สถานีวิทยุซีอาร์ไอรายงานว่า เมื่อวันที่ 18 มิถุนายนนี้ ผู้สื่อข่าวซีอาร์ไอได้สัมภาษณ์นางสาวลีนา พงษ์พฤกษา อัครราชทูตฝ่ายพาณิชย์ของไทยประจำประเทศจีน ต่อไปเป็นรายละเอียดของการสัมภาษณ์ครั้งนี้ครับ
ถาม: ในฐานะที่ท่านเป็นอัครราชทูตฝ่ายพาณิชย์ของไทยประจำประเทศจีน ท่านทำหน้าที่อะไรบ้างในการส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างจีนไทย
ตอบ: หน้าที่หลักของทูตพาณิชย์ที่นี่มีสองเรื่อง เรื่องแรกเกี่ยวกับการจัดการเจรจาการค้า การแก้ไขปัญหาการค้า เพื่อรักษาผลประโยชน์ของทั้งสองฝ่าย เรื่องที่สองคือ เรื่องการขยายตลาดการค้า ขยายการค้าขายกันระหว่างทั้งสองประเทศ
ถาม: ช่วงนี้ จีนเป็นตลาดที่พัฒนาค่อนข้างเร็ว ในฐานะที่เป็นท่านทูตฝ่ายพาณิชย์ ไทยได้ตั้งโครงการอะไรบ้างหรือจะใช้ยุทธศาสตร์เชิงรุกแบบไหนในตลาดจีน
ตอบ: ยุทธศาสตร์เชิงรุกของไทยในตลาดจีนคือ การสร้างความสัมพันธ์ เนื่องจากว่า ไทยกับจีนมีความสัมพันธ์ทางการทูตและทางการค้าต่อเนื่องกัน มาตั้งแต่สมัยโบราณแล้ว และคนไทยในประเทศไทยก็เป็นคนไทยที่มีเชื้อสายจีนอยู่จำนวนมาก ความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดและมีนานานแล้วนี้ก็เป็นยุทธศาสตร์สำคัญที่เราต้องรักษาไว้ เพื่อที่จะขยายเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ทั้งเรื่องการค้าขายระหว่างกัน ยุทธศาสตร์หลักของเราคือ เราจะเป็นหุ้นส่วนที่ใกล้ชิดที่สุดของประเทศจีน
ถาม: ขอให้ท่านทูตช่วยประเมินสถานการณ์การค้าระหว่างไทยกับจีนในปัจจุบันและในอนาคตหน่อยครับ
ตอบ: การค้าระหว่างไทยจีนในปีนี้ เป็นปีแรกที่มีการเปิดเสรีทางการค้าระหว่างอาเซียนกับจีน ทางฝ่ายจีนก็มีประมาณกันไว้ว่า การค้าระหว่างจีนกับอาเซียนจะเพิ่มขึ้น 40% แต่ในส่วนของประเทศไทยเองนั้นเพิ่มขึ้นมากกว่า การค้าระหว่างไทยกับจีนในช่วง 4 เดือนแรกของปีนี้ ไทยส่งออกสู่จีนเพิ่มขึ้นเกือบ 60% ในขณะที่นำเข้าจากจีนเพิ่มขึ้นประมาณ 50% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว จะเห็นได้ว่า การค้าระหว่างสองฝ่ายได้ขยายตัวค่อนข้างมาก นอกจากนั้นแล้ว ในช่วงสามสี่ปีที่ผ่านมานี้ การค้าระหว่างไทยกับจีนขยายตัวเพิ่มขึ้นมาก จนทำให้ขณะนี้ จีนกลายเป็นประเทศคู่ค้าอันดับหนึ่งของประเทศไทยแล้ว ทั้งในด้านการส่งออกและการนำเข้า