ช่วงเดือน กรกฎาคม-สิงหาคมเป็นช่วงปิดเทอมฤดูร้อนของมหาวิทยาลัยที่ประเทศจีนค่ะ ในปีนี้แนนก็ใช้เวลาช่วงนี้กลับบ้านเช่นเคย สำหรับขากลับ แนนได้แวะเที่ยวกรุงโซล ประเทศเกาหลีก่อนแล้วจึงกลับปักกิ่งค่ะ "สาระเบาๆ" ครั้งนี้ จึงขอเล่าประสบการณ์เที่ยวกรุงโซลตามประสาคนมากรุงโซลเป็นครั้งแรก และใช้เวลาอยู่ที่นั่นแค่ 3 วัน เพื่อนๆ ลองตามมาดูกันนะคะว่า 3 วันนั้นแนนไปที่ไหนมาบ้าง ทำกิจกรรมอะไรบ้าง และประทับใจสิ่งใดบ้าง
(ซ้ายบน) เกาะนามิ (กลางบน) โรงเรียนสอนทำกิมจิ (ขวาบน) ตลาดเมียงดง
(ซ้ายล่าง) หอคอยกรุงโซล (กลางล่าง) รั้วกุญแจคู่รัก (ขวาล่าง) พิพิธภัณฑ์เท็ดดี้แบร์
สถานที่แรกที่แนนไปคือ เกาะนามิ สถานที่ถ่ายทำซีรีย์เกาหลีสุดฮิต เรื่อง Winter Love Song เกาะนี้มีพื้นที่ 4 ตารางกิโลเมตร เส้นทางเดินรอบเกาะมีความยาว 5 กิโลเมตร แต่ก็มีทางเดินหลักที่จัดไว้เป็นระยะทาง 800 เมตรค่ะ หากเดินตามทางสายนี้ เราจะได้ผ่านจุดที่เคยใช้ถ่ายละครจุดต่างๆ เช่น แนวต้นสนที่ปรากฏอยู่ในหนัง และยังมีรูปปั้นพระเอก-นางเอกให้เราไปถ่ายรูปกันด้วย ตลอดทางมีร้านอาหารและร้านขายของที่ระลึกมากมาย เส้นทางเดินหลักนี้จึงคราคร่ำไปด้วยนักท่องเที่ยวจำนวนมาก แต่สำหรับแนนแล้ว เสน่ห์ของเกาะนามิ คือ สายลม แสงแดด แมกไม้ และบรรยากาศธรรมชาติค่ะ
ที่ต่อไปที่แนนไปก็คือ โรงเรียนสอนทำกิมจิ พอเข้าไปถึงก็จะมีเจ้าหน้าที่มาอธิบายความเป็นมาและสอนวิธีทำกิมจิให้เรา เสร็จแล้วก็ให้เราลองทำนิดหน่อย ส่วนชั้นล่างของโรงเรียนนี้เป็นร้านขายของที่ระลึกที่มีชุดฮันบกให้เราใส่ถ่ายรูปฟรีด้วยค่ะ
ตลาดเมียงดง เป็นย่านช้อปปิ้งที่เต็มไปด้วยร้านค้าบนถนนและสองข้างทาง โดยหลักแล้วขายสินค้าประเภทเครื่องสำอาง เสื้อผ้า กระเป๋า หมวก โดยร้านรวงเค้าจัดได้เป็นระเบียบดีมาก แต่ว่าผู้คนที่มาจับจ่ายใช้สอยก็เยอะมากเช่นกัน ช่วงที่แนนไปเป็นคืนวันศุกร์ แออัดสุดๆ เลยค่ะ
หอคอยกรุงโซล เป็นหอคอยที่ตั้งอยู่บนภูเขานัมซาน มีความสูงถึง 480 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล จึงเป็นจุดสำคัญในการชมทัศนียภาพอันงดงามของกรุงโซลยามค่ำคืน หอคอยแห่งนี้ถือได้ว่าเป็น landmark หรือสัญลักษณ์หนึ่งของกรุงโซลเลยค่ะ ส่วนที่ใกล้ๆ ฐานของหอคอยมีจุดไฮไลท์สำหรับคู่รัก คือ รั้วกุญแจคู่รัก คู่รักแต่ละคู่จะเขียนข้อความหรือชื่อของตัวเองไว้บนแม่กุญแจ แล้วนำกุญแจนี้ไปคล้องกับรั้วเหล็ก ส่วนลูกกุญแจเค้าจะทิ้งไป ด้วยความเชื่อที่ว่าหากคู่รักคู่ใด ได้มาเยือนและคล้องกุญแจคู่รักกันที่นี่ จะทำให้ความรักของทั้งคู่ยืนยาว ไม่พรากจากกันไปตลอดกาลค่ะ
ใต้ฐานหอคอยกรุงโซลมีพิพิธภัณฑ์เท็ดดี้แบร์ หรือ สถานที่จัดแสดงหมีเท็ดดี้แบร์น่ารักๆ จากทั่วโลก ในพิพิธภัณฑ์มีการจัดแสดงเรื่องราวการก่อกำเนิดชนชาติและบรรพบุรุษของคนเกาหลี และยังมีการจำลองวิถีชีวิตของคนเกาหลีตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน โดยใช้ตุ๊กตาหมีแต่งตัวหลากสไตล์ อยู่ในอิริยาบทต่างๆ น่ารักมากเลยค่ะ
(ซ้ายบน) การแสดง Drumcat Show (ขวาบน) คลองชองเกชอน
(ซ้ายล่าง) อนุสาวรีย์รูปนกฟีนิกซ์ (ขวาล่าง) พระราชวังเคียงบ็อก
การแสดง Drumcat Show เป็นการแสดงตีกลองของนักแสดงหญิงล้วนจำนวน 6 คน ที่มีการเต้นและบรรเลงดนตรีประกอบ สนุกสนานเร้าใจมากค่ะ แต่ว่าค่อนข้างเสียงดังไปหน่อย
คลองชองเกชอน เป็นคลองกลางกรุงโซลที่มีน้ำใส สะอาด มีทางเดินขนานไปตามสองข้างของลำคลอง และมีสะพานเดินข้ามเป็นระยะๆ มีคนจำนวนมากมานั่งเล่นริมตลิ่ง ห้อยเท้าลงไปในน้ำ คลองนี้เป็นผลงานการพัฒนาของประธานาธิบดี ลีเมียงบัค สมัยที่ท่านยังดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการกรุงโซลค่ะ
พระราชวังเคียงบ็อก เป็นพระราชวังไม้โบราณที่สร้างขึ้นใน ค.ศ. 1394 เคยเป็นศูนย์บัญชาการทางการทหารและเป็นที่ประทับของกษัตริย์ ภายในพระราชวังแห่งนี้มีพระที่นั่งมากกว่า 200 หลัง แต่ได้ถูกทำลายไปเป็นส่วนใหญ่ในสมัยที่ญี่ปุ่นเข้ามาบุกยึดครอง ปัจจุบันได้มีการก่อสร้างหมู่พระที่นั่งที่เคยถูกทำลายขึ้นมาใหม่ในตำแหน่งเดิม พระราชวังแห่งนี้ยังเป็นสถานที่ถ่ายทำละครเรื่อง Princess Hours ด้วยค่ะ
อนุสาวรีย์รูปนกฟีนิกซ์ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ความเป็นอมตะ อนุสาวรีย์นี้ตั้งอยู่ในบริเวณที่มีฮวงจุ้ยที่ดีที่สุดของกรุงโซล จากจุดนี้เราสามารถชมทัศนียภาพอันสวยงามของภูเขารูปหัวมังกร และวงเวียนน้ำพุได้ค่ะ
นอกจากสถานที่ต่างๆ ที่แนนได้ไปมา แนนยังมีข้อสังเกตบางอย่างที่ได้รับจากการเที่ยวกรุงโซลมาแบ่งปันกันกับเพื่อนๆ ด้วยค่ะ
1. บรรยากาศบ้านเมืองของที่นี่ ส่วนใหญ่เป็นตึกสูง ผู้คนก็ค่อนข้างแออัด จุดนี้แนนคิดว่ามีความคล้ายคลึงกับกรุงปักกิ่งมากค่ะ
2. นักท่องเที่ยวหลักๆ ของที่นี่มาจากประเทศ ญี่ปุ่น จีน เกาหลี ไทย และอินโดนีเซียค่ะ
3. เวลาไปร้านขายเครื่องสำอาง ทันทีที่เดินเข้าไปในร้าน พนักงานจะแจกตระกร้าให้เรา 1 ใบ ภายในนั้นใส่ของแถมไว้ให้เราเรียบร้อย ไม่ว่าจะเป็น น้ำอัดลม หรือ tester เป็นเทคนิคการขายที่ได้ใจผู้ซื้อมากเลยค่ะ
4. ร้านค้าแถวย่านเมียงดง บางร้านมีเจ้าของเป็นคนจีน และหลายร้านจ้างพนักงานขายเป็นคนจีน ดังนั้น การช้อปปิ้งที่กรุงโซลถือว่าค่อนข้างสะดวกสบายสำหรับผู้ที่พูดภาษาจีนได้ค่ะ
5. สถานที่ที่น่าช้อปปิ้งมากที่สุดสำหรับนักท่องเที่ยว คือ ร้านค้าปลอดภาษี เนื่องจากว่าราคาถูกกว่าร้านค้าทั่วไปมาก ยกตัวอย่างเช่นเครื่องสำอางยี่ห้อของเกาหลีจะถูกกว่าร้านทั่วไปอยู่ประมาณ 25 % ถ้าสินค้าที่ซื้อเป็นของเกาหลี เราสามารถรับกลับไปได้เลย แต่ถ้าเป็นสินค้านำเข้า เราต้องไปรับที่สนามบินตอนขาออกในวันกลับค่ะ
ความประทับใจที่ได้รับจากกรุงโซล
ถึงแม้ว่าจะแนะนำที่เที่ยวกันไปเยอะ แต่ความประทับใจที่สุดของแนนในการมาโซลครั้งนี้ คือ มิตรภาพ ที่ได้รับจากเพื่อนๆ ค่ะ เพื่อนกลุ่มนี้เป็นคนเกาหลีที่เรียนปริญญาตรีด้วยกันกับแนนที่มหาวิทยาลัยปักกิ่ง พอพวกเขารู้ว่าแนนจะมาเที่ยวกรุงโซล เค้าก็นัดเวลามาหาแนน พร้อมกับนำขนมมาให้ และยังพาแนนเดินชมลำคลอง เล่นเบสบอล พร้อมกับชวนกันไปชิมอาหารข้างถนน เช่น แป้งข้าวผัดเผ็ด (ต็อกบ็อกกี) โอเด้งปลาแผ่น และไส้กรอกเกาหลี ได้บรรยากาศแบบเป็นคนที่นั่นเลยค่ะ ตลอดเวลาที่เดินเที่ยวด้วยกันแนนก็ได้คุยเรื่องความเป็นอยู่ การหางาน การทำงาน ฯลฯ กับเพื่อนเหล่านี้ตามประสาคนที่ไม่ได้เจอกันมาปีกว่า เรียกว่ามีเรื่องคุยได้ไม่หยุด และที่สำคัญที่สุดนั้น พวกเราต่างคนต่างก็ดีใจที่ได้มาเจอกันอีกครั้ง ซาบซึ้งใจมากเลยค่ะ ดังนั้น บทความนี้ แนนจึงขอจบลงด้วยคำว่า "ซารางเฮโย" (ฉันรักคุณ)
แนน