สำหรับกรณีดังกล่าว สื่อมวลชนและนักเศรษฐกิจทั้งในและต่างประเทศพากันชี้ให้เห็นว่า การที่สมาชิกรัฐสภาสหรัฐ ฯ บางนคสร้างข่าวในปัญหาอัตราแลกเปลี่ยนเงินหยวนของจีน ตลอดจนลัทธิกีดกันทางการค้ามีแนวโน้มรุนแรงยิ่งขึ้นภายในสหรัฐฯ ทั้งนี้ ล้วนมีส่วนเกี่ยวข้องกับการเลือกตั้งระยะกลางของสหรัฐฯ ที่จะจัดขึ้นในช่วงปลายปีนี้ เพราะปัญหาเศรษฐกิจยังคงเป็นสิ่งที่ประชาชนให้ความสำคัญมากที่สุด แต่ขณะนี้ รัฐบาลพรรคเดโมแครตขาดความสามารถในการฟื้นฟูเศรษฐกิจสหรัฐฯ ให้ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด รวมถึงการปฏิรูประบบรักษาพยาบาลของรัฐบาลโอบามายังคงดำเนินไปอย่างยากลำบากมาก จึงประสบความพ่ายแพ้ในการเลือกตั้งของบางรัฐที่จัดขึ้นเมื่อเร็ว ๆ นี้ ดังนั้น สมาชิกรัฐสภาจากพรรคเดโมเครตบางคนจึงพยายามดึงดูดความสนใจของประชาชนสหรัฐฯ ให้หันไปยังประเทศจีน พยายามสร้างบรรยากาศที่ว่า "เมด อิน ไชน่า (made in china)" เป็นปัจจัยสำคัญที่ก่อให้เกิดปัญหาภายในประเทศสหรัฐฯ เพื่อได้รับคะแนนเสียงจากสหพันธ์กรรมกรและวงการอุตสาหกรรม ส่วนสมาชิกรัฐสภาจากพรรค ริพัลิบกันก็พยายามสร้างข่าวในปัญหาอัตราแลกเปลี่ยนเงินหยวน โดยมีวัตถุประสงค์ที่จะได้รับคะแนนเสียงจำนวนมากจากวงการอุตสาหกรรมเช่นกัน กล่าวคือ สมาชิกรัฐสภาและนักการเมืองส่วนหนึ่งของสหรัฐฯ ยื่นญัตติเกี่ยวกับอัตราแลกเปลี่ยนเงินหยวนนั้นเป็น "เกมส์ทางการเมือง"อีกครั้งหนึ่ง
อันที่จริง จีนมีท่าทีรับผิดชอบในด้านการปฏิรูประบบอัตราแลกเปลี่ยนเงินตรามาโดยตลอด นายเวินเจียเป่า นายกรัฐมนตรีจีนเคยกล่าวว่า ตั้งแต่เมื่อที่เกิดวิกฤตการเงินโลกและลุกลามขยายวงสู่ทั่วโลก จีนได้รักษาความมั่นคงของอัตราแลกเปลี่ยนเงินหยวนโดยพื้นฐาน ได้สร้างคุณูปการสำคัญต่อการฟื้นฟูเศรษฐกิจโลก ตั้งแต่เดือนกรกฏาคมปี 2005 จีนดำเนินการปฏิรูประบบแลกเปลี่ยนเงินตรา จนถึงขณะนี้ ค่าเงินหยวนขึ้นค่า 21% เมื่อเทียบกับค่าเงินดอลล่าร์สหรัฐฯ โดยเฉพาะระหว่างเดือนกรกฏาคมปี 2008 จนถึงเดือนกุมภาพันธ์ปี 2009 ซึ่งเป็นช่วงที่เศรษฐกิจโลกวิกฤตมาก ค่าเงินหยวนไม่ได้ลดลง กลับขึ้นค่า 14.5% ซึ่งมีบทบาทสำคัญต่อการฟื้นฟูเศรษฐกิจโลก
ผู้เชี่ยวชาญบางคนยังชี้ให้เห็นว่า การบีบบังคับให้จีนปรับอัตราแลกเปลี่ยนระหว่างเงินหยวนกับดอลล่าร์สหรัฐฯ ให้สูงขึ้นนั้น ไม่มีส่วนช่วยแก้ปัญหาการขาดดุลทางการค้าและปัญหาการตกงานของสหรัฐฯ สถิติที่เกี่ยวข้องปรากฏว่า ระหว่างเดือนกรกฏาคมปี 2005 ถึงเดือนกรกฏาคมปี 2008 เงินหยวนขึ้นค่า 21% แต่การขาดดุลทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีนกลับเพิ่มขึ้นจาก 202,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ มาเป็น 268,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ นายดาวก์ลาส ปาอัล รองประธานกองทุนสันติภาพระหว่างประเทศสหรัฐ ฯ กล่าวว่า การสร้างข่าวในปัญหาอัตราแลกเปลี่ยนเงินหยวนเป็นนัดกระสุนที่ยิงทำลายความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับสหรัฐฯ รัฐบาลสหรัฐ ฯ ควรสร้างบรรยากาศที่ดีระหว่างสองฝ่าย ร่วมมือกับจีน พยายามฟื้นฟูและรักษาความมั่นคงของเศรษฐกิจโลก
(Ppan/Lin)