งานมหกรรมโลกเซี่ยงไฮ้หรือ The World Exposition Shanghai China 2010 จะจัดขึ้นที่นครเซี่ยงไฮ้ของจีนระหว่างวันที่ 1 พฤษภาคมถึงวันที่ 31 ตุลาคมนี้ มีทั้งหมด 221 ประเทศและองค์การระหว่างประเทศจะเข้าร่วมงาน Expo ครั้งนี้ เพื่อเป็นพยานต์ของงาน Expo ที่ยิ่งใหญ่อลังการครั้งนี้ ส่วนประเทศไทยซึ่งมีประวัติการเข้าร่วมงาน Expo มากว่าร้อยปีก็จะเข้าร่วมงาน Expo เซี่ยงไฮ้ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 5 นายอิสสระ สมชัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ของไทยได้ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวสถานีวิทยุซีอาร์ไอเกี่ยวกับการเข้าร่วมงาน Expo เซี่ยงไฮ้ของประเทศไทย และได้แนะนำลักษณะการก่อสร้างของอาคารศาลาไทยด้วย
งานมหกรรมมีประวัติความเป็นมายาวนาน เป็นมหกรรมที่ผสมผสานระหว่างการแสดงภาพลักษณ์ของประเทศชาติกบผลิตภัณฑ์สินค้าและประดิษฐ์กรรมของโลกสมัยใหม่หลังการปฏิวัติอุตสาหกรรม ที่เริ่มมีขึ้นเป็นแรกในยุโรป ตรงกับปลายรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 4 และด้วยสายพระเนตรอันยาวไกลและพระปรีชาชาญด้านการต่างประเทศของพระองค์ ทำให้ประเทศไทยหรือสยามในเวลานั้นได้เข้าร่วมงานมหกรรมโลก และเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยสร้างชื่อเสียงของประเทศไทยให้เป็นที่รู้จักของชาวโลก และส่งผลดีในด้านความมั่นคงและการค้าการลงทุนของประเทศสืบมา อาคารศาลาไทยในงาน Expo เซี่ยงไฮ้ปีนี้ยังคงเน้นสถาปัตยกรรมรูปทรงไทยเป็นหลัก รวบรวมส่ิิ่งก่อสร้างแบบไทย ศิลปะวัฒนธรรมที่หลากหลายและสิ่งก่อสร้างทันสมัยอยู่ร่วมกัน ขณะเดียวกันยังใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่เพื่อแสดงโฉมหน้าใหม่ของการพัฒนาอย่างทั่วด้านของประเทศไทยให้แก่ชาวโลก นายอิสสระ สมชัยกล่าวขณะแนะนำลักษณะพิเศษของอาคารศาลาไทยในงาน Expo ครั้งนี้ว่า
"อาคารศาลาไทยที่สร้างขึ้นเป็นอาคารรูปแบบสถาปัตยกรรมไทย เน้นเรื่องวัฒนธรรมไทย เป็นอาคารรูปทรงไทย ซึ่งใช้ความผสมกลมกลืนกับเทคนิคใหม่"
อาคารศาลาไทยตั้งอยู่ในเขตโซนบีของสวนจัดงาน Expo เซี่ยงไฮ้ กินเนื้อที่ทั้งหมด 3117 ตารางเมตร การออกแบบของอาคารศาลาไทยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อนำเสนอ "ประเทศไทย" และแสดง "ความเป็นไทย" ให้นานาประเทศได้รู้จัก ในฐานะประเทศที่มีเอกลักษณ์และวัฒนธรรมอันเก่าแก่ต่อเนื่องมาจากถึงปัจจุบัน และนำเสนอให้เห็นถึงความพร้อมของประเทศที่จะพัฒนาและก้าวทันกระแสโลกาภิวัตน์ นายอิสสระ สมชัยแนะนำว่า อาคารศาลาไทยได้แบ่งเป็น ห้องจัดนิทรรศการทั้งหมด 3 ห้อง เขากล่าวว่า
"ห้องจัดนิทรรศการห้องที่หนึ่งเป็นการสื่อความหมายเรื่องราวหลากหลายวิถีชีวิตของคนไทยทั่วทุกภาคในประเทศนี้ว่า ดำรงอยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุขบนวิถึแห่งสายน้ำ ผู้ชมเข้าไปห้องนี้จะได้รับความสนุกและได้รับความรู้กับวิถึชีวิตของคนไทยตั้งแด่ัตั้งเดิมมามีความผสมผสานกลมกลืนกันอยู่ได้อย่างไร ในห้องจัดนิทรรศการห้องที่สอง เป็นการวิวัฒนาการ แสดงวัวัฒนการต่างๆในยุคสมัยเก่าๆ โดยเฉพาะเรื่องการเจริญสัมพันธไมตรีกับประเทศต่างๆ สามารถผสมผสานกลมกลืนความแตกต่างอย่างดีมาจนถึงปัจจุบัน ส่วนห้องที่สาม เป็นการถ่ายทอดวิถีชีวิตแบบพอเพียงอันเป็นความสุขที่แท้จริงของคนไทย และเป็นการสะท้อนชีวิต วิึุถีแห่งความยั่งยืน ด้วยการแสดงสี่มิติให้แก่ผู้ชม ท่านจะได้รับชม ไม่ว่าจะได้เห็นทั้งภาพ ได้ยินทั้งเสียง และได้มีการสัมผัส และทั้งกลิ่นด้วย"
นอกจากนี้ การตกแต่งภายในแต่ละห้องจัดนิทรรศการก็ได้ใช้สีสันที่สดใส เช่นสีแดง และยังได้ใช้เทคนิคใหม่เพื่อแสดงให้ผู้ชมได้เห็นศิลปะวัฒนธรรมที่หลากหลายของไทย นำผู้ชมไปสัมผัสกับวิถีชีวิตแบบไทยโบราณ นายอิสสระ สมชายกล่าวว่า การเข้าร่วมงาน Expo เซี่ยงไฮ้มีส่วนช่วยในการแสดงมนต์เสน่ห์ที่มีลักษณะพิเศษของประเทศให้แก่ชาวโลก และก็สามารถแสดงผลงานการพัฒนาที่ยิ่งใหญ่ในด้านการค้า เศรษฐกิจและการท่องเที่ยวที่ได้ประสบของประเทศไทยโดยถือโอกาสการเข้าร่วมงานครั้งนี้ นายอิสสระกล่าวว่า
"จึงไม่อาจจะสามารถประเิมินด้วยตัวเลขเงินได้ แต่สิ่งที่เราหวังว่าจะได้จากงานนี้ก็ได้แก่ การประชาสัมพันธ์ประเทศไทยบนเวทีโลก แสดงให้เห็นถึงความก้าวหน้าของประเทศไทย ภายใต้กระแสการพัฒนาด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่ และยังสามารถก่อให้เกิดความเชื่อมั่นให้กับต่างประเทศหรือว่านักธุรกิจต่างประเทศที่สนใจที่จะเข้ามาลงทุนในประเทศไทย ทั้งทางภาคเกษตรกรรม อุตสาหกรรม นอกจากนี้ ยังแสดงให้เห็นถึงความพร้อมของประเทศไทยในด้านอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ซึ่งเป็นรายได้ดีที่สุดอันหนึ่งของประเทศไทย ซึ่งเนื้อหาที่สามารถทำให้ชาวโลกเรียนรู้ทุกด้านของการจัดงานครั้งนี้ก็คือ เรื่องความมั่นคงทางด้านการค้า เศรษฐกิจและการท่องเที่ยว และแม้กระทั่งอาหาร เราก็จัดอาหารเข้าไปจำหน่ายให้กับผู้ชมในงาน โดยเน้นเป็นอาหารไทยทั้งสิ้น จะให้คนจีนไม่ว่าจะเป็นนักลงทุน นักธุรกิจหรือประชาชนทั่วไปได้มีโอกาสได้รับประทานอาหารไทย และมีความรู้ความเข้าใจต่อประเทศไทยให้มากยิ่งขึ้น"
