ระหว่างวันที่ 26-27 มีนาคมที่จะถึงนี้ ผู้นำจากประเทศต่างๆและองค์การระหว่างประเทศทั่วโลกกว่า 50 แห่งจะรวมตัวกันที่กรุงโซลประเทศเกาหลีใต้ เพื่อเข้าร่วมการประชุมสุดยอดว่าด้วยความปลอดภัยด้านนิวเคลียร์ครั้งที่ 2 นายหู จิ่น เทา ประธานาธิบดีจีนจะเข้าร่วมการประชุม และอธิบายนโยบายและมาตรการสำคัญของจีนในด้านความปลอดภัยทางนิวเคลียร์ นางฉวี่ ซิง นักวิชาการที่มีชื่อเสียงของจีนกล่าวว่า ปัจจุบัน ประชาคมโลกเผชิญกับการท้าทายล่อแหลม จึงต้องเสริมการดูแลความปลอดภัยด้านนิวเคลียร์ทั่วโลก ส่วนการปราบปรามลัทธิก่อการร้ายต้องวิเคราะห์ให้ถี่ถ้วนทั้งต้นเหตุและปลายเหตุ
เหตุผลที่จัดการประชุมสุดยอดดังกล่าว นายฉวี่ ซิง ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยปัญหาระหว่างประเทศแห่งประเทศจีนเห็นว่า หลายปีที่ผ่านมา อุปกรณ์นิวเคลียร์และพลังงานนิวเคลียร์มีการพัฒนาอย่างมาก นับวันมีหลายประเทศมากขึ้นมีกำลังผลิตไฟฟ้าด้วยพลังนิวเคลียร์ นอกจากนี้ ข้อขัดแย้งระหว่างประเทศบางประการก็นับวันรุนแรง ก่อให้เกิดปัจจัยที่อาจจะทวีความรุนแรงของการก่อการร้าย ทั้งนี้ ล้วนเป็นการท้าทายต่อการรักษาความปลอดภัยของอุปกรณ์นิวเคลียร์ การขนส่ง จัดเก็บและจัดการวัสดุนิวเคลียร์ ฉะนั้น หลังจากจัดการประชุมสุดยอดว่าด้วยความปลอดภัยด้านนิวเคลียร์ที่กรุงวอชินตันเมื่อปี 2010 แล้ว ปีนี้ จะจัดเป็นครั้งที่ 2
การที่ว่าต้องวิเคราะห์ทั้งต้นเหตุและปลายเหตุนั้น คือ ต้องเสริมกำลังป้องกันความปลอดภัยของอุปกรณ์นิวเคลียร์ที่กำลังดำเนินงานอยู่ ป้องกันการขนส่งและจัดการวัสดุนิวเคลียร์ สร้างระบบระเบียบให้เป็นมาตรฐาน ดำเนินการแลกเปลี่ยนประสบการณ์เกี่ยวกับการต่อต้านการโจมตีจากการก่อการร้าย พร้อมกันนั้น ยังควรสร้างระบบสากลที่มีความเที่ยงธรรมและสมเหตุสมผล ลดการปะทะกัน ลดสงคราม ความยากจนและความโกรธแค้นของโลก เพื่อขจัดต้นกำเนิดของลัทธิก่อการร้าย มีแต่การกระทำเช่นนี้ จึงจะสามารถแก้ปัญหาได้อย่างแท้จริง
นางฉวี่ ซิงเห็นว่า ประเด็นที่น่าสนใจที่สุดของการประชุมครั้งนี้คือ จะเปลี่ยนโครงการทำงานที่เสนอในที่การประชุมสุดยอดวอชินตันให้เป็นโครงการปฏิบัติงานที่มีความเป็นไปได้หรือไม่
(Ton/Ping)