ในปัจจุบันคำว่า "Low carbon" หรือลดคาร์บอน อาจจะเริ่มเป็นคำคุ้นหูและรู้จักบ้างแล้วสำหรับสังคมไทย แต่ที่ประเทศจีนนั้นรู้จักและคุ้นเคยกับคำนี้ตั้งแต่หกปีที่แล้ว เมื่อปีค.ศ. 2006 เป็นปีที่จีนประกาศคำมั่นกับประชาคมโลกที่จะลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลงอัตราร้อยละ 40-45 และเพิ่มสัดส่วนการใช้พลังงานทดแทนให้อยู่ในอัตราร้อยละ 15 ของการใช้พลังงานทั้งหมดภายในปีค.ศ. 2020 เพราะจีนเองนั้นเป็นประเทศหนึ่งในการปล่อยก๊าซเรือนกระจกอันดับต้นๆของโลก ดังนั้นจีนจึงให้ความสำคัญและปฏิบัติตามแผนการลดคาร์บอนอย่างจริงจัง จะเห็นได้จากนำเอาแผนการลดคาร์บอนเข้าสู่วาระแห่งชาติ ผลักดันเป็นนโยบายเพื่อปฏิรูปและรณรงค์ไปทั่วทุกมณฑลและเขตปกครองตนเองของจีน การปล่อยคาร์บอนหรือก๊าซเรือนกระจกเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดภาวะโลกร้อน และกำลังส่งผลกระทบไปทั่วโลกอยู่ในปัจจุบันนี้
บรรยากาศงานรณรงค์การใช้ชีวิตแบบลดคาร์บอน
ได้รับความสนใจจากคนรุ่นใหม่เป็นจำนวนมาก
นอกจากจะมีการปฏิบัติการลดคาร์บอนในระดับนโยบายและเศรษฐกิจแล้ว จีนยังมีการรณรงค์ให้ชาวจีนเห็นความสำคัญของการใช้ชีวิตแบบลดคาร์บอนร่วมกัน เพื่อพัฒนาไปสู่สังคมลดคาร์บอนในลำดับต่อไป การใช้ชีวิตแบบลดคาร์บอนหรือ low carbon นั้นเป็นที่พูดคุยกันอย่างกว้างขวางในสังคมจีนเวลานี้ โดยเฉพาะสังคมในเมืองใหญ่และบนอินเตอร์เน็ต เรามาทำความรู้จักกับชีวิตแบบลดคาร์บอนกันดีกว่า
การใช้ชีวิตแบบลดคาร์บอน คือ การดำเนินชีวิตแบบลดค่าใช้จ่าย ลดการบริโภค ลดการใช้พลังงาน เป้าหมายเพื่อลดการบริโภคพลังงานที่นำมาใช้ในการดำเนินชีวิตประจำวันให้น้อยที่สุด ทำให้ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์หรือก๊าซเรือนกระจก เป็นการใช้ชีวิตให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น และไม่ก่อให้เกิดภาวะโลกร้อนเพิ่มขึ้นด้วย การใช้ชีวิตแบบนี้สามารถเริ่มต้นได้อย่างง่าย ไม่ยุ่งยากซับซ้อน แค่เพิ่มความใส่ใจในการใช้น้ำไฟอย่างประหยัด แยกขยะและการนำขยะมาหมุนเวียนใช้ให้เกิดประโยชน์อีก หรือจะเลือกเดินทางแบบลดการบริโภคพลังงาน (Green travel) คือ การเลือกวิธีการเดินทางแบบลดพลังงาน และเกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมให้น้อยที่สุด เช่น พยายามขับรถให้น้อยที่สุด เดินหรือขี่จักรยานให้มากขึ้น พยายามใช้บริการขนส่งสาธารณะแทนรถส่วนตัว หากต้องขับรถออกไปทำธุระ ควรวางแผนเส้นทางให้ดีในการเดินทางแต่ละครั้ง
กิจกรรมรณรงค์และร้านอาหารที่ตอบรับกระแสการใช้ชีวิตแบบลดคาร์บอน
การใช้ชีวิตแบบลดคาร์บอน ไม่ได้หมายความว่าจะทำให้คุณภาพชีวิตเราลดลง หากแต่เป็นการดำเนินชีวิตแบบใส่ใจกับสิ่งแวดล้อม ชุมชนและสังคมมากขึ้น อีกทั้งยังทำให้สุขภาพกายและใจนั้นแข็งแรงขึ้นด้วย เมื่อการลดคาร์บอนเริ่มต้นจากหน่วยเล็กๆ ของสังคมโดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ที่เข้าใจและห่วงใยโลก ถือว่าเป็นกลุ่มที่มีพลังและสร้างสรรค์นวัตกรรมเพื่อพัฒนาสังคม และหากได้การมีส่วนร่วมของชุมชนเข้ามาร่วมดำเนินการ ร่วมกันคิดร่วมกันช่วยกันรักษาสภาพแวดล้อมด้วยกัน การลดคาร์บอนนั้นไม่ใช่หน้าที่ของหน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่ง หากแต่เป็นหน้าที่ของเราทุกคน เพื่อความอยู่รอดปลอดภัยของทุกคนบนโลก