สถานีวิทยุซีอาร์ไอรายงานว่า เมื่อวันที่ 4 ตุลาคมที่ผ่านมา การประชุมว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศของสหประชาชาติที่เมืองท่าเทียนจินได้เปิดฉากขึ้น โดยการประชุมครั้งนี้จะเป็นการประชุมครั้งสุดท้าย ก่อนที่จะมีการจัดประชุมอีกครั้งที่เมืองแคนคูนในช่วงปลายปีนี้ ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่ได้มีการประชุมว่าด้วยสภาพภูมิอากาศที่จีน ผู้เข้าร่วมประชุมเห็นพ้องกันว่า การประชุมที่เทียนจินจะต้องทำให้กระบวนการเจรจาว่าด้วยสภาพภูมิอากาศต้องยึดมั่นในหลักการของอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ อีกทั้งเป็นโอกาสดีที่ประเทศต่างๆ จะแสวงจุดร่วมโดยผ่านการเจรจาอย่างเปิดเผยและมีความโปร่งใส นายไต้ ปิ่งกั๋ว มนตรีแห่งชาติจีนที่ร่วมประชุมครั้งนี้กล่าวว่า เขาหวังว่าประเทศต่างๆจะใช้ความพยายามต่อไป ในการขับเคลื่อนให้การเจรจาบรรลุข้อตกลงทางกฎหมาย
เนื่องจากการประชุมที่กรุงโคเปนเฮเกนเมื่อปลายปีที่แล้วไม่สามารถบรรลุข้อตกลงทางกฎหมายเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศได้ ทำให้บรรดาผู้แทนจึงฝากความหวังไว้กับการประชุมที่กรุงแคนคูน ประเทศเม็กซิโก ส่วนการประชุมที่เมืองท่าเทียนจินซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 4-9 ตุลาคมนี้เป็นการประชุมว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศครั้งสุดท้ายก่อนจะมีการจัดประชุมที่กรุงแคนคูน ก่อนที่การประชุมที่เมืองเทียนจินจะเปิดฉาก ประเทศต่างๆ มีข้อขัดแย้งกันมาก นางคริสเตียนา ฟิเกเรส (Christiana Figueres) เลขาธิการสำนักงานอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศจึงกล่าวในพิธีเปิดประชุมโดยเรียกร้องให้ประเทศต่างๆ แสวงจุดร่วม สงวนจุดต่างอย่างจริงจังเพื่อขับเคลื่อนให้การเจรจาบรรลุผลคืบหน้าครั้งใหม่ เธอกล่าวว่า
" การใช้ความพยายามในช่วง 10 เดือนที่ผ่านมา และผลคืบหน้าที่อาจได้จากการประชุมที่เมืองแคนคูนที่เราคาดหวังไว้นั้น ล้วนเป็นพื้นฐานที่ปูทางสู่การบรรลุข้อตกลงใหม่ เราต้องสร้างพื้นฐานให้เข้มแข็งไว้ก่อน แล้วจึงจะสามารถสร้างตึกระฟ้าขึ้นมาได้ "
จนถึงปัจจุบัน กระบวนการเจรจาว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศของสหประชาชาติได้ดำเนินมาเป็นเวลากว่า 20 ปีแล้ว และได้บรรลุผลคืบหน้าหลายประการ เช่น อนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ หรือ UNFCC (UN Framework Convention on Climate Change) และพิธีสารเกียวโต รวมทั้งโรดแมพบาหลี แต่หลังประชุมที่โคเปนเฮเกน ฝ่ายต่างๆ ไม่ค่อยพอใจกับสภาพการดำเนินงานของการประชุมว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศของสหประชาชาติ โดยเห็นว่า การทำงานมี ประสิทธิภาพต่ำเกินไป ประเทศที่พัฒนาแล้วบางส่วนจึงเสนอให้จัดการประชุมในวงเล็ก ต่อข้อเสนอนี้ นายเซี่ย เจิ้งหวา รองประธานคณะกรรมการการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติจีนกล่าวในงานแถลงข่าวว่า
"จีนมีข้อคิดเห็นให้ดำเนินการเจรจาภายใต้กรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ แต่จะไม่ปฏิเสธให้มีการจัดการเจรจาในวงเล็ก จีนหวังว่า การเจรจาในแต่ละครั้งจะทำให้สามารถพบข้อขัดแย้งที่สำคัญได้ ซึ่งจะนำไปหารือในที่ประชุมระดับรัฐมนตรี และหาข้อยุติต่อไป เมื่อทำเช่นนี้ ก็จะเป็นการส่งเสริมให้กระบวนการเจรจามีผลคืบหน้าเรื่อยๆ "
นายเซี่ย เจิ้งหวา รองประธานคณะกรรมการการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติจีนยังกล่าวว่า
"การเจรจาว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศของสหประชาชาติจะต้องดำเนินไปตามโรดแมพบาหลี และพยายามส่งเสริมให้กระบวนการเจรจามีผลคืบหน้า การประชุมที่กรุงบอนน์ประเทศเยอรมนีเมื่อสิงหาคมที่ผ่านมาได้ประสบผลคืบหน้าบ้างแล้ว หวังว่า การประชุมที่เมืองเทียนจินครั้งนี้จะมีผลคืบหน้าอีก เพื่อปูพื้นฐานให้แก่การประชุมที่แคนคูน ประเทศเม็กซิโกต่อไป "
(NL/cai)