สถิติจากฝ่ายที่เกี่ยวข้องของไทยปรากฏว่า ไตรมาสที่ 4 ของปีที่แล้ว เศรษฐกิจไทยเติบโต -5% และคาดว่า การเติบโตทั้งปีมีเพียง 1.1% - 1.8% ต่ำกว่้าเป้าหมายที่คาดไว้ในต้นปี2011 ที่ 4.5% อย่างมาก
เมื่อเร็วๆ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีไทยกล่าวในการประชุมสัมมนาในหัวข้อ "พิจารณาการเติบโตทางเศรษฐกิจปี 2012" ว่า เนื่องจากพื้นฐานเศรษฐกิจประชาชาติเข้มแข็งยิ่งขึ้น ตลอดจนรัฐบาลได้ใช้มาตรการต่างๆ อย่างต่อเนื่อง จึงเชื่อมั่นว่า เศรษฐกิจไทยจะฟื้นตัวขึ้นอย่างทั่วด้านในไตรมาสที่ 2 และคาดว่า อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจประชาชาติทั้งปีจะขยับขึ้นถึง 5%
น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร กล่าวว่า มาตรการส่งเสริมการฟื้นฟูทางเศรษฐกิจของรัฐบาลมี 3 ประการคือ หนึ่ง พยายามส่งเสริมการส่งออก ให้ความสำคัญต่อตลาดจีน ญี่ปุ่น ออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ เป็นต้น ซึ่งเป็นประเทศที่มีการลงนามข้อตกลงการค้าเสรีกับไทย นอกจากนั้น จะใช้ความพยายามนำสินค้าที่ส่งออกไปยังตลาดยุโรปและอเมริกาส่วนหนึ่ง เปลี่ยนมาส่งออกให้ตลาดตะวันออกกลางและประเทศอื่นๆ เพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยง สอง เร่งการก่อสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกขั้นพื้นฐานภายในประเทศและภูมิภาค พยายามดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ ทำให้ประเทศไทยกลายเป็นศูนย์การค้าของภูมิภาคอาเซียน และสาม เพิ่มกำลังซื้อของประชาชน กระตุ้นตลาดอุปโภคบริโภคภายในประเทศ ส่งเสริมการหมุนเวียนของผลิตภัณฑ์ของวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม กำหนดนโยบายสนับสนุนต่างๆ อาทิ และกองทุนชนบท กองทุนพัฒนาสิทธิสตรี เป็นต้น เพื่อส่งเสริมการเติบโตด้านการบริโภคของครอบครัวและวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม
นักวิเคราะห์เห็นว่า กำลังขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจในปี 2012 ของไทย ครึ่งปีแรกส่วนใหญ่มาจากการบริโภคภาคเอกชนที่ใช้ในการบูรณะอสังหริมทรัพย์ที่ประสบความเสียหายจากอุทกภัย ตลอดจนการปล่อยสินเชื่อของรัฐบาลและนักธุรกิจที่ใช้ในการบูรณะฟื้นฟูหลังภัยน้ำท่วม ส่วนครึ่งปีหลังส่วนใหญ่มากจากการลงทุนจากรัฐบาลและนักลงทุนต่างประเทศ
(Ton/Lin)