วันเดียวกัน นายเซี่ย เจิ้นหวาได้เข้าร่วมการประชุมแถลงข่าวที่จัดขึ้นโดยสำนักงานสารนิเทศแห่งคณะรัฐมนตรีจีน และประกาศรายงาน "นโยบายและปฏิบัติการในการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของจีนปี 2010 "
ตามแผนการและเป้าหมายของรัฐบาลจีน จนถึงสิ้นปีนี้ การสิ้้นเปลืองพลังงานต่อหน่วยจีดีพีจะลดลง 20% เมื่อเทียบกับปี 2005 และจนถึงสิ้นปี 2020 ปริมาณการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์จะลดลง 40% - 45% เมื่อเทียบกับปี 2005 นอกจากนี้ พลังงานที่มิใช่ผลิตจากฟอสซิลจะมีสัดส่วนเพิ่มขึ้นเป็น 15% นายเซี่ย เจิ้นหวา กล่าวว่า จีนใช้ความพยายามอย่างมาก และคงจะใช้ความพยายามต่อไปเพื่อบรรลุเป้าหมายดังกล่าว ทั้งนี้แสดงให้เห็นถึงท่าทีที่รับผิดชอบและคุณูปการของจีน เขากล่าวว่า
"ในช่วงแผนการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมระยะ 5 ปี ฉบับที่ 10 เศรษฐกิจจีนโตขึ้นประมาณ 9.8% ต่อปี มีการสิ้นเปลืองพลังงานกว่า 10% ต่อปี แต่ในช่วง 4 ปีแรกของแผนการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมระยะ 5 ปีฉบับที่ 11 เศรษฐกิจจีนโตขึ้นกว่า 10% ต่อปี แต่การสิ้นเปลืองพลังงานโตขึ้นเพียง 6.8% เห็นได้ว่า ด้วยการใช้มาตรการต่างๆ เพื่อประหยัดและลดการสิ้นเปลืองพลังงาน จีนได้สร้างคุณูปการที่เห็นได้ชัดในด้านการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ โดยการปรับเปลี่ยนรูปแบบการพัฒนาเศรษฐกิจและการปรับปรุงโครงสร้างการผลิต"
จีนเป็นประเทศกำลังพัฒนา มีจีดีพีเฉลี่ยต่อคน 3,700 ดอลล่าร์สหรัฐฯ เท่านั้น จัดอยู่อันดับประมาณ 100 ของโลก ตามมาตรฐานผู้ยากจนของสหประชาชาติ จีนยังมีประชากรประมาณ 150 ล้านคนยังอยู่ใต้เส้นความยากจน นายเซี่ย เจิ้นหวา เห็นว่า จีนยังต้องพยายามพัฒนาเศรษฐกิจและ ปรับปรุงชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนให้ดีขึ้น ขณะเดียวกัน ยังต้องรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ และควบคุมการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ซึ่งเป็นภาระหน้าที่หนักมาก
สถิติปรากฏว่า ช่วง "แผนการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมระยะ 5 ปี ฉบับที่ 11" ขณะที่จีนพยายามรักษาแนวโน้มการเติบโตทางเศรษฐกิจอยู่นั้น ยังต้องตั้งเป้าหมายที่จะลดการปล่อยสารคาร์บอนไดออกไซด์ให้ได้กว่า 1,500 ล้านตันขึ้นไป นี่เป็นตัวเลขที่ประเทศหนึ่งประเทศใดของโลกไม่เคยทำได้ และช่วง 5 ปีแรกของแผนการดังกล่าว จีนต้องลงทุนเกือบ 2 ล้านล้านหยวนเพื่อใช้ในการปฏิบัติการประหยัดพลังงานและลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก
ปฏิญญานานาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศระบุว่า ประเทศกำลังพัฒนาควรใช้ปฏิบัติการเพื่อควบคุมการปล่อยก๊าซเรือนกระจก โดยจะได้รับการสนับสนุนด้านเงินทุนและเทคโนโลยีจากประเทศพัฒนาแล้ว แต่จีนได้ดำเนินการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกโดยใช้ทรัพยากรของประเทศตนด้วยความสมัครใจ นายเซี่ย เจิ้นหวายังกล่าวว่า
"ตามประวัติศาสตร์ที่ผ่านมา ประเทศพัฒนาแล้วได้ปล่อยก๊าซเรือนกระจกจำนวนมหาศาล ถึงแม้ในปัจจุบัน ปริมาณการปล่อยต่อคนก็ค่อนข้างมากเช่นเดิม ดังนั้น จีนหวังงว่า ประเทศพัฒนาแล้วควรแสดงบทบาทนำในด้านการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และจับมือกับประเทศต่างๆ ใช้ความสามารถและความพยายามร่วมกันในการับมือกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศอย่างเต็มที่"
(Ton/Lin)