ายสำหรับการเดินทางไปต่างประเทศ การจัดซื้อรถ และการรับรองรวม 3 รายการด้วยกันเป็นเงินกว่า 15,800 ล้านหยวนอีกด้วย