สัมภาษณ์ท่านมนชัย พัชนี กงสุลใหญ่ไทย ประจำนครซีอาน (ซ้าย) โดยพัลลภ สามสี

------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

-ไม่ทราบว่าท่านมาดำรงตำแหน่งที่ซีอานนานหรือยังครับ

ตั้งแต่วันที่ 20 มีนาคม 2554

-แม้จะไม่กี่เดือนนี่เอง แต่ก็น่าจะได้เห็นขั้นตอนการทำงานและเตรียมการของงานพืชสวนโลกพอสมควรใช่ไหมครับ

ครับ

-ในช่วงไม่กี่เดือนที่ท่านมาประจำที่นี่ได้เดินทางท่องเที่ยวและเห็นความน่าสนอะไรของซีอานบ้างครับ

ช่วงมาใหม่ๆ ก็ได้ตามเสด็จฯ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ไปที่เหยียนอาน และเมื่อสัก 2 อาทิตย์ที่ผ่านมาก็ไปดูสุสานหุ่นทหารราชวงศ์ฉิน แล้วก็ไปที่วัดฝ่าเหมิน แล้วก็ได้ไปดูงานมหกรรมพฤกษศาสตร์นานาชาติของซีอาน หรืองานพืชสวนโลก

-ท่านประทับใจอะไรบ้างในงานพืชสวนโลกครั้งนี้ และคิดว่างานพืชสวนโลกจะมีบทบาทอะไรบ้างในการแลกเปลี่ยนกับโลก ทั้งในด้านเศรษฐกิจและการค้า หรือบทบาทหลักของงานมหกรรมพืชสวนโลกซีอานครั้งนี้ครับ

สิ่งแรกที่ประทับใจก็คือความกว้างใหญ่ รู้สึกงานนี้มีเนื้อที่ประมาณเกือบ 3,000 ไร่ มีการจัดสวนดอกไม้ที่สวยสดงดงาม เหมือนพรมที่ทำด้วยดอกไม้เต็มไปหมด และอลังการมาก แล้วก็ได้ไปร่วมพิธีเปิด ซึ่งเขาได้ยิ่งใหญ่มาก แล้วก็ไปเยี่ยมชมศาลาไฮเทค ที่แสดงเทคโนโลยีด้านการเกษตรที่ทันสมัยของจีน รู้สึกประทับใจมาก แล้วยังได้ไปดูสี่ขุมทรัพย์ของเทือกเขาที่กั้นระหว่างเหนือและใต้ของจีน ซึ่งก็มีแพนด้า ลิงขนทอง วัวทาคิน แล้วก็นกกระเรียนหงอนแดง ซึ่งนกชนิดนี้สามารถเปลี่ยนสีไปได้ตามฤดูกาลและอุณหภูมิ เพราะสีขนจะเปลี่ยนไป ก็ได้เห็นความมหัศจรรย์ทางธรรมชาติ และได้เห็นการจัดงานในระดับโลก สวยสดงดงาม และประทับใจ

-เมื่อวานนี้ผมได้มีโอกาสเข้าไปที่งานแล้วครับ แล้วก็ไปหยุดนั่งพักที่สวนของไทย ก็เห็นว่าชาวจีนให้ความสำคัญและเดินเข้ามาที่ศาลาของเราพอสมควรเลยครับ ก็เลยอยากทราบว่าขั้นตอนการเตรียมงานของสถานกงสุลไทยที่ซีอานเตรียมงานนานขนาดไหน แล้วก็ให้ความสำคัญอย่างไรบ้างครับ

เท่าที่ทราบนี่นะครับ คือทางบริษัทจิ่วโจวเป็นผู้รับการก่อสร้างศาลาและก็สวนไทย ในส่วนของทางราชการไทยนี่นะครับ ในช่วงวันที่ 29 พฤษภาคม – 4 มิถุนายน 2554 ที่ศาลาไทยจะจัดสัปดาห์ไทยนะครับ และในส่วนของสถานกงสุลก็ได้เชิญคณะอาจารย์และลูกศิษย์จากมหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐมมาสาธิตการร้อยดอกไม้แบบไทย หรือร้อยมาลัย แล้วยังมีการเย็บภาชนะด้วยใบตอง ซึ่งนี่เป็นสิ่งที่สถานกงสุลเข้าร่วม นอกจากนี้ในส่วนของทางราชการไทยก็มีการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยส่งคณะนาฏศิลป์มาทั้งหมด 21 คน มาแสดงบนเวทีใหญ่ทั้งหมด 7 วัน วันละ 3 รอบ แล้วก็กรมวิชาการเกษตรก็ส่งท่านรองอธิบดี 2 ท่านมาเข้าร่วมงาน พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่อีก เบ็ดเสร็จแล้ว 12 ท่าน จะนำกล้วยไม้ไทยมาตกแต่งภายในงาน ซึ่งนี่ก็คือสิ่งที่เป็นส่วนร่วมของราชการไทย และก็จะมีผู้ใหญ่จากไทยมาเปิดงาน ซึ่งก็คือท่านองคมนตรี พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์

-เท่าที่ท่านได้กล่าวมาก็รู้สึกว่าได้ประสานให้หลายหน่วยงานของไทยเข้ามาร่วมงานครั้งนี้

ครับ ก็ทางบริษัทจิ่วโจว เขาก็เป็นแม่งานที่ประสานงาน ส่วนทางเรานี่ก็ได้ ทางสถานกงสุลก็ช่วยอำนวยความสะดวกในการติดต่อกับสำนักงานการต่างประเทศของมณฑลส่านซี กับสำนักงานการต่างประเทศของเมืองซีอาน แล้วก็ผู้จัดงาน ในการอำนวยความสะดวกให้กับคณะต่างๆ ที่จะเข้ามาร่วมงาน

ศาลาไทยในงานพืชสวนโลก 2554 ซีอาน

-บทบาทของเราในงานครั้งนี้ก็คือ การประชาสัมพันธ์ประเทศไทยเป็นหลักใช่ไหมครับ

ก็มาร่วม เพื่อมาแสดงถึงมิตรภาพ และความสัมพันธ์อันแนบแน่นระหว่างสองประเทศ ก็ขนพวกกล้วยไม้มา วัฒนธรรมไทยมา ส่วนที่เกี่ยวกับดอกไม้ก็มีการร้อยมาลัย ก็เป็นการแสดงออกถึงวัฒนธรรมไทย ในขณะเดียวกันก็ ทางกรมวิชาการเกษตรก็อยากจะขอโอกาสเข้ามาประชาสัมพันธ์งานราชพฤกษ์ ซึ่งเป็นงานพืชสวนโลกขนาดเล็กของเรา จะจัดเป็นเวลา 99 วัน ในช่วงพฤศจิกายนถึงมกราคม เพื่อเฉลิมฉลองวโรกาศสำคัญก็คือ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจะครบพระชนมพรรษา 84 พรรษา สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนารถจะครับ 80 พรรษา และสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช สยามมงกุฎราชกุมารจะเจริญพระชนมพรรษาครบ 60 พรรษา

-อันนี้ผมก็ทราบข่าวว่าจะจัดขึ้นที่เชียงใหม่ ใช่ไหมครับ

ครับ ก็จัดขึ้นที่เดิมนั่นแหละครับ ก็ปรับปรุงและตกแต่งให้สวยงาม ซึ่งก็จัด 99 วัน

บรรยากาศภายในศาลาไทยในงานพืชสวนโลก 2554 ซีอาน

-อยากทราบว่าทางกงสุลไทยจะสานงานต่ออย่างไรบ้างกับซีอานและเขตทางตะวันตกของจีนหลังจากเสร็จงานพืชสวนโลก เราจะขยายความร่วมมืออย่างไรต่อบ้างครับ

ที่นี่เราก็มุ่งทางด้านเศรษฐกิจ และทางด้านวัฒนธรรมครับ ก็มีหลายแผนงานที่วางไว้ในใจ อย่างเช่นเดือนกันยายนนี้ก็มีงาน "เทศกาลไทย" ซึ่งก็กำลังดูอยู่ว่าจะจัดขึ้นที่ไหน อย่างไรนะครับ จะมีการเชิญคณะนาฏศิลป์ และผู้ส่งออกของไทยมาร่วมงาน ในขณะเดียวกัน ประมาณสักเดือนกรกฎาคมก็จะเชิญ...ที่ผมนั่งอยู่ที่นี่ก็รับผิดชอบกานซู่ และหนิงเซี่ยด้วย ซึ่งในสองปีที่ผ่านมา เราได้เชิญข้าราชการของหนิงเซี่ยไปเมืองไทย เพราะก่อนหน้านี้ได้เชิญทางซีอานและกานซู่ไปมาแล้ว และถ้ามีโอกาสก็จะเข้าร่วมกับหน่วยงานทางภาคตะวันตกของจีนโดยตลอด

-จะจัดเทศกาลไทยอย่างต่อเนื่องใช่ไหมครับ เพราะดูจากปีที่แล้วก็ประสบความสำเร็จพอสมควร

ครับ ก็พยายามที่จะจัดต่อเนื่องทุกปี

-นอกจากงาน "เทศกาลไทย" แล้ว ในช่วง 5 ปีที่เราเปิดสถานกงสุลไทยมา ซึ่งกงสุลไทยของเราเป็นกงสุลต่างประเทศแห่งแรกในซีอาน เราได้เข้าร่วมกิจกรรมอะไรบ้าง และทางจีนให้ความสำคัญกับเราอย่างไรบ้างครับ

ทุกครั้งที่ทางการท้องถิ่นมีการจัดงานใหญ่ก็จะเชิญมาทางกงสุล รวมทั้งผมด้วย รวมถึงกงสุลเกาหลีใต้ก็จะถูกเชิญเข้าร่วมทุกงานเช่นกัน อย่างเช่นงานมหกรรมแสดงสินค้าที่จัดเมื่อสัก 2 เดือนที่ผ่านมาก็เชิญผมไป งานแสดงผลิตผลทางการเกษตรก็เชิญมาเช่นกันและการประชุมหอการค้าระหว่างประเทศของเขาก็เชิญผมไป ทุกครั้งที่จัดงานก็จะเชิญมาตลอด ซึ่งประมาณอีก 2 อาทิตย์จะมีการจัดมหกรรมการศึกษา ซึ่งเขามาเรียนเชิญเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว

-รู้สึกว่าทางมหาวิทยาลัยของซีอานก็ให้ความสำคัญกับสถานกงสุลด้วย เพราะรู้สึกว่ามหาวิทยาลัยภาษาต่างประเทศจะสอนภาษาไทยด้วย

ครับ ตอนนี้มีนักศึกษาเรียนอยู่ถึงปี 3 แล้ว ซึ่งวันนี้ก็มีคณาจารย์จากมหาวิทยาลัยบูรพาจากเมืองไทยมาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันระหว่างสองมหาวิทยาลัย และวันนี้จะไปที่มหาวิทยาลัยนอร์มอล ยูนิเวอร์ซิตี้ และพรุ่งนี้จะไป ม.ซีอานเจียวทง ซึ่งผมก็จะพาคณะไปด้วย เพื่อพาทางอธิการบดีของมหาวิทยาลัยบูรพาไปพบปะกับผู้บริหารของมหาวิทยาลัยจีน เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันว่าจะส่งเสริมความสัมพันธ์ทางการศึกษาระหว่างสองประเทศนี้ได้อย่างไร

-เมื่อกี้นี้ท่านบอกว่า นอกจากซีอานแล้ว กานซู่ หนิงเซี่ย เราก็ดูแลอยู่ใช่ไหมครับ ท่านได้ประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยว หรือประชาสัมพันธ์ให้ชาวเมืองทั้งสามมณฑลนี้ไปเที่ยวเมืองไทยบ้างไหม หรือมีกิจกรรมอะไรที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยวบ้างครับ

ก็มองดูอยู่นะครับว่า "เทศกาลไทย" นี่ ...คือว่าตอนนี้ผมยังไม่ได้ไปเยี่ยมคาราวะทางผู้นำมณฑลเหล่านั้น กำลังรออนุมัติจากทางการจีนอยู่ เมื่ออนุมัติแล้วคงจะได้เข้าพบผู้นำมณฑลส่านซี แล้วก็ไปคาราวะผู้นำมณฑลกานซู่ และคาราวะผู้นำเขตปกครองตนเองชนเผ่าหุยหนิงเซี่ย ในโอกาสนั้นก็คงจะพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและแสวงหาความร่วมมือระหว่างกัน ในการส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ ไม่ว่าในด้านการเมือง เศรษฐกิจ สังคม และการค้า ถ้าทำได้ก็จะทำ

- รู้สึกว่าทางสามมณฑลนี้เขาจะเน้นในเรื่องของอุตสาหกรรมนิวไฮเทคพอสมควร ประชาชนก็มีฐานะดี ก็น่าจะมีความพร้อมในการเดินทางไปท่องเที่ยวพอสมควร และในเรื่องของเศรษฐกิจและการค้าระหว่างกัน คือทั้งกับไทยมาลงทุนในสามมณฑลนี้ และสามมณฑลนี้ไปลงทุนในไทย

ทางเราก็อยากเชิญเขาไปลงทุน ส่วนทางเขาเองก็อยากจะชวนเรามาลงทุนเช่นกัน ทางเราก็เคยเข้าไปร่วมงานการส่งเสริมความลงทุนกับเขา และคณะของที่นี่ ลักษณะคล้ายบีโอไอของบ้านเราก็ได้เข้ามาพบผม เพื่อเชิญเข้าร่วมงานด้วยตัวเอง เพราะก็ต้องการให้ฝ่ายไทยเข้ามาลงทุน แต่ตอนนี้ก็ยังใหม่สำหรับผมอยู่ ซึ่งผมก็จะต้องศึกษาดูลู่ทางความเป็นไปได้ว่ามีมากน้อยขนาดไหน ขณะเดียวกัน เราก็มีหน่วยบีไอซี คือทางด้านให้ข้อมูลทางธุรกิจ เราก็อัพโหลดทุกวัน โดยเก็บมาจากสื่อมวลชนต่างๆ หรือจากข้อมูลที่เราไปได้มาด้วยตัวเอง ก็นำมาใส่เข้าไว้ในเว็บไซต์ของเรา ซึ่งจริงๆ แล้วก็ทำกันทั่วทุกสถานกงสุล เพื่อที่จะเป็นข้อมูลพื้นฐานให้กับนักธุรกิจไทยที่สนใจที่จะเข้ามาลงทุนในประเทศจีน ในขณะเดียวกันก็มีนักธุรกิจจีนที่เขาอยากจะเข้าไปลงทุนในไทยก็เข้ามาอ่าน

-ในช่วง 5 ปีที่เปิดสถานกงสุลไทยมา มีนักธุรกิจไทยเข้ามาลงทุนมากขนาดไหนแล้วครับ

ที่เห็นเป็นรูปธรรมก็คือ ซีพี ซึ่งมาตั้งแต่ก่อนที่เราจะมา ซึ่งช่วงงาน "เทศกาลไทย" ก็จะพยายามที่จะแนะนำสินค้าไทย ในขณะเดียวกันเราก็มีสำนักงานการค้าระหว่างประเทศตั้งอยู่ที่นี่ ตัวท่านผู้อำนวยการเอง อาทิตย์นี้ก็จะพาคณะนักธุรกิจจากสามมณฑลนี้ไปดูงานที่เมืองไทย อย่างช่วงนี้ก็จะมีงานจิลเวอรี่ (อัญมณี)

-แล้วซีพีลงทุนด้านไหนครับในเขตสามมณฑลนี้

ก็มีทางด้านการเกษตรและห้างโลตัสอยู่ 2 ที่

-ฟังดูแล้วดูเหมือนว่าเราก็ต้องคอยดูกันต่อไปนะครับว่า นักธุรกิจไทยจะเข้ามาลงทุนทางสามมณฑลนี้อีกขนาดไหน เพราะทางภาคตะวันตกก็ค่อนข้างน่าลงทุน เพราะกำลังเปิดใหม่สำหรับประเทศจีน และทางจีนเองก็น่าจะมองไปที่ไทยมากขึ้นอยู่แล้ว เพราะหลังจากเปิดเอฟทีเอมา เราก็มีมูลค่าการค้าระหว่างกันมากพอสมควร

เท่าที่ทราบนะครับ ตอนนี้บริษัททางด้านพลังงานได้เข้าไปลงทุนที่ไทยแล้ว เพราะทางส่านซีกับกานซู่มีประสบการณ์ทางด้านพลังงาน

-พลังงานลมใช่ไหมครับ

เป็นพลังงานด้านน้ำมันและถ่านหินครับ

-ตอนนี้ผมเองมีคำถามสุดท้าย คือทางสถานีวิทยุซีอาร์ไอที่ผมทำงานอยู่นี้ ได้ร่วมมือกับสำนักงานการท่องเที่ยวแห่งประเทศจีน ตอนนี้เราจัดการโหวต เพื่อจัดอันดับเมืองวัฒนธรรม ประจำปี 2011 หรือประจำปี 2554 นี้นะครับ ซึ่งเรามีการจัดทุกปี และในปีนี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับเมืองวัฒนธรรม ซึ่งเปิดการโหวตผ่านทางอินเตอร์เน็ต ก็เลยอยากให้ท่านเข้าร่วมโหวตด้วย ในฐานะที่เข้ามาทำงานที่จีนได้ 2-3 เดือนนี่ อยากรู้ว่าท่านชอบเมืองไหนมากที่สุด

ก็ผมอยู่ซีอาน ก็คงต้องโหวตให้ซีอานแหละครับ ไม่ใช่เหตุผลว่านั่งทำงานอยู่ที่นี่ แต่มีเหตุผลจริงๆ ที่ว่า เพราะซีอานเป็นมรดกโลก และเป็นอู่อารยธรรมของจีน เพราะฉะนั้นก็คงต้องโหวตให้ซีอาน เพราะมีสถานที่สำคัญทางด้านโบราณคดีและประวัติศาสตร์

-ขอบพระคุณท่านที่สละเวลามาให้สัมภาษณ์ในวันนี้ครับ

(Ton/Zheng)