วันที่ 19 มิถุนายนที่ผ่านมา โฆษกธนาคารกลางจีนประกาศว่า จากสถานการณ์ทางเศรษฐกิจและสถานการณ์ทางการเงินภายในประเทศและของโลก ตลอดจนสภาพบัญชีเดินสะพัดของจีน ธนาคารกลางของจีนตัดสินใจจะผลักดันการปฏิรูประบบการกำหนดอัตราการแลกเปลี่ยนเงินหยวนจีน เพื่อให้มีความยืดหยุ่นมากขึ้น
ตั้งแต่วันที่ 21 กรกฎาคม 2548 เป็นต้นมา จีนเริ่มใช้ระบบอัตราแลกเปลี่ยนลอยตัวที่ปล่อยให้ค่าเงินเป็นไปตามกลไกของตลาด ซึ่งขึ้นอยู่กับอุปสงค์และอุปทานของสกุลเงินนั้น โดยธนาคารกลางเป็นผู้คอยกำกับควบคุมให้เป็นไปโดยปกติ หลายปีมานี้ ระบบการกำหนดอัตราแลกเปลี่ยนเงินหยวนมีการปฏิรูปอย่างมีขั้นตอนและได้รับผลตามที่คาดไว้ซึ่งได้แสดงบทบาทสำคัญในเชิงบวก
ปัจจุบัน เศรษฐกิจโลกเริ่มฟื้นตัว ทั้งเศรษฐกิจจีนมีแนวโน้มดีขึ้น จีนจึงมีความจำเป็นในการผลักดันการปฏิรูประบบการกำหนดอัตราแลกเปลี่ยนเงินหยวนเพื่อให้มีความยืดหยุ่นมากขึ้น
จากรายงานนโยบายด้านธนบัตรของธนาคารจีนแสดงให้เห็นว่า ตั้งแต่จีนปฏิรูปอัตราแลกเปลี่ยนเงินหยวนจีนเมื่อปี 2548 เป็นต้นมา กระทั่งถึงช่วงปลายไตรมาสแรกของปีนี้ อัตราแลกเปลี่ยนระหว่างเงินหยวนจีนกับดอลลาร์สหรัฐได้เพิ่มขึ้น 21.24% อัตราแลกเปลี่ยนระหว่างเงินหยวนจีนกับเงินยูโรเพิ่มขึ้น 9.34% ตามการคำนวณของธนาคาร BIS (Bank of International Settlements) อัตราแลกเปลี่ยนที่แท้จริงของเงินหยวนจีนเพิ่มขึ้น 18.28%
วันที่ 20 มิถุนายนที่ผ่านมา โฆษกธนาคารกลางของจีนยังแถลงว่า จะไม่ทำการประเมินและปรับค่าเงินหยวนครั้งใหม่ในลักษณะครั้งเดียว ซึ่งจะเป็นผลดีต่อการขจัดความไม่สมดุลในด้านการเงินของโลก และส่งเสริมให้ธนบัตรของโลกและระบบการเงินมีความมั่นคง