ช่วง 40 ปีที่ผ่านมา แม้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับสหรัฐฯ พบกับอุปสรรคมากมาย แต่ก็ประสบผลสำเร็จที่ชาวโลกต้องจับตามอง ความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างใหญ่หลวง ท่ามการการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ ทั้งสองประเทศได้สร้างกลไกเจรจาเพื่อจัดการกับปัญหาต่างๆ และเห็นด้วยหลักการของการอยู่ร่วมกันอย่างสันติ
เมื่อทบทวนสภาพที่น้ำแข็งปกคลุมความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับสหรัฐฯ เริ่มละลาย ทั้งสองประเทศซึ่งล้วนเป็นประเทศใหญ่ มีความแตกต่างกันอย่างมากในด้านระบอบการเมือง วัฒนธรรมและระดับการพัฒนาเศรษฐกิจ แทบไม่มีประสบการณ์ในการอยู่ร่วมกันว่าจะเป็นไปอย่างไร แต่ในช่วง 40 ปีที่ผ่านมา ความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับสหรัฐฯ ได้เปิดทางใหม่ที่ให้ประเทศที่เจริญขึ้นมาใหม่กับประเทศพัฒนาแล้วสามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างสันติ
แต่อนาคตของความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับสหรัฐฯ ยังคงมีลักษณะที่ไม่แน่นอนดำรงอยู่ ความไม่แน่นอนชนิดนี้ก็เป็นสาเหตุที่ทำให้บางประเทศเกิดความกังวล แต่เมื่อเทียบกับ 40 ปีก่อนแล้ว ความไม่แน่นอนชนิดนี้ลดน้อยลงอย่างมาก และกำลังพัฒนาไปสู่ทิศทางที่แน่นอน เมื่อทบทวนประวัติศาสตร์๋และมองการณ์ไกลสู่อนาคตจะเห็นได้ว่า สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ ความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับสหรัฐฯ จะย้อนกลับไม่ได้
ความสัมพันธ์ที่เป็นปกติระหว่างประเทศ โดยเฉพาะความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับสหรัฐฯ ไม่ใช่ความสัมพันธ์แบบไม่มีข้อขัดแย้งโดยเด็ดขาด แต่มีกลไกจัดการและแก้ไขปัญหาที่ครบชุดและมั่นคง เมื่อเกิดปัญหาแล้ว ก็รู้ว่าควรจะไปหาคนใดคนหนึ่งของอีกฝ่ายหนึ่งเพื่อเจรจากันและแก้ปัญหา จนกระทั่งปัญหาที่ทั้งสองประเทศไม่สามารรถตกลงแก้ไข ก็ยังสามารถพึ่งพาจัดการด้วยกลไกระหว่างประเทศ
ในความเป็นจริง ความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับสหรัฐฯ พัฒนาไปสู่ทิศทางที่ร่วมมือกันมากขึ้นและคืบหน้าไปเรื่อยๆ ภายใต้การส่งเสริมของกรอบการจัดการปัญหาและข้อจำกัดของทั้งสองกรอบนี้ กรอบแรกเป็นกลไกที่จีนและสหรัฐฯ ได้สร้างขึ้นและกำลังขยายวงกว้างขึ้น กรอบที่สองเป็นกลไกการจัดการปัญหาทางการค้าทั่วโลก พร้อมๆ กับความร่วมมือที่แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นภายในกรอบทั้งสองดังกล่าว มาตรฐานด้านการอยู่ร่วมกันระหว่างจีนกับสหรัฐฯ จะชัดเจนยิ่งขึ้น และความไม่แน่นอนจะค่อยๆ เลือนหายไป
(Ton/Lin)