การซ้อมรบที่น่านน้ำเกาะยอนเปียงเพิ่งสิ้นสุดลงไม่นาน ทหารเกาหลีใต้ยังก่อเหตุการณ์ทำให้เกาหลีเหนือเกิดความตึงเครียดขึ้นอีก ตั้งแต่วันที่ 22 ธันวาคมนี้เป็นต้นมา ทหารเรือเกาหลีใต้จัดการซ้อมรบที่น่านน้ำทะเลตะวันออกเป็นเวลา 3 วัน โดยเฉพาะในบ่ายวันที่ 23 ธันวาคมนี้ กองทัพบกและทัพอากาศของเกาหลีใต้จัดการซ้อมรบ "ครั้งใหญ่ที่สุด" ที่เมืองโปชอน ภาคเหนือของกรุงโซล เพื่อ "ตรวจสอบสมรรถนะการป้องกันประเทศของกองทัพ"

การซ้อมรบครั้งนี้มีทหารเข้าร่วมจำนวน 800 นาย และเครื่องบินรบรุ่น F-15 รุ่น KF-16 รถสงคราม K-1 เฮลิคอปเตอร์จู่โจม AH-1S และยุทโธปกรณ์อื่นๆทั้งหมด 105 ชนิด กระทรวงกลาโหมเกาหลีใต้กล่าวว่า การซ้อมรบที่เมืองโปชอนครั้งนี้เป็นการซ้อมรบประจำปีในฤดูหนาว ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อ "ตรวจสอบสมรรถนะการป้องกันประเทศของกองทัพ"

สื่อมวลชนเกาหลีใต้ลงบทนำระบุว่า การซ้อมรบในช่วงฤดูหนาวครั้งนี้มีลักษณะที่เด่นชัดข้อหนึ่งคือ ไม่ใช่การซ้อมรบเชิงป้องกัน แต่เป็นการซ้อมรบเชิงรุกต่างหาก สื่อมวลชนชี้ให้เห็นว่า ขณะที่การซ้อมรบที่น่านน้ำทะเลตะวันออกตั้งแต่วันที่ 22 ธันวาคมที่ผ่านมา กำลังดำเนินอยู่ ยังมีจัดการซ้อมรบที่เมืองโปชอนในวันที่ 23 นี้อีก การที่เกาหลีใต้จัดการซ้อมรบหลายรอบพร้อมกัน ย่อมจะทำให้สถานการณ์บนคาบสมุทรเกาหลีมีความตึงเครียดมากยิ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง

วันที่ 23 ธันวาคมนี้ นายลี เมียงบัค ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ได้ตรวจสภาพกองทหารเกาหลีใต้ประจำชายแดนระหว่างเกาหลีใต้กับเกาหลีเหนือ นายลี เมียงบัคกล่าวว่า การตอบโต้เกาหลีเหนือด้วยท่าทีแข็งกร้าวเป็นวิธีการรักษาสันติภาพบนคาบสมุทรเกาหลี และสามารถต่อต้านการท้าทายทางทหารจากเกาหลีเหนือ เขายังเน้นว่า สำหรับการท้าทายจากเกาหลีเหนือ เกาหลีใต้ต้องมีความสามัคคีกันทั่วประเทศ ท่าทีแตกต่างกันของประชาชนเกาหลีใต้ในนโยบายเกาหลีเหนืออาจจะทำให้สังคมเกาหลีใต้เกิดการแตกแยก

สำหรับการซ้อมรบของเกาหลีใต้ สื่อมวลชนเกาหลีเหนือตีพิมพ์บทความหลายบทในวันที่ 23 ธันวาคมโดยวิจารณ์ว่า เกาหลีใต้ขัดขวางการปรับปรุงความสัมพันธ์ระหว่างเกาหลีเหนือกับเกาหลีใต้ ด้วยการจัดซ้อมรบอย่างต่อเนื่อง ทำให้สถานการณ์บนคาบสมุทรเกาหลีตกอยู่ในภาวะตึงเครียดอย่างรุนแรง

วันที่ 23 ธันวาคมนี้ สำนักข่าวกลางเกาหลีเหนือประณามว่า การซ้อมรบที่เมืองโปชอนนั้นเป็นการท้าทาย และเป็นการฝึกซ้อมการก่อศึกสงครามที่ร้ายแรง โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อก่อสงครามรุกรานภาคเหนือ

หนังสือพิมพ์โรดอง ซินมุนของเกาหลีเหนือออกบทความในวันที่ 23 ธันวาคมโดยระบุว่า ทางการเกาหลีใต้ถือการท้าทายจากเกาหลีเหนือเป็นข้ออ้าง จัดการซ้อมรบใหญ่ในปีนี้หลายครั้ง โดยมุ่งจะก่อให้เกิดสงครามการรุกรานขึ้น ทั้งนี้แสดงว่าให้เห็นว่า ทางการเกาหลีใต้ไม่สนใจโชคชะตาของประเทศชาติและประชาชน ตั้งใจดำเนินการที่เป็นปฏิปักษ์ทางนโยบาย ทำให้สถานการณ์คาบสมุทรเกาหลีทวีความตึงเครียดอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน บทความยังวิพากษ์วิจารณ์ว่า สหรัฐฯ เกาหลีใต้กับญี่ปุ่นเสริมความเป็นพันธมิตรทางทหาร เป็นการเพิ่มการคุกคามทางทหารต่อเกาหลีเหนือ ทำให้สันติภาพและเสถียรภาพในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงเหนือตกอยู่ในวิกฤตการณ์ที่ร้ายแรง

นักวิเคราะห์เห็นว่า การกระทำของเกาหลีใต้เช่นนี้ไม่เป็นผลดีต่อสันติภาพบนคาบสมุทรเกาหลี โดยยังไม่คาดเดาได้ว่า เกาหลีเหนือจะมีปฏิกิริยาอย่างไรในอนาคต

NL/Min/Sun