ในรายงานการดำเนินงานของรัฐบาล ซึ่งนายเวิน เจียเป่า นายกรัฐมนตรีจีนแถลงในที่ประชุมฯ ปีนี้ ระบุว่า ภาคอุตสาหกรรมได้จัดอยู่ในอันดับแรกใน "การพัฒนา" เพื่อไปถึงเป้าหมายการประหยัดพลังงานและลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจก เพราะภาคอุตสาหกรรมใช้พลังงานประมาณร้อยละ 70 ของพลังงานทั้งหมดของจีน รวมถึงปล่อยซีโอดี หรือ ปฏิกิริยาออกซิเดชั่นทางเคมีเกือบร้อยละ 40 และซัลเฟอร์ไดอ๊อกไซต์กว่าร้อยละ 80 ทั่วประเทศ ส่วนปัญหามลพิษอื่นๆ ก็มีให้เห็นอย่างชัดเจน ภายใต้แรงกดดันด้านการประหยัดพลังงานและลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกอันใหญ่หลวงนี้ วิสาหกิจภาคอุตสาหกรรมของจีนกำลังเพิ่มงบประมาณรายจ่ายสำหรับการประหยัดพลังงานและลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกอย่างจริงจัง
นายเติ้ง ฉีหลิน สมาชิกสภาผู้แทนประชาชนแห่งชาติจีน
ผู้จัดการใหญ่กลุ่มเหล็กและเหล็กกล้าอู่ฮั่น
นายเติ้ง ฉีหลิน สมาชิกสภาผู้แทนประชาชนแห่งชาติจีน ผู้จัดการใหญ่กลุ่มเหล็กและเหล็กกล้าอู่ฮั่นกล่าวว่า
"ช่วงหลายปีมานี้ อุตสาหกรรมสาขาเหล็กและเหล็กกล้าของจีนได้ดำเนินการต่างๆ มากมายเพื่อส่งเสริมเศรษฐกิจหมุนเวียน เศรษฐกิจคาร์บอนต่ำ การประหยัดพลังงานและลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจก อย่างกลุ่มเหล็กและเหล็กกล้าอู่ฮั่น ในโครงการลงทุนต่างๆ ช่วงปี 2006-2010 จำนวนร้อยละ 12 นำไปใช้ในการประหยัดพลังงานและลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ตลอดจนอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม"
ส่วนอุตสาหกรรมสาขาโลหะนอกกลุ่มเหล็ก ซึ่งมีความสำคัญพอๆ กัน และเป็นสาขาที่ใช้พลังงานสูงเช่นกัน ก็ใช้มาตรการต่างๆ เพื่อลดการใช้พลังงานและการปล่อยคาร์บอนด้วย
นางหลี่ เสี่ยวหลิน สมาชิกสภาปรึกษาการเมืองประชาชนจีน
รองผู้จัดการใหญ่บริษัทกลุ่มการลงทุนเพื่อพลังไฟฟ้าแห่งประเทศจีน
ไฟฟ้าพลังงานถ่านหินมีสัดส่วนเป็นร้อยละ 75 ของพลังงานไฟฟ้าทั้งหมดของจีน ในการประชุมประจำปีสภาผู้แทนประชาชนแห่งชาติปีนี้ นายเวิน เจียเป่าแถลงว่า จีนจะส่งเสริมพลังงานใหม่และพลังงานหมุนเวียนอย่างแข็งขัน ซึ่งจะสร้างโอกาสในการพัฒนาไฟฟ้าพลังลม ไฟฟ้าพลังน้ำ และพลังงานสะอาดอื่นๆ นางหลี่ เสี่ยวหลิน สมาชิกสภาปรึกษาการเมืองประชาชนจีน รองผู้จัดการใหญ่บริษัทกลุ่มการลงทุนเพื่อพลังไฟฟ้าแห่งประเทศจีนระบุว่า บริษัทที่เธอทำงานอยู่ได้ดำเนินโครงการพลังงานสะอาดหลายโครงการในพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศ อีกทั้งริเริ่มในโครงการสาธิตการใช้ชีวิตคาร์บอนต่ำในมณฑลไหหลำอีกด้วย
"จนถึงขณะนี้ โครงการต่างๆ ที่ทางบริษัทดำเนินการทั่วประเทศ ทั้งการกำเนิดไฟฟ้าพลังงานลม การกำเนิดไฟฟ้าจากขยะ การกำเนิดไฟฟ้าพลังงานแสงแดด และการกำเนิดไฟฟ้าพลังงานชีวมวล ครอบคลุมพื้นที่กว่า 20 มณฑล อย่าง โครงการกำเนิดไฟฟ้าพลังงานลมได้เปิดเดินเครื่องแล้ว 10 ล้านเม็กกะวัตต์ นอกจากนี้ ทางบริษัทมีโรงงานกำเนิดไฟฟ้าจากขยะที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ"
อุตสาหกรรมรถยนต์พลังงานใหม่ก็เป็นอีกสาขาหนึ่งที่รัฐบาลจีนส่งเสริมในปีนี้ด้วย ขณะนี้ ผู้ประกอบการรถยนต์ในจีนอย่างน้อย 30 รายกำลังดำเนินโครงการวิจัยและพัฒนารถระบบพลังงานใหม่หลากหลายชนิด ทั้งรถเก๋ง รถผู้โดยสาร รถทำความสะอาด รถกวาดและทำความสะอาดถนน
(Ling)