เมื่อย้อนหลังทบทวนประวัติศาสตร์พรรคคอมมิวนิสต์จีนซึ่งเริ่มแรกมีสมาชิกพรรคเพียง 50 กว่าคน กว่าจะพัฒนาถึงปัจจุบันที่มีสมาชิกพรรคกว่า 80 ล้านคน กลายเป็นพรรคการเมืองที่มีสมาชิกมากที่สุดในโลก ปัจจัยสำคัญที่สุดคือ พรรคคอมมิวนิสต์จีนใช้ความพยายามในการสร้างตนเองมาโดยตลอด เพื่อรักษาความโปร่งใสบริสุทธ์และความก้าวหน้าของพรรค
เมื่อทศวรรษ 1920 หลังจากพรรคคอมมิวนิสต์จีนก่อตั้งขึ้นไม่นานก็ประกาศเอกสารในการปราบปรามทุจริตคอรัปชั่นฉบับแรก และก่อตั้งคณะกรรมการตรวจสอบวินัยของพรรค ซึ่งเป็นหน่วยงานแรกที่ติดตามควบคุมการปฏิบัติตามกฎหมายและระเบียบวินัยของสมาชิกพรรค
หลังจากสถาปนาจีนใหม่ เมื่อทศวรรษ 1950 พรรคคอมมิวนิสต์จีนเคยดำเนินโครงการปราบปรามทุจริตคอรัปชั่น โดยได้ลงโทษผู้ทุจริตคอรัปชั่นจำนวนมาก
หลังปี 1978 จีนดำเนินการปฏิรูป เปิดประเทศ พร้อมๆ กับพัฒนาเศรษฐกิจอย่างรวดเร็วนั้น เกิดปรากฏการณ์ทุจริตคอรัปชั่นจำนวนมาก นายเติ้ง เสี่ยวผิง หัวหน้าผู้ออกแบบการปฏิรูปและเปิดประเทศของจีนเคยระบุว่า "การปราบปรามการกระทำผิดกฎหมายทางเศรษฐกิจ เป็นการต่อสู้ถาวรเป็นเวลานาน ระหว่างกระบวนการปฏิรูปและเปิดประเทศ ล้วนต้องปราบปรามการทุจริตคอรัปชั่น" ในช่วงดังกล่าวนี้ ต่อกรณีการทุจริตคอรัปชั่นด้วยวิธีการต่างๆ ที่ปรากฏขึ้นใหม่ พรรคคอมมิวนิสต์จีนได้เข้าสู่ช่วงบัญญัติกฎหมายและสร้างระบบว่าด้วยการปราบปรามการทุจริตคอรัปชั่นและส่งเสริมความสุจริต อีกทั้งเอาอย่างประสบการณ์ของประเทศต่างๆ มาป้องกันและปราบปรามการทุจริตคอรัปชั่น ซึ่งเป็นปัญหาระดับโลก
ด้านความร่วมมือระหว่างประเทศนั้น ขณะนี้ ฝ่ายตรวจสอบวินัยพรรคคอมมิวนิสต์จีนได้สร้างความสัมพันธ์ฉันมิตรกับหน่วยงานปราบปรามการทุจริตคอรัปชั่นของ 80 ประเทศและเขตแคว้น นอกจากนี้ ยังมีการลงนามข้อตกลงความร่วมมือกับหน่วยงานปราบปรามการทุจริตคอรัปชั่นของโปแลนด์ รัสเซีย และประเทศอื่นๆ ในการไปมาหาสู่กันเข้าสู่ครรลองที่เป็นระบบขึ้น
อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญระบุในขณะเดียวกันว่า พรรคคอมมิวนิสต์จีนยังต้องใช้ความพยายามด้านระบบการปราบปรามการทุจริตคอรัปชั่นที่มุ่งผลเป็นจริง ตามหลักวิทยาศาสตร์ และมีประสิทธิผลสูง เวลานี้ ยังคงขาดแคลนกลไกการตรวจสอบและระบบการกำกับดูแลที่มีประสิทธิผลสำหรับข้าราชการที่กุมอำนาจหลัก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง "พวกหัวขบวน" พร้อมกันนี้ คดีทุจริตคอรัปชั่นเป็นกลุ่ม และคดีที่เกี่ยวข้อง ซึ่งเกิดขึ้นเป็นจำนวนมาก สะท้อนให้เห็นว่า ยังต้องเร่งปรับกลไกการตรวจสอบให้สมบูรณ์ขึ้น เดือนมีนาคมปีนี้ นายเวิน เจียเป่า นายกรัฐมนตรีจีนให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวว่า ภัยอันตรายใหญ่ที่สุดที่จีนกำลังเผชิญอยู่ในขณะนี้คือ การทุจริตคอรัปชั่น หากต้องการกำจัดพื้นที่ที่ก่อทุจริตคอรัปชั่น ยังต้องปฏิรูประบบและ เอาเข้าจริงแล้ว เรื่องการปราบปรามการทุจริตคอรัปชั่นเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับอนาคตและชะตากรรมของพรรคคอมมิวนิสต์จีนและประเทศจีน ผู้คนทั้งหลายเฝ้ารอคอยและมีเหตุผลที่ทำให้มั่นใจได้ว่า ในโอกาส 90 ปีแห่งการก่อตั้งพรรค พรรคคอมมิวนิสต์จีน ซึ่งก้าวไปพร้อมกับกาลเวลา จะใช้ความพยายามมากกว่า สร้างความก้าวหน้าในเชิงระบบ เพื่อให้ "มีอำนาจดำเนินการภายใต้แสงตะวัน" อย่างแท้จริง
IN/QI


















