ซี- สวัสดีค่ะท่านผู้ฟังที่เคารพ ยินดีต้อนรับเข้าสู่รายการคุยกันวันละประเด็นกับหานซี และคุณพัลลภ สามสีค่ะ คุณพัลลภทราบไหมคะว่าปัจจุบันอาชีพที่ได้รับความนิยมมากที่สุดจากนักศึกษาจีนมีอะไรบ้าง
ต้น- ผมลองเดาดูนะ น่าจะเป็นข้าราชการ ทนายความ แพทย์ หรือทำธุรกิจเองใช่ไหมล่ะ เพราะอาชีพเหล่านี้มีรายได้สูง และฐานะทางสังคมดี น่าจะเป็นที่นิยมมากของนักศึกษาจีน
ซี- เปล่า แม้ว่าอาชีพที่พี่ว่ามานี้ได้รับความนิยมอย่างสูงก็จริง แต่นักศึกษาที่สามารถเข้าสู่วงการเหล่านี้ และประสบความสำเร็จนั้นมีน้อยมาก สำหรับนักศึกษาทั่วไปแล้ว พวกเขาก็เลยหาอาชีพอื่นๆ เพื่อหารายได้เลี้ยงตนเอง ซึ่งอาชีพเหล่านี้ทำได้ตั้งแต่ยังอยู่ในมหาวิทยาลัย บางอย่างยังทำต่อได้หลังเรียนจบด้วย
ต้น- แหม อยากทราบจังเลยว่า มีอาชีพอะไรบ้าง เผื่อจะเป็นแนวทางให้นักศึกษาในเมืองไทยทำได้บ้าง น้องซีช่วยเล่าให้ฟังนะคะ
ซี- ค่ะ อาชีพเหล่านี้ถ้าว่าไปแล้วล้วนเป็นอาชีพแปลกใหม่ ซึ่งพี่อาจจะไม่เคยได้ยินด้วยซ้ำ อย่างเช่น ปลอมตัวไปสอบแทน
ต้น- สอบแทนหรือ ทำเป็นอาชีพเลยหรือ น่าจะเป็นอาชีพใต้ดินนะ
ซี- ค่ะ แม้ว่าจะเป็นอาชีพที่ไม่น่ายกย่องชื่นชม แต่กลับได้รับความนิยมอย่างมากจากนักศึกษาที่เรียนเก่งในมหาวิทยาลัยค่ะ ค่าตอบแทนอยู่ระหว่างร้อยหยวนถึงหมื่นกว่าหยวน ขึ้นอยู่กับความยาก และความสำคัญของการสอบค่ะ
ต้น- ส่วนใหญ่แล้วจะสอบแทนวิชาประเภทไหนล่ะ เห็นค่าตอบแทนแพงจัง
ซี- ส่วนใหญ่จะเป็นวิชาโอเพนคอร์สซึ่งนักศึกษามักจะหนีเรียน เวลาสอบปลายเทอม ถ้าไม่ได้ทบทวนอย่างละเอียดและกลัวสอบตก ก็ไปหาคนปลอมตัวไปสอบแทน ส่วนคนที่สอบแทนคนอื่นก็ได้รายได้ไม่น้อยเชียว
ต้น- แหม ผมว่าอย่าทำอาชีพนี้ดีกว่า เพราะแม้จะมีรายได้สูงพอสมควร แต่จะทำให้ระบบการเรียนการสอนเสียไปหมด และดูเหมือนว่าเป็นการช่วยเหลือคนอื่น แต่ความจริง ถ้าดูในระยะยาวแล้ว คนที่ได้รับความช่วยเหลือแบบนี้จะขี้เกียจมากขึ้นเรื่อยๆ ในที่สุดชีวิตเขาอาจจะหลงทาง
ซี- ค่ะ ดิฉันก็เห็นด้วยค่ะ เพราะแทนที่จะเป็นการช่วยเหลือคนอื่น ดิฉันว่าเป็นการทำลายเขาต่างหาก ไม่ได้เป็นอาชีพที่น่าชื่นชมแต่อย่างใด
ต้น- มีอาชีพที่ทั้งสร้างรายได้ดีๆ และมีประโยชน์ต่อตนเอง และคนอื่นไหมครับที่นักศึกษานิยมทำกัน
ซี- มีค่ะ หลายอย่างด้วย เช่นเปิดร้านค้าออนไลน์ สถิติจากเว็บไซต์ TaoBao ซึ่งเป็นเว็บร้านค้าออนไลน์ยอดฮิตของจีนพบว่า เจ้าของร้านค้าทางเว็บไซต์ TaoBao มี40% เป็นนักศึกษาในมหาวิทยาลัย
ต้น- ผมอ่านจากเว็บไซต์พบว่า การที่นักศึกษาจีนนิยมเปิดร้านค้าออนไลน์มากก็เป็นเพราะว่าหางานทำได้ยาก นักศึกษาที่เรียนจบแต่ยังไม่มีงานทำจำนวนไม่น้อยจึงเลือกที่จะเปิดร้านค้าออนไลน์ไปพลางๆก่อน เมื่อมีโอกาสหางานทำได้จึงสมัครไปทำงานต่อ ตามสถิติ นักศึกษาที่เรียนจบแล้วมี 60% สนใจเปิดร้านค้าออนไลน์
ซี- น้องซีซีมีเพื่อนคนหนึ่งเปิดร้านค้าออนไลน์ที่เว็บไซต์ TaoBao เหมือนกันค่ะ ก่อนที่เธอเรียนจบ ก็เปิดร้านออนไลน์ขายพวกกระเป๋า เสื่อผ้าเพื่อทำให้ชีวิตมหาวิทยาลัยมีชีวิตชีวามากขึ้น ไม่ต้องมุ่งแต่เรียนอย่างเดียว แต่สิ่งที่คาดไม่ถึงคือ ไม่ถึงสัปดาห์กลับขายของได้กว่า 2,000 หยวน
ต้น- เพิ่งเปิดไม่ถึงสัปดาห์ก็ขายของได้กว่า 2,000 หยวนเลยเหรอ สงสัยทุ่มประชาสัมพันธ์พิเศษๆ เพียบเลยใช่ไหมล่ะครับ
ซี- ค่ะ เธอพิมพ์โปสเตอร์จำนวนมาก แล้วเอาไปแปะไว้ตามกระดานหน้าโรงอาหาร หอพัก และตึกเรียนในมหาวิทยาลัยต่างๆ นอกจากนี้ยังใช้MSNประชาสัมพันธ์ร้านค้าของตนกับเพื่อนๆ ด้วยกิจกรรมเหล่านี้ไม่เพียงแต่เป็นโฆษณาเท่านั้น หากยังทำให้เธอมีเพื่อนใหม่มากขึ้นด้วยค่ะ
ต้น- ครับ ผมเชื่อว่าเพื่อนๆ เห็นความสำเร็จของเธอแล้วก็คงอยากเปิดร้านค้าออนไลน์เหมือนกัน ผมได้ยินว่าเปิดร้านค้าออนไลน์ง่ายมาก สิ่งที่ต้องเตรียมก็แก่ เครื่องคอมพิวเตอร์ เครือข่ายอินเตอร์เน็ต กล้องถ่ายรูป และบัตรประชาชน เมื่อเตรียมของเหล่านี้เสร็จ ก็พร้อมจดทะเบียนที่เว็บไซต์ TaoBao ได้แล้ว
ซี- ค่ะ เงินลงทุนน้อย และขั้นตอนจดทะเบียนที่ง่ายก็เป็นเหตุสำคัญที่ดึงดูดให้นักศึกษาเปิดร้านค้าออนไลน์
ต้น- ไม่ทราบว่า ธุรกิจของนักศึกษาเหล่านี้ดำเนินได้ดีหรือเปล่าครับ ผมว่าคงเลี้ยงตนเองไม่ได้ เพราะนักศึกษายังต้องทุ่มเทกับการเรียน คงมีเวลาดูแลธุรกิจไม่มากหรอก
ซี- ปกติ นักศึกษาที่เปิดร้านค้าออนไลน์สามารถทำรายได้เดือนละ 1,000 – 4,500 หยวน แม้ว่าำไม่สู้จะสูงนัก แต่สำหรับนักศึกษาแล้ว ก็เป็นช่องทางหารายได้อย่างหนึ่งที่ดีทีเดียวค่ะ
ต้น- แต่ผมว่า อาชีพนี้ก็มีข้อด้อยเปรียบเหมือนกัน เพราะวันๆ ต้องจ้องมองแต่จอคอมพิวเตอร์ นานวันเข้าก็ไม่เป็นผลดีต่อสุขภาพ และเสียเวลาในการออกไปหางานทำด้วย
ซี- ใช่ค่ะ นักศึกษาบางคนเมื่อเป็นเจ้าของร้านค้าออนไลน์แล้วก็ขี้เกียจไปสมัครงานต่างๆ จึงพลาดโอกาสมากมาย
ต้น- ครับ ผมว่าสำหรับนักศึกษาในมหาวิทยาลัย หรือนักศึกษาที่จบใหม่ๆ การเปิดร้านค้าออนไลน์เป็นวิธีทดลองทำธุรกิจที่ปฏิบัติได้จริง และเป็นประโยชน์ เพราะต้องการเงินลงทุนน้อย และมีความเสี่ยงไม่มาก นอกจากนี้ยังเป็นการสะสมประสบการณ์ในการทำงานจริงด้วย แต่ถ้าพูดในระยะยาวแล้ว หากเอาแต่ทำร้านค้าออนไลน์ขนาดเล็กๆ เช่นนี้ ก็ยากที่จะพัฒนาธุรกิจของตัวเองได้ และไม่สามารถแข่งกับร้านค้าออนไลน์ใหญ่ที่มีศักยภาพ ในที่สุดอาจล้มเหลวก็ได้
ซี- เพราะฉะนั้น การเปิดร้านค้าออนไลน์จะทำเป็นอาชีพชั่วคราวได้ แต่ในระหว่างนี้ต้องพยายามออกไปสมัครงานด้วย หรือหากอยากทำธุรกิจเองจริงๆ ก็ต้องเปิดวิสัยทัศน์ให้กว้างไกล ใช้ประสบการณ์ และเงินทุนที่สะสมไว้ในการทำร้านค้าออนไลน์ไปทำธุรกิจจริงจังและที่มีอนาคตสดใสกว่านี้
ต้น- ยังมีอาชีพแปลกใหม่อื่นที่นักศึกษาจีนนิยมทำกันไหมครับ ฟังแล้วก็ได้ความรู้ดี
ซี- พี่ทราบไหมคะว่า ทุกวันนี้การเข้าร่วมการประกวดประเภทต่างๆ ก็กลายเป็นอาชีพอย่างหนึ่งของนักศึกษา
ต้น- จริงหรือครับ มิน่าล่ะครับ พอพี่เปิดทีวีดู เห็นมีรายการประกวดประเภทต่างๆ ทั้งร้องเพลง ความสามารถพิเศษต่างๆ การเต้นรำ และพวกนางงามเต็มไปหมด ในทุกรายการมีแต่หนุ่มหล่อสาวสวย ผมก็สังเกตอยู่ว่า ผู้ที่เข้าร่วมการประกวดเหล่านี้ส่วนใหญ่แล้วยังมีอายุน้อย และน่าจะยังเป็นนักศึกษาอยู่
ซี- ค่ะ ปัจจุบัน มีนักศึกษากลุ่มหนึ่งเข้าร่วมการประกวดประเภทต่างๆ บ่อยครั้งมากจนพูดว่าทำเป็นอาชีพก็ได้ อย่างเช่น เฉิน หลิงหยวน นักศึกษาอายุ 21 ปีจากมหาวิทยาลัยครูฉงชิ่งเคยเข้าร่วมการประกวดประเภทต่างๆ กว่า 40 ครั้งภายในเวลาเพียง 3 ปีเท่านั้น ในการประกวดนางงามฉงชิ่ง ผู้ที่เข้ารอบ 10 อันดับสุดท้ายมี 5 คนมาจากห้องเีีรียนชั้นเดียวกัน คือวิชาเอกผู้ประกาศ และผู้ดำเนินรายการของสถาบันนิเทศศาสตร์มหาวิทยาลัยซีหนาน สถิติพบว่า ในบรรดาผู้คนที่เข้าร่วมการประกวดประเภทต่างๆ จะมีนักศึกษาอย่างน้อย 50%
ต้น- ครับ หลายปีมานี้จีนมีการประกวดประเภทต่างๆ มากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งมีทั้งการประกวดระดับชาติ ระดับท้องถิ่น ระดับรัฐบาล และของเอกชน นักศึกษาที่เข้าร่วมการประกวดก็มีมากขึ้นเรื่อยๆ ผมเข้าใจว่าทั้งนี้เป็นเพราะนักศึกษากำลังอยู่ในวัยที่อยากแสดงความสามารถ และมีความกระดือรือร้นสูง แถมยังมีการประกวดบางอย่างที่จัดให้เฉพาะนักศึกษาด้วยก็มี
ซี- ค่ะ นอกจากนี้ ดาราที่ได้รับความนิยมอย่างมากหลายคนก็มาจากเวทีประกวดประเภทต่างๆ นี้แหละค่ะ จึงเป็นแรงบันดาลใจให้นักศึกษาหลั่งไหลเข้ามาในวงการประกวดต่างๆ
ต้น- แล้วการประกวดที่นักศึกษาสนใจเป็นพิเศษเป็นการประกวดประเภทไหนครับ
ซี- พูดโดยรวมแล้ว การประกวดที่นักศึกษานิยมเข้าร่วมกันคือ การประกวดระดับชาติ และระดับรัฐบาล เพราะจะมีชื่อเสียงมากกว่า แต่เมื่อพูดถึงสาเหตุที่ตัดสินใจไปเข้าร่วมการประกวดประเภทต่างๆ นักศึกษาต่างมีความคิดเห็นของตนเองแตกต่างกันไป บางคนบอกว่าเพื่อที่จะปูทางเข้าสู่วงการความบันเทิง บางคนมีวัตถุประสงค์เพื่อแสดงความสามารถพิเศษของตนเอง และเพื่อความได้เปรียบเวลาไปสมัครงานก็มี ส่วนบางคนก็คิดว่าเป็นการฝึกฝนตนเองให้มีความกล้าแสดงออกมากขึ้น
ต้น- อือ ผมได้ยินว่า ระหว่างอยู่ในมหาวิทยาลัย เหลียง เจียซิน กับเหลียง เจียเยี่ยว สาวฝาแฝดคู่หนึ่งเข้าร่วมการประกวดกว่า 30 ครั้งภายในเวลา 4 ปี ทั้งประกวดมิสยูนิเวิร์ส และแอร์โฮสเตส และผ่านเข้ารอบลึกๆ ตลอดด้วย แต่ท้ายที่สุดฝาแฝดคู่นี้กลับตัดสินใจไปสอบเข้ารับราชการทหาร ทำไมพวกเธอจึงตัดสินใจอย่างนี้ครับ
ซี- น้องซีก็เคยได้ยินชื่อของสองคนนี้ค่ะ และก็เคยสงสัยเช่นเดียวกับพี่พัลลภค่ะ แต่เมื่ออ่านบทสัมภาษณ์ของเธอสองคนแล้ว น้องซีซีก็เข้าใจ คือ การที่เธอสองคนสมัครเข้าประกวดประเภทต่างๆ ก็เพื่อที่จะฝึกตนเองให้มีความกล้าแสดงออกมากขึ้น และได้แสดงความสามารถของตนเอง ปี 2006 สองคนนี้ได้รับรางวัลความสามารถพิเศษในการประกวดมิสยูนิเวิร์ส ปี 2007 ในการประกวดแอร์โฮสเตสในหัวข้อ "กุหลาบบนท้องฟ้า" สองคนนี้ก็เข้ารอบ 15 คนสุดท้ายระดับประเทศ แต่ท้ายที่สุดเธอสองคนก็สละโอกาสการเป็นแอร์โฮสเตส และกลับไปเรียนมหาวิทยาลัยต่อ และสมัครสอบเข้าเป็นทหาร
ต้น- ครับ นี่ก็เป็นสิ่งที่ผมอยากเน้นถึง คือการเข้าร่วมการประกวดประเภทต่างๆ ไม่มีปัญหา แถมยังเป็นการฝึกความมั่นใจ และฝึกฝนตนเองด้วย แต่อย่าหลงทางในกระบวนการนี้ และอย่าให้ความสำคัญกับผลการประกวดเกินเหตุ อย่างไรก็ตาม ไม่ควรมองข้ามการเรียน เพราะในฐานะนักศึกษา การเรียนย่อมเป็นหน้าที่สำคัญที่สุด
ซี- ค่ะ ความจริงยังมีอาชีพแปลกใหม่อีกหลายอย่างที่นักศึกษาจีนนิยมทำกัน แต่เวลาวันนี้หมดลงเพียงเท่านี้ พบกันใหม่อีกครั้งกับหานซี และคุณพัลลภสามสี สวัสดีค่ะ
พัลลภ-สวัสดีครับ