หลังจากการประกาศผลเลือกตั้งเมื่อวันที่ 26 มีนาคมนี้ ซึ่งผ่านไปสองเดือนกว่าแล้ว รัฐสภาใหม่ของอิรักได้เปิดประชุมครั้งแรกที่กรุงแบกแดดเมื่อวันที่ 14 มิถุนายนที่ผ่านมา ทว่าการประชุมครั้งนี้ดำเนินไปเพียง 10 นาทีก็ต้องหยุดชะงักลง โดยไม่ได้รับผลแต่อย่างใด
วันที่ 7 มีนาคมที่ผ่านมานี้ อิรักได้จัดการเลือกตั้งรัฐสภาครั้งที่ 2 ภายหลังสงครามอิรักสิ้นสุดลง ผลการเลือกตั้งที่ได้ประกาศเมื่อวันที่ 27 มีนาคมนี้ปรากฏว่า พรรคอิรักคิยาของอัลลาวีได้ 91 ที่นั่ง จากจำนวนสมาชิกรัฐสภาทั้งหมด 325 เสียง ขณะที่พรรคสเตท ออฟ ลอว์ อัลลิอานซ์ ของมาลิกี นายกรัฐมนตรีคนปัจจุบันได้ 89 ที่นั่ง พรรคดิอิรากิ เนชันแนล อัลลิอานซ์ พันธมิตรที่ร่วมโดย Islamic Supreme Council ซึ่งเป็นพรรคการเมืองที่ใหญ่ที่สุดของนิกายชีอะห์และกลุ่ม al-Sadr ที่ต่อต้านสหรัฐฯ ตามมาเป็นอันดับ 3 ได้ 70 ที่นั่ง ส่วนพรรคพันธมิตรเคิร์ดได้อันดับ 4 โดยได้ 43 ที่นั่ง ส่วนที่นั่งที่เหลือ เป็นของพรรคการเมืองอื่นๆ
เนื่องจากไม่มีพรรคใดพรรคหนึ่งได้ที่นั่งส่วนข้างมาก พรรคต่างๆจึงโต้แย้งกันอย่างไม่หยุดยั้งในเรื่องการจัดตั้งคณะรัฐมนตรี และแบ่งปันอำนาจภายในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา จึงทำให้ไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ ช่วงระยะเวลานี้ เขตเลือกตั้งของกรุงแบกแดดยังนับคะแนนเลือกตั้งใหม่ด้วย เนื่องจากมีพรรคการเมืองบางพรรคไม่ยอมรับผลการเลือกตั้ง วันที่ 1 มิถุนายนที่ผ่านมา ศาลสูงสุดอิรักตัดสินชี้ขาดต่อผลการเลือกตั้งว่า พรรคอิรักคิยาของอัลลาวีได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งทั่วไปของอิรัก หลังจากผ่านขั้นตอนต่าง ๆ แล้ว รัฐสภาใหม่จึงเห็นชอบที่จะเรียกประชุมเป็นครั้งแรกในวันที่ 14 มิถุนายน
ตามประเพณี การประชุมครั้งแรกของรัฐสภาใหม่จะเลือกตั้งประธานรัฐสภาและประธานาธิบดีคนใหม่ แต่ไม่มีวาระดังกล่าวในที่ประชุมครั้งนี้ บุคคลผู้สันทัดกรณีเปิดเผยว่า ที่ประชุมดำเนินไปเพียง 10 นาที โดยสมาชิกรัฐสภาทั้งหมดปฏิญาณตนเข้าดำรงตำแหน่งแล้วจึงสิ้นสุดการประชุมอย่างรีบร้อน
การประชุมครั้งแรกของรัฐสภาใหม่ที่ไม่เกิดผลแต่อย่างใดนั้นก็อยู่ในความคาดหมายของผู้คน เพราะว่า ไม่มีพรรคการเมืองใด ๆ ครองที่นั่งส่วนใหญ่ในรัฐสภา จึงไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ อีกทั้งพรรคการเมืองต่างๆ ไม่สามารถบรรลุความเห็นเป็นเอกฉันท์ได้ เกี่ยวกับการคัดสรรตัวบุคคลที่จะขึ้นเป็นประธานาธิบดี และนายกรัฐมน ตรี รวมทั้งปัญหาการจัดตั้งคณะรัฐมนตรี เนื่องจากต่างฝ่ายต่างคำนึงถึงผลประโยชน์ของตนเอง จึงเป็นเหตุให้ภายใต้สภาพที่ฝ่ายต่าง ๆมีความขัดแย้งกันอย่างรุนแรง การประชุมครั้งแรกของรัฐสภาใหม่ไม่สามารถได้รับผลคืบหน้าแต่อย่างใด
หลังจากประกาศผลการเลือกตั้งแล้ว นายอัลลาวี ผู้ที่ได้รับชัยชนะหวังมาโดยตลอดว่า จะร่วมกับพรรคดิอิรากิ เนชันแนล อัลลิอานซ์ที่ครองที่นั่งอันดับที่ 3 และพรรคพันธมิตรเคิร์ดที่ได้ที่นั่งอันดับ 4 เพื่อจะได้ที่นั่งเพียงพอสำหรับการจัดตั้งรัฐบาล และตนเองจะได้เป็นนายกรัฐมนตรี แต่แท้ที่จริงแล้ว พันธมิตรเคิร์ดกับพรรคดิอิรากิ เนชันแนล อัลลิอานซ์มีจุดยืนไม่ตรงกันกับพรรคอิรักคิยาของอัลลาวี ในปัญหาสำคัญหลายประการ จึงทำให้ความร่วมมือของสามพรรคดังกล่าวเป็นเรื่องที่เป็นไปได้ยาก นายอัลลาวีก็ยากที่จะขึ้นบัลลังก์นายกรัฐมนตรีเช่นกัน
ส่วนนายมาลิกี นายกรัฐมนตรีคนปัจจุบันก็ไม่เคยละโอกาสดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีต่อเนื่องอีกหนึ่งสมัย พรรคสเตท ออฟ ลอว์ อัลลิอานซ์ ที่นำโดยนายมาลิกีใช้ความพยายามมาตลอด เพื่อร่วมมือกับพรรคดิอิรากิ เนชันแนล อัลลิอานซ์ที่ครองที่นั่งอันดับที่ 3 ในรัฐสภา ทั้งยังแสวงหาทางร่วมกับพรรคการเมืองเล็กอื่นๆ เพื่อครองที่นั่งให้มากพอในการจัดตั้งรัฐบาล โดยตำแหน่งนายกรัฐมนตรีจะต้องเป็นของเขาเอง ทว่า นายมุกตาดา อัล ซาเดอร์ หนึ่งในหัวหน้าพรรคดิอิรากิ เนชันแนล อัลลิอานซ์ ผู้นำนิกายชีอะห์ที่มีชื่อเสียง คัดค้านการให้นายมาลิกีขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรี
นักวิเคราะห์ชี้ว่า แม้รัฐสภาใหม่ของอิรักได้จัดตั้งขึ้นแล้ว แต่กลุ่มการเมืองต่าง ๆ ยังคงโต้แย้งกันอย่างไม่หยุดหย่อน เกี่ยวกับการจัดตั้งคณะรัฐมนตรี จึงทำให้ไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลใหม่ได้ สุญญากาศทางอำนาจเป็นเวลานานจะเป็นการท้าทายอย่างร้ายแรงต่อความมั่นคง การฟื้นตัว และประชาธิปไตยของอิรัก เนื่องจากขาดการบริหารอย่างมีประสิทธิภาพของรัฐบาล จึงทำให้อิรักเกิดสภาพที่ขาดน้ำขาดไฟบ่อยครั้ง การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจหยุดชะงัก สถานการณ์ความมั่นคงยิ่งเลวร้ายลง วันที่ 13 มิถุนายนที่ผ่านมา ธนาคารกลางอิรักเกิดเหตุวินาศภัยด้วยระเบิดรถยนต์ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 26 ราย ขณะนี้ อิรักต้องการรัฐบาลที่มั่นคงและมีประสิทธิภาพ เพื่อมานำการฟื้นฟูประเทศชาติ ให้ประเทศมีความสงบเรียบร้อยอย่างยั่งยืน