บรรยากาศในงานนิทรรศการภาพยนตร์และโทรทัศน์จีน
ละครและภาพยนตร์ไทยได้รับความสนใจจากบริษัทต่างๆ มากมาย
สุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เหล่าบรรดาแฟนคลับชาวจีนที่คลั่งไคล้ละครและภาพยนตร์ไทยได้มีความสุขและครึกครื้นเป็นยิ่งนัก เพราะว่ามีขบวนพาเหรดนักแสดงชายไทยได้เหิรฟ้ามาโชว์ตัวและพบปะแฟนคลับถึงปักกิ่งอย่างใกล้ชิดถึง 2 งานใหญ่ๆ เริ่มด้วยงานนิทรรศการภาพยนตร์และโทรทัศน์จีนเป็นงานออกร้านของบริษัทนำเข้าละครชุดต่างๆ ทั่วเอเชียมาจัดแสดงเพื่อขายลิขสิทธิ์ให้กับบริษัทโทรทัศน์จีน งานนี้บริษัทตัวแทนละครไทยได้นำนักแสดงชายไทยที่กำลังได้รับความนิยมและเรียกร้องจากแฟนคลับให้มาโชว์ตัวเป็นอันดับต้นๆ คือ มาริโอ้ เมาเร่อ และโดม ปกรณ์ ลัม ซึ่งได้รับการต้อนรับจากแฟนคลับอย่างอบอุ่นและคับคั่ง บรรยากาศการพบปะก็เหมือนกับงานมีทแอนด์กรี๊ดดาราทั่วไป เริ่มจากขึ้นเวทีให้พูดคุยกับแฟนคลับอย่างเป็นกันเอง ให้สัมภาษณ์กับสื่อจีนต่างๆ และมอบของที่ระลักให้แฟนคลับ งานนี้สังเกตได้ว่า เหล่าบรรดาแฟนคลับจะเป็นวัยรุ่นวัยใสเสียส่วนใหญ่ ผู้เขียนได้เข้าไปพูดคุยกับแฟนคลับสาวน้อยชาวจีนว่า รู้จักสองคนนี้ได้อย่างไร ส่วนใหญ่จะรู้จักมาริโอ้ ผ่านภาพยนตร์เรื่อง "สิ่งเล็กๆ ที่เรียกว่ารัก" ซึ่งสร้างความประทับใจให้กับพวกเธอเป็นอย่างมาก และคอยติดตามผลงานเรื่อยมา ส่วนโดม ปกรณ์ ลัมนั้น พวกเขารู้จักผ่านละครที่ได้ออกอากาศที่เมืองจีนเมื่อต้นปีที่ผ่านมากับละครเรื่อง "รักไม่มีวันตาย" ขณะที่พูดคุยนั้น สาวจีนผู้นี้พูดทีเล่นทีจริงว่า อยากให้แวมไพร์อย่างโดมกัดที่ต้นคอเธอเสียด้วย
มาริโอ้ เมาเร่อและโดม ปกรณ์ลัมบนเวที เรียกเสียงกรี๊ดจากแฟนคลับลั่นงาน
ส่วนงานที่สองนั้นเป็นการพบปะแฟนคลับและสื่ออย่างเป็นทางการของ "ป้อง ณวัตน์ กุลรัตนรักษ์" ซึ่งได้รับเลือกจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยหรือททท.ให้เป็นเซเลบบริตี้ประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวไทย โดยครั้งนี้ททท.เน้นเป้าหมายไปยังกลุ่มนักท่องเที่ยวหนุ่มสาวชาวจีน และเชิญชวนให้เดินทางมาเที่ยวประเทศไทยให้มากขึ้น สำหรับป้อง-ณวัตน์นี้ได้รับความนิยมมากกว่าสองหนุ่มที่กล่าวไปแล้วมาก เพราะว่า ละครของเขาออกอากาศในเมืองจีนมา 2 ปีกว่าแล้วและ "สงครามนางฟ้า" ได้รับความนิยมตั้งแต่ออกอากาศเป็นเรื่องแรก หลังจากนั้น ละครเรื่องอื่นๆ ของเขาได้ถูกนำมาออกอากาศอย่างต่อเนื่อง และที่สำคัญดังทั่วประเทศจีนจริงๆ เพราะระบบการออกอากาศของจีนนั้นแตกต่างจากประเทศอื่นๆ เนื่องจากประเทศจีนใหญ่มาก การแข่งขันสูงมากระหว่างรายการโทรทัศน์และละคร โดยแต่ละมณฑลจะมีช่องโทรทัศน์และบริษัทผลิตรายการเป็นของตนเองนอกเหนือจากรับรายการหลักของโทรทัศน์กลาง(CCTV)ไปออกอากาศแล้ว แต่นักแสดงชายไทยคนนี้สามารถเบียดเข้ามาสร้างกระแสละครไทยให้กล่าวถึงได้ เพราะละครเรื่องล่าสุดของเขาได้ออกอากาศพร้อมกันในทุกมณฑลของจีน และได้รับความนิยมเป็นอันดับที่ 1 ของเวบถู่โต้ว(TuDou)เป็นเวบสำหรับดูวิดีโอละครชุดต่างประเทศ ถือว่าเป็นเรื่องที่น่าสนใจมาก บางสื่อได้ให้ความเห็นว่า การที่ละครไทยช่วง 5 ปีนี้ได้รับความนิยมสูงกว่าละครชุดเกาหลีและญี่ปุ่นนั้น เป็นเพราะว่าละครไทยดูแล้วได้อรรถรส มีสีสันกว่า วัฒนธรรมที่แตกต่างและเนื้อเรื่องชวนติดตาม สถานที่แปลกตาไปจากที่เคยเห็นในละครเกาหลีและญี่ปุ่น สุดท้าย หน้าตาของนักแสดงทั้งชายและหญิงของไทย สวยหล่อแปลกตาไปจากคนแถบนี้ อีกทั้งบทบาทการแสดงของนักแสดงชายคนนี้มักรับบทแบบร้ายนิดๆ เจ้าชู้หน่อยๆ ดูมีเสน่ห์และน่าค้นหา ซึ่งแตกต่างจากบุคลิกของหนุ่มจีนทั่วไป จึงเป็นอีกเหตุผลที่ทำให้เขาได้รับความนิยมมากในจีน
บรรยากาศพบปะแฟนคลับชาวจีนของป้อง ณวัตน์
สำหรับบรรดาแฟนคลับของป้อง-ณวัตน์ จะมีอายุมากกว่ากลุ่มของนักแสดงชายไทยสองคนแรกที่ได้กล่าวมา อายุเฉลี่ยของแฟนคลับกลุ่มนี้ประมาณ 24-35 ปี เป็นกลุ่มที่เพิ่งเรียนจบปริญญาตรีใหม่ๆและวัยทำงานเสียส่วนใหญ่ จะมีการรวมตัวกันอย่างเป็นระบบ มีการจัดทำเวบไซด์สำหรับนักแสดง เฝ้าติดตามข่าวคราวเคลื่อนไหวในเมืองไทย นำมาแปลและอัพเดตข้อมูลขึ้นเวบให้แฟนคลับอ่านกัน ผู้เขียนได้มีโอกาสพูดคุยกับแฟนพันธุ์แท้สาวจีนของป้อง-ณวัตน์คนหนึ่ง และเมื่อเธอรู้ว่า ผู้เขียนเป็นคนไทย หลังจากนั้นเธอพยายามที่จะพูดภาษาไทยแบบช้ามากแต่ประโยคนั้นถูกต้องตามหลักภาษาไทยอีกทั้งสายตาแสดงถึงความตั้งใจและชื่นชมนักแสดงมาก จึงสอบถามว่าได้เรียนภาษาไทยจากที่ไหน เธอตอบว่า เธอเรียนภาษาไทยด้วยตนเองจากอินเตอร์เน็ทและหนังสือสอนภาษาไทย พร้อมกับฟังจากซีดีรอมทุกครั้งที่มีเวลาว่างและทุกวัน เพราะนักแสดงคนนี้เป็นแรงบันดาลใจให้เธออยากเรียนภาษาไทยเพื่อสื่อสารกับเขา และสามารถติดตามข่าวสารจากสื่อไทยอย่างเข้าใจได้ นอกจากเรียนภาษาไทยแล้วยังฝึกทำอาหารไทยอีกด้วย สายตาของเธอผู้นี้เป็นประกายวาวและเขินอายทุกครั้งที่พูดถึงชื่อของนักแสดงชายไทยคนนี้
บรรยากาศวันแถลงข่าวกิจกรรมประชาสัมพันธ์ให้กับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
ระหว่างที่เธอกำลังชื่นชมนักแสดงหนุ่ม ผู้เขียนเอง กำลังมองเธออย่างชื่นชมเช่นกัน รู้สึกทึ่งว่า การที่เราชื่นชมใครคนใดคนหนึ่งนั้นมีอิทธิพลและแรงบันดาลใจให้เรามากขนาดนี้เชียวหรือ เป็นแรงกระตุ้นพลังในทางบวกของการเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ทำให้ย้อนนึกถึงเหล่าบรรดาแฟนคลับเคป๊อป(K-Pop) ในเมืองไทย ที่พวกเขาเองต่างตั้งใจเรียนภาษาเกาหลีเพื่อจะได้สื่อสารและเข้าใจผลงานของศิลปินดาราที่ตัวเองชื่นชอบ อย่างภาพยนตร์เรื่อง "สิ่งเล็กๆ ที่เรียกว่ารัก" นั้น ได้รับเลือกแสดงฉายและสัมมนาเกี่ยวกับวิถีชีวิตของคนไทยให้กับนักศึกษาจีนในมหาวิทยาลัยปักกิ่งหลายครั้ง จะเห็นได้ว่า ละคร ภาพยนตร์ และเพลงนั้นเป็นสื่อที่มีอิทธิพลในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและทัศนคติของคนได้ และทุกครั้งที่ได้เรียนรู้ภาษาใหม่ๆ ไม่ใช่แค่ได้มาแค่เรื่องของภาษาเท่านั้น ยังได้ในเรื่องวัฒนธรรมและความเข้าใจในวิถีชีวิตของเจ้าของภาษาติดตามมาด้วย ซึ่งจะก่อให้เกิดการเคารพและมิตรภาพที่เข้าใจในความแตกต่างอย่างลึกซึ้ง นอกจากททท.จะรณรงค์ในเรื่องการท่องเที่ยวสถานที่ต่างๆ ในประเทศไทยแล้ว ในช่วงกระแสไทยป๊อบที่ยังแรงอยู่ การจัดกิจกรรมเชิงท่องเที่ยวแบบเรียนรู้ภาษาและวัฒนธรรมไทยระยะสั้นให้กับบรรดาแฟนคลับและกลุ่มหนุ่มสาวจีนก็น่าสนใจไม่น้อยเช่นกัน น่าจะเป็นทางเลือกให้กับคนหนุ่มสาวรุ่นใหม่ในการออกไปเรียนรู้โลกกว้างผ่านภาษาและวัฒนธรรม จะได้นำประสบการณ์ ความทรงจำที่ดีและความประทับใจสานสัมพันธ์มิตรภาพระหว่างจีน-ไทยจากรุ่นต่อรุ่นต่อไป
สุชารัตน์ สถาพรอานนท์
*เครดิตบางภาพนำมาจากเวบไซด์แฟนคลับชาวจีน ขอขอบคุณมา ณ ที่นี่ด้วย