เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ดิฉันออกไปเดินเที่ยวห้างแห่งหนึ่งขากลับแวะไปเยี่ยมบ้านหลานชายซึ่งอยู่ในวัย 30 ปี รู้สึกว่า ชีวิตแบบใหม่ของเขาก็เป็นตัวอย่างชีวิตหนุ่มสาวจีนรุ่นใหม่ส่วนหนึ่งได้อย่างดี วันนี้ขอนำเรื่อง

" คู่แต่งงานจีนรุ่มใหม่ขอมีสัตว์เลี้ยงแทนลูก "มาเล่าสู่กันฟัง

หลานชายแต่งงาน 5 ปีแล้ว ภรรยาเขาก็อยู่ในวัยไล่เลียกันอายุประมาณ 30 ปี แต่สองคนยังไม่ยอมมีลูก และจนถึงขณะนี้ ทั้งคู่ก็ยังไม่มีแผนจะผลิตเจ้าตัวน้อย เพิ่มสมาชิกครอบครัวอีกคนหนึ่งเลย ทั้งสองบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า ตกลงกันเรียบร้อยแล้วตั้งแต่ยังไม่แต่งงานว่า จะไม่ยอมมีลูกเพราะไม่อยากมีคนที่สามมารบกวนชีวิตคู่ และไม่อยากสูญเสียชีวิตอิสระไม่มีเวลาเป็นตัวของตัวเอง

คือ ทั้งสองคนแต่งงานแล้วเลือกที่จะไม่มีลูก ไม่ใช่มีลูกยาก แต่เลือกไม่มีลูก สภาพแบบนี้มีในทุกประเทศทั่วโลกค่ะ ที่เมืองไทยก็มี ซึ่งภาษาอังกฤษเรียกว่า D.I.N.K ( Double Income No Kids) หรือก็คือ ครอบครัวที่สามีภรรยาทั้งคู่มีรายได้แต่ไม่มีลูก

ภาษาจีนเรียกว่า "丁克族" มาจากภาษาอังกฤษเหมือนกัน ส่วนใหญ่เป็นครอบครัวที่สามีภรรยาทั้งคู่มีการศึกษาสูง อาชีพมั่นคง รายได้ดี อย่างหลานชายของดิฉัน ทั้งสองคนมีรายได้ประมาณ 300,000-400,000 หยวนต่อปี ตกเป็นเงินไทยเกือบ 2 ล้านบาท ถือว่า เป็นระดับกลางๆ ซึ่งชีวิตคู่จะสบายมาก จะซื้ออะไรจะไปเที่ยวที่ไหนไม่ต้องคิดมากจ่ายได้ทันทีเลย และไปพักผ่อนเที่ยวต่างประเทศอย่างน้อยปีละสองครั้ง

ปัจจุบัน สำหรับหนุ่มสาวที่แต่งงานใหม่ ชีวิตในเมืองใหญ่ๆมีแรงกดดันสูงมาก ทั้งงานยุ่ง ไม่มีเวลาคลอดบุตร ไม่มีเวลาเลี้ยงดู นอกจากนี้ค่าครองชีพในเมืองใหญ่ก็สูงมาก ราคาบ้านแพงมาก แพงกว่าเมืองไทยหลายเท่า รายได้สองคนต้องผ่อนบ้าน จ่ายค่าน้ำมันรถ ค่าอาหารและเสื้อผ้า ค่าใช้จ่ายทางสังคม เงินเดือนแทบไม่พอใช้ การเลี้ยงบุตรจึงเป็นภาระหนักอึ้ง

เคยมีคนเผยตัวเลขค่าใช้จ่ายในการเลี้ยงดูลูกที่กรุงปักกิ่งว่า ตั้งแต่เริ่มตั้งครรภ์จนถึงลูกสำเร็จการศึกษาจบปริญญาตรี ต้องลงทุนประมาณ 500,000 หยวน ตกประมาณกว่า 2 ล้านบาทไทย นอกจากมีภาระทางเศรษฐกิจแล้ว ยังต้องเป็นห่วงอนาคตลูกด้วย

การเลี้ยงลูกนอกจากมีแรงกดดันทางเศรษฐกิจแล้ว ยังมีความกดดันทางจิตใจด้วย เช่น ปัจจุบัน ผู้หญิงรุ่นใหม่รักความสวยงามมาก เคยมีเพื่อนคนจีนที่เป็นผู้หญิงหลายคนบอกว่า ไม่อยากมีลูก กลัวเจ็บเวลาคลอดลูก หรือกลัวเมื่อมีลูกแล้วจะทำให้หุ่นไม่ดี ไม่มีเวลาดูแลผิวพรรณ หมดอิสรภาพ

ผู้ชายก็กังวลไม่แพ้กัน หลายคนวิตกว่าภาระค่าใช้จ่ายทางเศรษฐกิจจะยิ่งเพิ่มมากขึ้นหลายเท่าจนแบกรับไม่ไว้ ทำให้คุณภาพชีวิตตนเองลดต่ำลง และอาจจะส่งผลกระทบต่อการเลื่อนขั้นเลื่อนตำแหน่งของตัวเอง ในขณะเดียวกันก็คิดยาวคิดไกลกังวลในเรื่องอนาคตการแข่งขันของลูกด้วย

แต่การเลี้ยงสัตว์เลี้ยงจะง่ายกว่าเยอะ เพียงซื้อของที่จำเป็น เลี้ยงให้เขากินดีอยู่ดี นอกจากความซื่อสัตย์น่ารักน่าเอ็นดูแล้วแถวยังเชื่อฟัง ฟังเราบ่น ฟังเราโกรธ เราด่าอย่างไรก็ไม่เถียง ซึ่งนำความสุขมาสู่ครอบครัว สร้างบรรยากาศที่สนุกสนานให้ครอบครัวไม่น้อยทีเดียว

หลานชายดิฉันที่เลือกไม่มีลูกคงยังมีสาเหตุที่ว่า ปัจจุบัน ครอบครัวคนจีนโดยทั่วไปมีลูกเพียงคนเดียว ไม่เหมือนสมัยก่อน ที่ต้องการเลี้ยงลูกหลายคน เพื่อให้ลูกดูแลพ่อแม่ตอนแก่เฒ่า แต่ปัจจุบัน มีลูกเพียงคนเดียวเท่านั้น จึงไม่หวังให้ลูกเลี้ยงดูพ่อแม่ การมีลูกจึงเหมือนกับพ่อแม่ต้องคอยเอาใจใส่ลูกไปตลอดชีวิต