พริกเป็นหนึ่งในเครื่องปรุงที่ขาดเสียมิได้ในโต๊ะอาหารของชาวอินโดนีเซีย แต่เมื่อช่วงสองเดือนที่ผ่านมา ราคาพริกชี้ฟ้าทั้งเม็ดแดงและเขียว ในอินโดนีเซียแพงขึ้นจากเดิมเป็นสิบเท่า ทำให้ราคาต่อกิโลกรัมของพริกสดเหล่านี้ แพงกว่าเนื้อวัวเสียอีก
ภาวะที่ฝนไม่ตกต้องตามฤดูกาล คือฝนตกในฤดูแล้ง ได้สร้างความเสียหายให้กับสวนพริก ทำให้พริกชี้ฟ้าขาดตลาดส่งผลให้ราคาพริกชี้ฟ้าในเดือนธันวาคม แพงขึ้นจากกิโลกรัมละ 77 บาท เป็น 380 บาท แต่ความตื่นตระหนกของบรรดาผู้ขายอาหารและแม่บ้านทั่วไป ที่กลัวว่าพริกจะขาดตลาด ยิ่งทำให้ราคาแพงขึ้นไปอีก จนถึงกิโลกรัมละ 700 บาท เมื่อเดือนที่แล้ว
ความตื่นกลัวในประเทศที่มีประชากร 237 ล้านคนแห่งนี้ ได้ลามไปถึงประธานาธิบดีซูซิโลบัมบัง ยูโดโยโน่ด้วย เขาได้เสนอให้บรรดาครัวเรือนต่าง ๆ ทำสวนครัวปลูกพริกชี้ฟ้าไว้กินเอง ขณะที่รัฐมนตรีคนอื่น ๆ บอกว่า ควรหันไปใช้ซ้อสพริกบรรจุขวดแทนไปก่อน แต่สำหรับชาวอินโดนีเซียส่วนใหญ่ การขาดเครื่องเคียงอย่าง " แซมบัล " หรือ พริกชี้ฟ้าบด จะทำให้อาหารขาดรสชาติ แม่บ้านคนหนึ่งบอกว่า ลูก ๆ ของเธอไม่ยอมรับประทานอาหาร ถ้าไม่มีแซมบัล
นอกจากพริกชี้ฟ้าแล้ว ราคาสินค้าอย่างอื่นก็ทะยานขึ้นด้วยเช่นกัน ดัชนีราคาผู้บริโภคได้พุ่งขึ้นไป 7 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเดือนธันวาคม โดยเฉพาะราคาพริกชี้ฟ้า แพงกว่าสินค้าชนิดอื่น ตอนนี้ พริกที่ปลูกอยู่กลายเป็นสมบัติอันล้ำของชาวสวน ที่จะต้องพกอาวุธและคอยเฝ้าสวนตลอดเวลา เพื่อป้องกันไม่ให้คนบุกรุกเข้าไปขโมยพริก การนำเข้าพริกชี้ฟ้าจากไทยและจีนนั้น ได้ช่วยบรรเทาวิกฤติขาดแคลนพริกได้ไม่มากนัก
(In/Dai)