เลสลี่ จาง เสียงเพลงที่ยังอยู่ในความทรงจำ
เลสลี่ จาง สวมวิญญาณ นางเอกงิ้ว ใน Farewell my Concubine
"จริงๆ นะ มีแต่คนที่มีประสบการณ์เท่านั้นจึงจะเข้าใจ แต่ก็ไม่ใช่ว่าทุกคนจะพบกับความรักที่รุนแรงลึกซึ้งหรอก ดังนั้นพวกเขาก็อาจจะไม่ค่อยรู้สึกเจ็บปวดเท่าไร" เลสลี่ จางย้ำ
"ผมคิดเสมอว่าความรักระหว่างหญิง-ชาย และชาย-ชายนั้น แตกต่างกัน ผมรู้สึกชื่นชอบตัวละคร เฉิงเตี๋ยอี (นางเอกงิ้วที่มีความรักให้ผู้ชายด้วยกัน รับบทโดยเลสลี่ จาง) ในเรื่อง 'Farewell my Concubine' เพราะว่าเขาเป็นฝ่ายรุก กล้ารักกล้าเกลียด ไม่เคยยอมแพ้ เป็นคนแบบที่ทุ่มเทสุดๆ เฉิงเตี๋ยอีกล้าจะมีชีวิตอยู่เพื่อความรัก แม้ว่าสุดท้ายจะตัดสินใจปลิดชีวิตตัวเอง แต่ก็เป็นลักษณะของการเป็นฝ่ายรุก และกล้าได้กล้าเสีย
ชีวิตเหมือนความฝัน เหมือนภาพลวงตา
ระหว่างการสัมภาษณ์ เลสลี่ จางเคยเปรยว่า "ตั้งแต่เล็กผมขาดความรักจากแม่ คนที่เข้าใจผมจริงๆ มีน้อยมาก ชีวิตคนเราก็เหมือนกับความฝัน เหมือนภาพลวงตา เป็นอะไรที่ว่างเปล่า ความฝันเป็นเรื่องที่มีความหมาย ท้าทาย และทำให้คนรู้สึกตื่นเต้น ส่วนภาพยนตร์ก็สามารถให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ในความฝันได้เหมือนกัน ช่วงเวลาถ่ายหนังเป็นช่วงที่ทำให้ผมรู้สึกดี "
นอกจากถ่ายละครแล้ว เขาเคยให้สัมภาษณ์ว่า กิจกรรมอีกอย่างที่เขาชอบก็คือ การแต่งบ้าน โดย 1-2 ปีก็จะมีการตกแต่งใหม่ เขาจะมีความสุขมากกับการออกแบบ ซ่อมแซม หรือไปเลือกซื้อเฟอร์นิเจอร์เข้าบ้าน
การพูดถึงเรื่องความเป็นความตายก็เป็นเรื่องปกติสำหรับเลสลี่ จาง อาจเป็นเพราะภาพยนตร์หลายเรื่องของเขาล้วนเกี่ยวพันกับความตาย มนุษย์กับวิญญาณ ซึ่งทำให้เขาไม่สามารถจะสลัดเรื่องเหล่านี้ออกไปจากความคิดได้
ฉากสุดท้ายของ เฉิงเตี๋ยอี
"พูดถึงชีวิตคนเนี่ย ผมมองได้ทะลุปรุโปร่งเลยล่ะ จะพูดว่าไม่รักชีวิต ก็จะรู้สึกผิดต่อตัวเองไปหน่อย ที่จริงก็รักนะ แต่บางครั้งก็รู้สึกตัวเองว่างเปล่า เหมือนกับไม่แยแสกับอะไรทั้งสิ้น และใกล้กับความตายอยู่ตลอดเวลา คุณว่าแปลกไหม ? " ขณะเดียวกัน แม้เลสลี่จะมองว่าความตายเป็นสิ่งน่ากลัว แต่ก็เป็นความยิ่งใหญ่ พร้อมกันนั้น ต้องดูด้วยว่าตายได้อย่างไร ตายเพราะอะไร
"ผมชอบการตายของเฉิงเตี๋ยอีนะ เพราะเขาจากไปอย่างไม่พะว้าพะวัง เป็นการตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยว บางทีความตายก็ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจเลือกของเรา การเลือกความตายให้ตัวเองเป็นเรื่องน่าทึ่งทีเดียว "
เมื่อมองจากบทสัมภาษณ์ข้างต้นแล้ว จนถึงวันนี้ทำให้นึกขึ้นมาได้ว่า ที่จริง เลสลี่ จาง มองชีวิตไม่ต่างจากภาพลวงตา และชื่นชมการตัดสินใจฆ่าตัวตายของเฉิงเตี๋ยอีมาโดยตลอด มีครั้งหนึ่งเขากล่าวว่า "พอมาแสดงเป็นเฉิงเตี๋ยอี จึงเข้าใจว่า การฆ่าตัวตายเป็นสิ่งที่ทรมาน แต่ก็เป็นการหลุดพ้นอย่างหนึ่ง เมื่อถึงเวลาที่ไม่อาลัยอาวรณ์ต่อโลกนี้แล้ว ก็เลือกที่จะจากมันไปซะ"
แม้ว่า เลส ลี่ จาง จะมองว่าความตายคือการหลุดพ้น การจากไปอาจเป็นการยุติเรื่องยุ่งวุ่นวายต่างๆ สำหรับคนที่หัวใจเหนื่อยล้าเต็มที....แต่ทำไมไม่คิดว่า การฆ่าตัวตายกลับเป็นการปิดโอกาสของตัวเองที่จะรับสิ่งดีๆ ที่จะเข้ามาในชีวิต...จะเป็นการดีกว่าไหม ที่เราจะเลือกต่อสู้กับปัญหา และนั่งมองความสำเร็จอย่างผู้ชนะในที่สุด ไม่มีชีวิตใครที่ไม่เคยเจอกับความยากลำบาก อุปสรรคจะเป็นตัวหล่อหลอมให้เราแกร่งและแข็งแรงขึ้น...อย่างไรเสีย ก็ขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนฝ่าฟันมรสุมแห่งชีวิตต่างๆ ไปได้ด้วยดี….
เลสลี่ จาง : 2 ปีแห่งการจากไปชั่วนิรันดร์ / หมิงซิงคลับ
'ไม่มีใครอยู่ค้ำฟ้า' สัจธรรมที่ไม่เคยมีมนุษย์คนใดเคยหลีกพ้น รวมทั้ง เลสลี่ จาง ดารานักร้องชื่อดังก้องฟ้าชาวฮ่องกงคนนี้ด้วย...ย้อนไปเมื่อวันที่ 1 เมษายนปี 2003 ในขณะที่ทุกคนกำลังสนุกสนานกับการเล่นโกหก ฉลองวัน 'เอพริลฟูล เดย์' … เลสลี่ จาง ได้ตัดสินใจดับชีวิตตัวเอง ด้วยการกระโดดตึกฆ่าตัวตายจากชั้นที่ 24 ของโรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ลฮ่องกง ขณะที่มีอายุเพียง 46 ปี...
ข่าวการเสียชีวิตของเขานำมาซึ่งความโศกเศร้าของญาติมิตรและแฟนเพลงแฟนภาพยนตร์เป็นจำนวนมาก พร้อมกับข้อกังขาถึงปมเหตุการฆ่าตัวตายครั้งนี้ว่า นอกเหนือจากความซึมเศร้าที่สั่งสมมานานปีแล้ว ยังมีเรื่องมรสุมรักสามเส้ามาเกี่ยวข้องด้วย พร้อมกับกระแสข่าวลือว่าเขาไม่สามารถสลัดบทบาทในภาพยนตร์เรื่อง ผีอยากให้คนเห็น ที่เขาแสดงเป็นจิตแพทย์ และเกือบจบชีวิตลงด้วยการดิ่งจากตึกสูงเช่นกัน
แต่อย่างไรก็ตาม ... แม้วันนี้ เลสลี่ จาง จะไม่ได้อยู่บนโลกนี้แล้ว แต่เขาจะคงอยู่ในหัวใจของพวกเราทุกคนตลอดไป....
เลสลี่ จาง เสียงเพลงที่ยังอยู่ในความทรงจำ