เมื่อเร็วๆ นี้ สภาวิทยาศาสตร์สังคมแห่งชาติจีนออกสมุดปกสีน้ำเงินเศรษฐกิจของจีน โดยระบุว่า กล่าวโดยทั่วไปแล้ว ปี 2011 เศรษฐกิจจีนพัฒนาอย่างรวดเร็ว มั่นคง สถานการณ์ทางเศรษฐกิจจีนในภาพรวมเป็นไปด้วยดี แต่ในขณะเดียวกัน เศรษฐกิจจีนได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจโลกที่ปั่นป่วน และสลับซับซ้อนมาก จนทำให้เศรษฐกิจจีนต้องเผชิญกับการท้าทายหลายประการ ในรายการครั้งนี้ เราจะคุยกันในประเด็นเศรษฐกิจจีนที่น่าสนใจในรอบปีที่ผ่านมา เพื่อทบทวนสถานการณ์เศรษฐกิจจีนในปี2011 และจับตาเศรษฐกิจจีนในปี 2012
ประเด็นเศรษฐกิจจีนที่น่าสนใจประการแรกคือ ราคาสินค้าที่พุ่งสูงขึ้น แรงกดดันมหาศาลจากภาวะเงินเฟ้อทำให้ราคาสินค้าที่พุ่งสูงขึ้นกลายเป็นประเด็นร้อนของชาวบ้าน ครึ่งแรกปี 2011 สินค้าที่มีส่วนเกี่ยวพันกับชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนอย่างใกล้ชิด เช่น เนื้อสัตว์ ไข่ไก่ ผัก น้ำมันดีเซล เครื่องใช้ไฟฟ้า และสุราขาว ถีบตัวสูงขึ้นอย่างมาก ดัชนีราคาผู้บริโภค (Consumer Price Index : CPI) ในเดือนกรกฎาคมพุ่งขึ้นถึงขีดสูงสุด คือ 6.5% หลังจากนั้น รัฐบาลกลางใช้มาตรการต่าง ๆ เพื่อยับยั้งการเติบโตของดัชนีราคาผู้บริโภค ทำให้ราคาสินค้าที่พุ่งสูงขึ้นกลับคืนสู่ภาวะที่เป็นปกติ
ศาสตราจารย์ ซิงหมิง จากโรงเรียนพรรคคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีนกล่าวว่า การควบคุมราคาสินค้านั้นมีส่วนเกี่ยวพันกับสถานการณ์ทางเศรษฐกิจในขณะนี้อย่างใกล้ชิด ตั้งแต่ต้นปี 2011 เป็นต้นมา ราคาสินค้าในจีนพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ ถ้าเราจะให้เศรษฐกิจพัฒนาอย่างมั่นคง และเป็นปกติต่อไป ก็ต้องแก้ไขปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นให้ได้ ปัญหาที่ต้องได้รับการแก้ไขอย่างเร่งด่วนที่สุดในขณะนี้คือ ราคาสินค้าหลายอย่างสูงขึ้นจนประชาชนแทบจะรับไม่ได้แล้ว
สาเหตุที่ทำให้เกิดสภาวะเงินเฟ้อในจีนมีหลายประการ ทั้งจากการปล่อยสินเชื่อเพิ่มขึ้นอย่างมาก เพื่อรับมือกับวิกฤตการเงินโลก ซึ่งส่งผลให้ราคาสินค้าถีบตัวสูงขึ้น และจากนโยบายการเงินที่ผ่อนคลายของสหรัฐฯ นอกจากนี้ ต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้นก็ส่งผลให้ราคาสินค้าสูงขึ้นเช่นกัน
จับตาปี 2012 การควบคุมราคาสินค้าจะเป็นภารกิจสำคัญประการหนึ่งของรัฐบาลจีนในการควบคุมบริหารเศรษฐกิจภายในประเทศ การประชุมคณะทำงานเศรษฐกิจส่วนกลางจีนที่สิ้นสุดลงเมื่อเร็วๆ นี้ระบุ ว่า ปี 2012 รัฐบาลจะใช้มาตรการต่างๆ ต่อไป เพื่อรักษาราคาสินค้าให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม ป้องกันไม่ให้ราคาสินค้าถีบตัวสูงขึ้นอีก สมุดปกสีน้ำเงินที่ออกโดยสภาวิทยาศาสตร์สังคมแห่งชาติจีนที่ประกาศเมื่อเร็วๆ นี้ระบุว่า คาดว่าดัชนีราคาผู้บริโภคของจีนในปี 2012 จะอยู่ที่ประมาณ 4.5%
ประเด็นทางเศรษฐกิจที่น่าสนใจประการที่ 2 คือ การจำกัดการซื้อบ้านในเมืองขนาดใหญ่และขนาดกลาง เมื่อเดือนมกราคมปี 2011 คณะรัฐมนตรีจีนประกาศกฎระเบียบใหม่ในการซื้อบ้าน โดยจำกัดการซื้อบ้านในเมืองขนาดใหญ่และขนาดกลางของจีน ซึ่งถูกมองว่าเป็นนโยบายเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ที่เข้มงวดที่สุด ช่วง 1 ปีที่ผ่านมา กฎระเบียบใหม่ในการซื้อบ้านได้แสดงบทบาทที่เห็นได้ชัดในการยับยั้งแนวโน้มที่ราคาบ้านสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว จากข้อมูลล่าสุดของกรมสถิติแห่งชาติจีน ช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา อัตราเติบโตของราคาบ้านใน 70 เมืองขนาดใหญ่ และขนาดกลางติดลบ ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในจีนตกอยู่ในภาวะซบเซา
ขณะนี้ ข้อกำหนดที่เข้มงวดต่าง ๆ สำหรับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์จะผ่อนคลายลงในปีนี้หรือไม่นั้นกลายเป็นประเด็นที่ได้รับความสนใจมาก การประชุมประจำปีคณะทำงานเศรษฐกิจส่วนกลางจีนที่สิ้นสุดลงเมื่อเร็วๆ นี้ระบุว่า จีนจะมุ่งมั่นเดินหน้ามาตรการคุมเข้มภาคอสังหาริมทรัพย์ต่อไป เพื่อปรับราคาให้เข้าสู่ระดับที่สมเหตุสมผล การคุมเข้มภาคอสังหาริมทรัพย์คือ นโยบายที่แน่วแน่ของรัฐบาลจีน
นาย หวางอวี้ เจ้าหน้าที่กระทรวงการเคหะ การพัฒนาเมืองและชนบทจีนกล่าวว่า นโยบายจำกัดการซื้อบ้านของรัฐบาลจีนจะไม่มีการผ่อนปรน ถ้าเมืองใดเมืองหนึ่ง ซึ่งไม่ว่าจะเป็นเมืองขนาดใหญ่ หรือขนาดเล็ก ที่ประกาศว่าจะผ่อนปรนข้อจำกัดการซื้อบ้าน ก็จะส่งผลกระทบในทางลบต่อการคาดการณ์ของตลาดอสังหาริมทรัพย์ และการปรับปรุงเศรษฐกิจมหภาค ดังนั้น กระทรวงการเคหะ การพัฒนาเมืองและชนบทจีนจะต้องปฏิบัติตามคำสั่งคณะรัฐมนตรี โดยจะดำเนินนโยบายการจำกัดการซื้อบ้านในเมืองขนาดใหญ่ และขนาดกลางอีกต่อไป