จ สวัสดีค่ะ ท่านผู้ฟัง ยินดีต้อนรับเข้าสู่ช่วงคุยกันวันละประเด็น โดยดิฉันจางฉีและคุณพัลลภ สามสี สวัสดีค่ะคุณพัลลภ
พ สวัสดีครับ คุณจางฉีและท่านผู้ฟังทุกท่านครับ
จ เมื่อไม่นานมานี้ มีการประกาศผลสำรวจฐานะในสังคมของสตรีจีนซึ่งร่วมจัดขึ้นโดยสหพันธ์สตรีแห่งชาติและสำนักงานสถิติแห่งชาติ ผลสำรวจพบว่า สตรีจีนมีความพึงพอใจต่อสถานภาพในครอบครัวสูงถึง 85.2%
พ โอ้โห นับว่า สูงมากทีเดียวครับ ผมมาจีนกว่า 3 ปีแล้ว ได้เห็นกับตาว่า ฐานะในสังคมของสตรีจีนสูงทีเดียว ไม่แพ้ผู้ชายเลย ยิ่งครอบครัวคนรุ่นวัย 25-35 ชายหญิงมีความเสมอภาคเท่าเทียมกันจริงๆ
จ ใช่ค่ะ ผลสำรวจยังพบว่า เมื่อเทียบกับ 10 ปีก่อน ฐานะในสังคมของสตรีจีนมีความก้าวหน้าใน 8 ด้าน เช่น สุขภาพกายและใจของสตรีแข็งแรงขึ้น ระดับการศึกษาสูงขึ้น ความสามารถในการสร้างรายได้สูงขึ้น การมีส่วนร่วมในการบริหารในหน่วยงานรัฐบาลและภาคธุรกิจสูงขึ้น อำนาจตัดสินใจในครอบครัวเสมอภาคมากขึ้น และความต่างกันของเวลาทำงานบ้านระหว่างชายหญิงน้อยลง
พ ทั้งนี้เป็นข่าวดีมากและแสดงว่า สตรีจีนพัฒนาอย่างรวดเร็วทั้งฐานะทางเศรษฐกิจ สังคมและจิตสำนึกพร้อมกัน ผมคิดว่า ความพึงพอใจต่อสถานภาพในครอบครัวสูงถึง 85.2% อาจจะสูงสุดในประเทศเอเชีย
จ ดิฉันก็เชื่อเหมือนกัน เพราะว่า ปีหลังๆ นี้ สตรีจีนได้รับการพัฒนาอย่างรวดเร็วพร้อมกับการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม คนพัลลภได้ยินว่า สตรี三高 สามสูงไหมค่ะ
พ สามสูง ผมเดาเอานะครับ ไขมันสูง น้ำตาลสูง ความดันโลหิตสูง ใช่ไหมครับ
จ ไม่ใช่ค่ะ สตรี三高 สามสูงแปลว่า การศึกษาสูง ตำแหน่งสูงและรายได้สูง ซึ่งทุกอย่างไม่แพ้ผู้ชายค่ะ ผลสำรวจพบว่า สตรีมีอำนาจในการตัดสินใจซื้อบ้าน ซื้อรถ กู้ยืมเงิน ลงทุนซื้อหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ 70 เปอร์เซ็นขึ้นไป สูงกว่า เมื่อ 10 ปีก่อนไม่น้อยทีเดียว
พ ผมเคยอ่านหนังสือเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ว่า สมัยก่อน สตรีจีนมีสถานภาพในสังคมและครอบครัวต่ำมาก โดยทั่วไปแล้ว จะไม่ให้ผู้หญิงออกหน้าออกตานอกบ้าน เมื่อมีแขกมาถึงบ้าน ผู้หญิงจะไปรับประทานอาหารด้วยกันกับแขกไม่ได้ ต้องคอยรับใช้ในห้องครัวเท่านั้น
จ ใช่ค่ะ สตรีจีนในสมัยโบราณ ออกหน้าออกตาไม่ได้ ใครที่มีลูกสาวต้องหัดให้เข้าครัวตั้งแต่ยังเล็ก และต้องหัดงานเย็บปักถักร้อย พ่อแม่มักจะเห็นว่า เด็กหญิงไม่จำเป็นต้องมีการศึกษาสูง เพราะแต่งงานแล้ว ก็เป็นแต่แม่บ้านของคนอื่น เรียนสูงเท่าไรก็ไม่มีประโยชน์อะไร เด็กผู้หญิงจึงได้รับการศึกษาน้อยและผู้ที่ทำงานนอกบ้านก็ยิ่งมีจำนวนน้อยมาก สถานภาพในครอบครัวต่ำมาก
พ ผมยังอ่านหนังสือที่เล่าถึงประเพณีจีนแต่โบราณมาว่า พวกผู้ชายมักจะชอบผู้หญิงที่มีเท้าเล็ก และเชื่อว่า สุดยอดความงามของสตรีคือ การมีเท้าคู่เล็กดุจกลีบดอกบัว
จ ทำให้สตรีจีนต้องทรมานอย่างแสนสาหัสมาหลายร้อยปี มีสตรีจีนนับไม่ถ้วนต้องพิการ หรือเสียชีวิต เพราะเด็กหญิงที่เริ่มรัดเท้า จะต้องเจ็บปวดทรมาน อยู่ตลอดช่วง 2 ปี แล้วจึงค่อยบรรเทา
พ หนังสือที่ผมอ่านนั้นยังพูดถึงว่า ในอดีต การรัดเท้าถือเป็นข้อบังคับทางสังคม สำหรับสตรีชาวฮั่นทั่วประเทศ ซึ่งเริ่มแรกจากตระกูลชั้นสูง เวลาคุณหนูลูกผู้ดีจะเดินไปไหนมาไหนจะต้องมีคนรับใช้คอยจูง และไม่ต้องทำงานหนักเหมือนหญิงชาวบ้านทั่วไป
จ แต่ต่อมา ไม่ว่ายากดีมีจน ผู้หญิงที่มีลูกสาว พออายุ 4-5 ขวบ แม่จะต้องรัดเท้าให้ลูกสาว ไม่เช่นนั้น จะถูกตำหนิว่าไม่ได้ทำหน้าที่ของแม่ที่ดี และเชื่อว่า การรัดเท้าจะส่งผลต่อความมั่งคั่ง และสถานภาพในอนาคตของลูกสาว รวมถึงความสุขในชีวิต
พ การรัดเท้าจะทำให้นิ้วเท้าทั้งหมด ยกเว้นหัวแม่เท้าถูกพับลงไป และรัดติดแน่นกับฝ่าเท้า ยิ่งรัดให้ยิ่งเล็กก็ยิ่งดี ทำแบบนี้เรียกว่าอะไรนะครับ
จ 三寸金莲
พ แปลว่า เท้าดอกบัวทองคำ เมื่อเท้ามีขนาดเล็กแค่ 3 นิ้ว ทำให้เท้าของเด็กหญิงต้องพิการ ผิดรูปผิดร่างไปจากกำเนิด เพราะพวกผู้ชายจีนเขาชอบเท้าเล็กๆ แบบนี้ เฮ้อ...เมื่อถึงตรงนี้ ผมรุ้สึกว่าสงสารเด็กหญิงสมัยก่อนจัง ไม่น่าเชื่อเลย เขาทำไมชอบเท้าเล็ก ที่ต้องให้เด็กหญิงทรมานและพิการเท้าด้วย
จ ผู้หญิงที่รัดเท้าถึงขนาด 3 นิ้ว หรือ三寸金莲 มักจะไม่สามารถทำงานหนัก และเดินทางไปไหนมาไหนไม่สะดวกเลย ยิ่งไม่ต้องพูดถึงออกไปเที่ยวต่างถิ่น ต่างประเทศเลย คุณยายดิฉันรัดเท้าจนเหลือ 3 นิ้วเช่นกัน ท่านไม่ค่อยออกจากบ้าน ไม่เคยไปต่างถิ่น และไม่กล้าเปลือยเท้าอย่างเปิดเผย ต่อเมื่อเข้าห้องนอนส่วนตัวแล้วถึงจะกล้าถอดถุงเท้าออก
พ พวกคุณย่าคุณยายที่เคยรัดเท้า หากยังมีชีวิตอยู่ ปัจจุบัน อายุประมาณกี่ร้อยปีแล้วครับ
จ อายุน้อยที่สุดก็เกือบ 100 ปีแล้ว ในหมู่บ้านผู้อายุยืนบางท้องที่ยังมีคุณย่าคุณยายที่รัดเท้าหลงเหลืออยู่เพียงไม่กี่คนแล้วค่ะ คุณยายดิฉันถ้ายังมีชีวิตอยู่ จะมีอายุ 105 ปีแล้วค่ะ แต่การรัดเท้าที่เหมือนเป็นข้อบังคับนั้น ก็ไม่ใช่ว่าจะทำกันทุกคนนะคะ ชาวบ้านธรรมดาไม่ค่อยทำกัน เพราะว่าอาชีพหลักของพวกเขา คือทำไร่ทำนา ถ้ารัดเท้าก็ทำงานไม่ได้
พ ผมนึกภาพออกเลย ผู้หญิงที่ถูกรัดเท้าจนพิการไปแล้ว จะทรมานถึงขนาดไหนและชีวิตจะยากลำบากขนาดไหน
จ เรามาพูดกันถึงผลสำรวจของสตรีต่อค่ะ ในประเด็นความเสมอภาค ผู้ที่เข้าร่วมการสำรวจร้อยะล 83.5 ยอมรับว่า ความสามารถของผู้หญิงไม่แพ้กับผู้ชาย และร้อยละ 88.6 เห็นชอบว่า ผู้ชายควรทำงานบ้านเช่นเดียวกับผู้หญิง คนพัลลภเห็นชอบ 2 ข้อดังกล่าวไหมค่ะ
พ เห็นด้วยค่ะ งานบ้านไม่ใช่งานของผู้หญิงเท่านั้นครับ ปัจจุบันสุภาพสตรีมีการศึกษาสูง และรายได้สูง ทำงานนอกบ้านเช่นเดียวกันกับผู้ชาย ผมไม่คิดว่า ผู้ชายทำงานบ้านเป็นเรื่องน่าอาย หรือน่ารังเกียจ ตรงกันข้ามเป็นเรื่องที่สมาชิกในครอบครัวควรแบ่งกันรับผิดชอบครับ
จ ปัจจุบัน ประเด็นงานบ้านไม่ใช่เรื่องเล็กๆ อีกต่อไป แม้กระทั่งที่ประชุมคณะกรรมาธิการว่าด้วยสถานภาพสตรีขององค์การสหประชาชาติยังอภิปรายเรื่องนี้ และมีผลการประชุมสรุปว่า ต้องให้ผู้ชายเข้ามามีส่วนร่วมแบ่งเบาภาระในงานบ้าน รวมทั้งการดูแลผู้ป่วยด้วย
พ เนื่องจากหลายประเทศต่างเผชิญกับสถานการณ์คล้ายคลึงกัน คือ เมื่อมีคนเจ็บป่วยในครอบครัว ผู้หญิงต้องเป็นผู้ดูแลหลัก แม้จะทำงานนอกบ้านด้วยก็ตาม และยังพบอีกว่า ผู้ป่วยเอดส์ที่เป็นหญิงมักถูกทอดทิ้งให้อยู่เพียงลำพัง ในขณะที่ผู้ป่วยชายมักมีภรรยาคอยดูแลยามเจ็บป่วย
จ การประชุมระดับโลกต่างๆ อาจจะอภิปรายกันในมุมแคบๆ เพียงว่าเป็นการแบ่งเบาภาระของมนุษย์ให้เท่าๆ กัน และถกกันถึงค่านิยมสังคมที่มองว่า งานบ้านเป็นหน้าที่ของผู้หญิงหรือผู้หญิงทำได้ดีกว่านั้น ส่งผลให้ผู้หญิงต้องรับภาระทั้งงานในบ้านและนอกบ้าน
พ งานบ้านเป็นงานที่มีคุณค่าเทียบเท่างานอื่นๆ ไม่ดีเลิศแต่ก็ไม่ต่ำต้อย แต่เป็นทักษะชีวิตที่คนทุกเพศต้องเรียนรู้
จ ดิฉันเห็นบ่อยครั้งว่า คุณพัลลภเอากับข้าวที่ทำเองมารับประทานในห้องทำงาน มองดูแล้ว ฝีมือทำกับข้าวเก่งมาก สีสวย อร่อย ดูหน้าตาเข้าท่าเลย น่าจะอร่อยกกว่าร้านอาหารธรรมดานะคะ
พ พ่อแม่สอนผมมาตั้งแต่เด็ก จึงทำเป็นประจำและเคยชิน ทางบ้านผมไม่ใช่เลี้ยงให้โตแต่ร่างกาย ยังสอนให้หัดทำเรื่องที่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ทุกอย่าง เพื่อให้มีความรับผิดชอบต่อครอบครัว
จ ดิฉันได้ยินว่า คุณพัลลภทำความสะอาดบ้านก็เก่ง เก่งกว่าแฟนด้วยเก็บของเก็บข้าวของเรียบร้อยมาก
พ ก็ทำประจำละครับ กวาดบ้าน ถูบ้าน ซักผ้า (ของตัวเอง) เพราะไม่มีใครทำให้นะครับก็ต้องรับผิดชอบตัวเอง และอีกประการหนึ่ง เมื่อสองคนช่วยกันทำ ก็จะเสร็จเร็วขึ้น
จ อย่างไรก็ตาม ผลสำรวจฐานะในสังคมของสตรีจีนสะท้อนให้เห็นถึงความก้าวหน้าของสตรีจีนและสังคมจีน แต่ไม่ได้หมายความว่า ปัญหาความเสมอภาคของชายหญิงในจีนหมดลงแล้ว ตรงกันข้าม ยังมีอีกมากมายต้องการแก้ไขปรับปรุง
พ เป็นเรื่องธรรมดาครับ แม้ว่าในประเทศตะวันตกที่พัฒนาไปมาก ก็ยังมีปัญหาดังกล่าว ผมเชื่อมั่นว่า สตรีจีนมีอนาคตสดใสยาวไกลในการพัฒนาด้วยจิตใจเข้มแข็งและนุ่มนวล
จ รายการวันนี้ ดิฉันจางฉีและคุณพัลลภ สามสี ขอลาไปก่อน สวัสดีค่ะ สวัสดีครับ