เมื่อวันที่ 23 กรกฎาคมที่ผ่านมา นางฮิลลารี คลินตันกล่าวในที่ประชุม ARF ว่า สหรัฐฯ มีความสนใจต่อกรณีพิพาทหมู่เกาะหนานซา หรือ หมู่เกาะแสปรทลีย์ (Spratly Island) และหมู่เกาะซีซา หรือ หมู่เกาะพาราเซล (Paracel Islands) การยุติข้อพิพาทดังกล่าว "เกี่ยวข้องกับผลประโยชน์แห่งชาติของสหรัฐฯ" "สหรัฐฯ ให้การสนับสนุนการดำเนินการด้วยวิธีการร่วมมือและเจรจาของประเทศต่างๆ ที่อ้างสิทธิอธิปไตยเหนือหมู่เกาะดังกล่าว โดยคัดค้านประเทศใดๆ ที่ใช้กำลังหรือข่มขู่ว่าจะใช้กำลังอาวุธ"
นายหนิว ซินชุน รองผู้อำนวยการสำนักงานว่าด้วยสหรัฐอเมริกา สถาบันวิจัยความสัมพันธ์ระหว่างประเทศสมัยใหม่ของจีนมีความเห็นว่า ตั้งแต่ต้นปีนี้เป็นต้นมา ความสัมพันธ์ทางการทหารและความมั่นคงระหว่างจีนกับสหรัฐฯ เป็นไปในทิศทางที่ไม่ดีนัก ถ้อยแถลงดังกล่าวของนางฮิลลารี คลินตันฉุดดึงให้ความสัมพันธ์นี้ตกต่ำลงไปอีก
"การหยิบยกปัญหาทะเลจีนใต้ขึ้นมากล่าวนั้น เท่ากับว่าสหรัฐฯ ถือเอาภัยคุกคามในอนาคตที่อยู่ในจินตนาการเป็นภัยคุกคามที่มีอยู่จริงในขณะนี้ ซึ่งในความจริงแล้ว ขณะนี้บริเวณน่านน้ำทะเลจีนใต้ มีเสรีภาพในการเดินเรือ ไม่มีภัยคุกคามใดๆ และไม่มีประเทศใดระบุว่าจะแก้ไขปัญหาด้วยกำลังอาวุธแต่อย่างใด"
ในที่ประชุม ARF นายหยาง เจี๋ยฉือ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศจีนได้ใช้วิธีการตั้งกระทู้ถาม เพื่อแสดงจุดยืนและแนวคิดของจีน เพื่อพิทักษ์อธิปไตยและคุ้มครองสิทธิประโยชน์ที่ชอบด้วยกฎหมายของจีน โดยเดินหน้าแก้ปัญหาทะเลจีนใต้ด้วยการเจรจาทวิภาคีอย่างเหมาะสม และรักษาเสถียรภาพของทะเลจีนใต้ โดยได้กล่าวประณามสหรัฐฯ ว่ากล่าวโจมตีจีน โดยกล่าวย้ำว่า จีนคัดค้านความมุ่งหมายใดๆ ที่จะผลักดันปัญหาทะเลจีนใต้ขึ้นมาเป็นปัญหาระหว่างประเทศ
อันที่จริงแล้ว ในช่วงปีหลังๆ นี้ จีนกับประเทศที่เกี่ยวข้องได้ดำเนินการเจรจาหลายครั้งเกี่ยวกับปัญหาทะเลจีนใต้ โดยได้บรรลุฉันทามติอย่างกว้างขวาง กลไกการเจรจาทวิภาคีระหว่างจีนกับฟิลิปปินส์ จีนกับเวียดนาม และจีนกับมาเลเซีย เป็นต้น กำลังดำเนินไปโดยมีผลคืบหน้าอย่างน่าพอใจในหลายระดับ
นายหนิว ซินชุนระบุว่า ปัจจุบัน ทะเลจีนใต้ไม่มีเหตุการณ์ใดๆ ที่เป็นภัยคุกคามต่อสันติภาพและเสถียรภาพส่วนภูมิภาค มีแต่แนวโน้มทางสันติ ซึ่งเป็นที่ยอมรับของคนโดยทั่วไป
"ท่าทีของจีนตลอดเวลาที่ผ่านมา เราเน้นการแก้ไขด้วยการเจรจาอย่างสันติ ขณะนี้ ทุกฝ่ายควรเก็บปัญหาเข้าลิ้นชักไว้ชั่วคราว โดยใช้หลักการ 'พื้นที่พัฒนาร่วม' ทะเลจีนใต้จึงอยู่ในภาวะที่ค่อนข้างสันติมาโดยตลอดจนกระทั่งถึงเวลานี้"
นายหนิว ซินชุนยังระบุว่า
"การที่สหรัฐฯ ต้องการจะผลักดันปัญหาทะเลจีนใต้ให้เป็นปัญหาระหว่างประเทศนั้น ประการแรกก็เพื่อสร้างข้อพิพาทระหว่างจีนกับประเทศสมาชิกอาเซียนบางประเทศขึ้นมาให้เป็นข้อพิพาทระหว่างจีนกับอาเซียน จากนั้น ผูกให้เป็นข้อพิพาทระหว่างจีนกับสหรัฐฯ อีก การกระทำเช่นนี้แท้จริงแล้วไม่มีทางจะนำไปสู่การแก้ปัญหาแต่อย่างใด"
(LING)