งานมหกรรมจีน-อาเซียนครั้งที่ 7 ที่จัดเป็นเวลา 6 วันได้เปิดฉากขึ้นที่เมืองหนานหนิง เขตกวางสีของจีน และเป็นงานมหกรรมครั้งแรกหลังจากเขตการค้าเสรีจีน-อาเซียนเปิดตัวอย่างเป็นทางการ คุณเจิ้ง เจี้ยนจวุน เลขาธิการสำนักเลขาธิการงานมหกรรมจีน-อาเซียนกล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า งานมหกรรมจีน-อาเซียนจัดขึ้นที่เมืองหนานหนิงต่อเนื่องกันถึง 6 ครั้งแล้ว และประสบความสำเร็จด้วยดี ตั้งแต่ปี 2004 เป็นต้นมา ทั้งนี้นับเป็นส่วนหนึ่งในการกระตุ้นการพัฒนาของเขตการค้าเสรีจีน-อาเซียน

ช่วง 6 ปีที่ผ่านมา ยอดการค้าแบบทวิภาคีระหว่างจีนกับอาเซียนได้เพิ่มจาก 105,900 ล้านเหรียญสหรัฐฯขึ้นเป็น 213,011 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งเพิ่มขึ้นกว่า 1 เท่า ตั้งแต่ปี 2004 ที่มีการลงนามในความตกลงในกรอบเขตการค้าเสรีจีน-อาเซียน จนมาถึงปี 2010 ที่เขตการค้าเสรีที่ใหญ่ที่สุดในโลกได้ปรากฏโฉมหน้าต่อชาวโลกอย่างเป็นทางการ โดยครอบคลุมจำนวนประชากรถึง 1,900 ล้านคน ยอดจีดีพีรวม 6 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ มียอดการค้ารวมกว่า 4.5 ล้านล้านเหรียญสหรัฐฯ และมีองค์ประกอบเป็นประเทศกำลังพัฒนา ผลงานดังกล่าวย่อมหนีไม่พ้นจากคุณูปการงานมหกรรมจีน-อาเซียน

นับแต่จัดงานมหกรรมจีน-อาเซียนขึ้นครั้งแรกเมื่อปี2004 เป็นต้นมา มีนักธุรกิจกว่า 216,400 คนเข้าร่วม และมียอดการค้าถึง 8,171 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ขณะเดียวกัน การลงทุนระหว่างจีนกับอาเซียนก็ได้เพิ่มขึ้นอย่างมาก ครึ่งแรกของปี 2010 ยอดการค้าแบบทวิภาคีมีจำนวนกว่า 136,500 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 55 เมื่อเทียบกับระยะเดียวกันของปีที่แล้ว และมากกว่าอัตราการเติบโตด้านการนำเข้าและส่งออกในระยะเดียวกันของจีนร้อยละ 11 หลังจากเขตการค้าเสรีจีน-อาเซียนเปิดตัวแล้ว สินค้าที่จีนนำเข้าจากอาเซียนกว่า 7,000 ชนิดจะปลดภาษีเป็นศูนย์ โดยคิดเป็นร้อยละ93 ของสินค้าทั้งหมด พร้อมกันนี้ ประเทศอาเซียนก็ได้ปรับลดอัตราการเก็บภาษีด้วย ต่อไปในอนาคต จะมีการปรับลดภาษีระหว่างกันมากขึ้น ซึ่งจะให้ตลาดของทั้งสองฝ่ายที่มีส่วนเกื้อกูลกันขยายกว้างขึ้น

สำหรับงานมหกรรมจีน-อาเซียนครั้งที่ 7 นี้ได้รับการตอบสนองอย่างคึกคักจากภาคธุรกิจจำนวนมากทั้งจีนและต่างประเทศ ยอดการจองบูธมีถึง 5,360 บูธ เกินกว่าแผนที่วางไว้ร้อยละ 34 10 ประเทศอาเซียนกับสำนักเลขาธิการอาเซียนจองไว้ 1,345 บูธ มีจำนวนมากกว่างานมหกรรมจีน-อาเซียนครั้งที่แล้วร้อยละ15.2

คุณกู่ เสี่ยวซง รองผู้อำนวยการสถาบันสังคมศาสตร์ของกวางสีระบุว่า หลังจากเขตการค้าเสรีจีน-อาเซียนเปิดตัวแล้ว ได้ลดอุปสรรคด้านการลงทุนอย่างมาก ซึ่งได้สร้างโอกาสให้วิสาหกิจจีนก้าวไปสู่เอเชียอาคเนย์ ประเทศอาเซียนมีทรัพยากรที่อุดมสมบูรณ์ เช่น น้ำมันปิโตรเลี่ยม ผลิตภัณฑ์ป่าไม้และถ่านหิน แต่การผลิตด้านอุตสาหกรรมยังอยู่ในระดับที่ไม่สูง ทำให้อัตราการใช้ทรัพยากรให้เกิดประโยชน์สูงสุดไม่เต็มที่เท่าที่ควร ขณะเดียวกัน ประเทศอาเซียนก็มีแรงงานมากเพียงพอ จึงเหมาะที่จะไปลงทุนอุตสาหกรรมที่ต้องใช้แรงงาน

คุณสวี่ หนิงหนิง รองเลขาธิการประจำคณะมนตรีพาณิชย์จีน-อาเซียนกล่าวว่า งานมหกรรมจีน-อาเซียนได้ดำเนินการถึง 7 ครั้งแล้ว ต่อไปในอนาคต ต้องเสริมสร้างกลไกความร่วมมือให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้นและให้ประเทศอาเซียนมีส่วนร่วมมากขึ้น แม้ยอดการค้าระหว่างจีนกับอาเซียนมีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วก็ตาม แต่ยังไม่ค่อยสมดุลย์กัน เพราะเพียงแค่สิงคโปร์กับมาเลเซียก็มีสัดส่วนกว่าครึ่งหนึ่งในยอดการค้าระหว่างจีนกับอาเซียนแล้ว ส่วนประเทศสมาชิกใหม่ของอาเซียนยังมียอดการค้ากับจีนจำนวนไม่มาก ในการค้าระหว่างจีนกับอาเซียน ส่วนใหญ่เป็นการค้าของบริษัทข้ามชาติ หรือไม่ก็เป็นการค้าระหว่างท่าเรือที่ได้รับการยกเว้นภาษี (entrepot trade)

คุณหยาง มู่ นักวิจัยระดับสูงของสถาบันเอเชียตะวันออกศึกษามหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์กล่าวว่า ในบรรดาประเทศอาเซียน ประเทศสมาชิกเก่าต้องเร่งให้อุตสาหกรรมยกระดับสูงขึ้น ส่วนประเทศสมาชิกใหม่ต้องผลักดันให้อุตสาหกรรมมีความหลากหลายมากขึ้น เขาเสนอว่า งานมหกรรมจีน-อาเซียนที่ถือการกระชับความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจและการค้าระหว่างจีนกับอาเซียนเป็นหน้าที่สำคัญ ควรให้มีความแตกต่างกับงานมหกรรมอื่นๆ โดยต้องคำนึงถึงผลประโยชน์ของแต่ละฝ่ายและพิจารณาถึงความแตกต่างกันของแต่ละประเทศ เรียนรู้และวิเคราะห์ความต้องการที่ต่างกันของประเทศที่เกี่ยวข้องและปัญหาที่ต่างเผชิญอยู่

dai