หนังสือพิมพ์เดอะ เดลี่ เทลีกราฟ (The Daily Telegraph) ของอังกฤษรายงานเมื่อเร็วๆ นี้ว่า เนื่องจากค่าครองชีพสูงขึ้นเรื่อยๆ ทุกพื้นที่ในจีนกำลังเพิ่มค่าแรงขั้นต่ำ เพื่อดึงดูดแรงงานชนบทที่เข้ามาหางานทำในเมือง ในจำนวนนี้ มณฑลเสฉวนเพิ่มค่าแรงขั้นต่ำมากที่สุดในจีน คือเพิ่ม 23% ส่วนมณฑลอื่นๆ เพิ่มขึ้น 13% ตามข้อเสนอของรัฐบาลกลาง
การเพิ่มค่าแรงขั้นต่ำอาจจะทำให้จีนสูญเสียความได้เปรียบในภาคอุตสาหกรรม การผลิตที่มีต้นทุนต่ำ ช่วง 20 ปีที่ผ่านมา ค่าแรงงานที่ถูกช่วยให้เศรษฐกิจจีนเติบโตขึ้นอย่างไม่เคยมีมาก่อน
แต่ในปัจจุบัน เมืองต่างๆ ในจีนส่วนใหญ่เผชิญกับปัญหาขาดแคลนแรงงาน เพราะการไปหางานทำในเมืองไม่ค่อยมีแรงดึงดูดเหมือนแต่ก่อนแล้ว แรงงานชนบทที่เลือกกลับไปทำไร่ทำนาในบ้านเกิดหรือหางานทำในเขตที่ใกล้ๆ บ้านเกิดจำนวนมากขึ้น
แม้ว่า รัฐบาลกลางประสบผลสำเร็จไม่น้อยในด้านการควบคุมเงินเฟ้อก็ตาม แต่ราคาอาหาร ค่าเช่าบ้านและสินค้าอื่นๆ ยังคงสูงขึ้นต่อไป
การเพิ่มค่าแรงขั้นต่ำเป็นวิธีหนึ่งของทางการจีนในการส่งเสริมความต้องการและการบริโภคภายในประเทศ รัฐบาลจีนหวังเป็นอย่างยิ่งว่า การเติบโตทางเศรษฐกิจจะไม่ต้องพึ่งพาการส่งออกมากเหมือนแต่ก่อน เพราะใบสั่งซื้อจากสหรัฐฯ และยุโรปลดลงเรื่อยๆ อัตราการว่างงานภายในประเทศก็สูงขึ้นไปด้วย
มณฑลเสฉวนที่อยู่ทางภาคตะวันตกของจีน เป็นแหล่งที่ส่งออกแรงงานราคาถูกไปยังเมืองอุตสาหกรรมที่อยู่เขตริมทะเลตะวันออกเฉียงใต้มาโดยตลอด แต่ปัจจุบัน มณฑลเสฉวนกำลังใช้ความพยายามให้แรงงานเหล่านี้ทำงานในท้องถิ่น ผู้รับผิดชอบของหน่วยงานทรัพยากรแรงงานและประกันสังคมกล่าวว่า มณฑลเสฉวนจะเพิ่มค่าแรงขั้นต่ำจาก 800 หยวนมาเป็น 1050 หยวนต่อเืดือน
ในขณะที่แรงงานจีนหวังที่จะได้ค่าแรงเพิ่มขึ้น ทำให้ต้นทุนการผลิตสูงขึ้น ดังนััน บริษัทต่างประเทศเริ่มเปลี่ยนแนวคิด โดยหันไปหาแรงงานราคาที่ยิ่งถูกกว่าในบังคลาเทศ เวีดยนามและกัมพูชา เป็นต้น
(In/Lin)