ได้เห็นคุณรพีพรรณไปฝึกโยคะเป็นประจำ และเห็นหน้าตาผ่องใสขึ้นอย่างเห็นได้ชัด อยากให้คุณรพีพรรณเล่าความรู้สึกและประสบการณ์ในการฝึกโยคะให้ฟังบ้าง
คุณรพีพรรณ ดิฉันเริ่มฝึกเล่นโยคะมาได้ 3-4 ครั้งแล้ว เนื่องจากก่อนหน้านี้ นั่งทำงานที่หน้าจอคอมพิวเตอร์วันละหลายชั่วโมง ไม่ได้ออกกำลังกายแต่อย่างใด ทำให้บางทีรู้สึกปวดต้นคอเมื่อยหลัง และทำให้มีไขมันสะสมลงพุงมากขึ้น
ปัจจุบัน ผู้ที่ทำงานในออฟฟิศส่วนใหญ่ต้องเผชิญกับปัญหาที่ปวดต้นคอ เมื่อยหลังเมื่อยเอว สายตาเสื่อมลง ดิฉันสังเกตว่า ยิ่งหนุ่มสาวยิ่งออกกำลังกายน้อย เพราะงานเยอะ การเดินทางไปทำงานก็เหนื่อยแล้ว หรือไม่ก็ขี้เกียจ เมื่อไปหาหมอตรวจรักษา มักจะให้ทานยาแก้ปวดเมื่อย ท้ายที่สุด ไม่สามารถหายขาดได้
หลังจากฝึกโยคะแล้ว เพื่อนร่วมงานทักว่า หน้าตาสดใสขึ้นอาการปวดเมื่อยต่างๆก็บรรเทาลง แต่ฝึกเพียงสัปดาห์ละครั้ง ครั้งละเกือบ 2 ชั่วโมง ยังถือว่าน้อยไป คุณจางฉีเคยฝึกโยคะมาบ้างไหม
คุณจางฉี ดิฉันก็เคยฝึกโยคะเหมือนกัน และเคยสัมภาษณ์ผู้หญิงที่ไปฝึกโยคะทุกคน โดยถามว่า ในช่วงเวลาที่ควรทำอาหารเย็นให้สามีและลูกอยู่ในห้องครัว แต่คุณกลับมาฝึกโยคะยืดเส้นยืดสายหาความสบายให้ตัวเองแบบนี้ สามีสนับสนุนหรือเปล่า
ปรากฎว่า สามีทุกบ้านชอบใจและให้การสนับสนุนอย่างดีด้วย
คำตอบเช่นนี้ ไม่น่าเชื่อนะคะ ดิฉันคิดว่า น่าจะมีหลายคนตอบว่า สามีไม่สนับสนุนทุกครั้ง แล้วบางคนยังกลับตอบว่า เราไม่มา เขายังเร่งให้เรามา
ปกติ ในครอบครัวทั่วไป ผู้ชายยินดีจะเห็นสภาพในขณะที่เลิกงานแล้วกลับถึงบ้าน ภรรยากำลังทำอาหารในครัวอย่างขะมักเขม้น ส่วนสามีก็มักจะนั่งคอยอยู่ที่เก้าอี้ตัวโปรดในห้องรับแขก เปิดโทรทัศน์ดูข่าว พอภรรยาทำอาหารเสร็จเรียบร้อย จึงเรียกสามีและลูกมารับประทานข้าวด้วยกันอย่างเอร็ดอร่อย
ก่อนดิฉันไปฝึกโยคะก็ทำแบบนี้ ทำอาหารห่อเกี๊ยวเสร็จแล้ว โทรศัพท์ถึงสามีว่า หากใกล้ถึงบ้านก็โทรฯกลับมานะ ดิฉันจะเริ่มต้มเกี๊ยวให้ เมื่อสามีเข้าบ้าน จะได้รับประทานอาหารสดๆร้อนๆอย่างทันท่วงที
คุณจางฉีฝึกมากี่ปีแล้ว สามียังสนับสนุนอยู่หรือเปล่า ดิฉันคิดว่า คุณสามีน่าจะแค่สนับสนุนเป็นชั่วครั้งชั่วคราว ไม่ได้สนับสนุนกันนาน
ดิฉันฝึกมา 5 ปีแล้ว โดยซื้อบัตรออกกำลังกายเป็นคอร์ส ตอนแรกก็บอกเขาว่า ถ้าหิว ก็กินอะไรรองท้องก่อน ทีหลัง เขาก็ทำเอง ทำไปทำมา ขณะนี้ ฝีมือทำอาหารเก่งมาก เขายังบอกว่า ไม่ต้องห่วงหรอก เขาทำเองยิ่งอร่อย แต่ดิฉันคิดว่า มีแต่สามีเราเองที่สนับสนุนเราไปฝึกโยคะ นึกไม่ถึงว่า สามีทุกบ้านสนับสนุนภรรยาไปฝึกโยคะด้วยความยินดี
มีเพื่อนคนหนึ่งที่ฝึกโยคะด้วยกันบอกว่า ก่อนฝึกโยคะ เขาเคยไปฝึกเรียนภาษาต่างประเทศกับฝึกวาดภาพ เพื่อพัฒนาตนเอง แต่สามีไม่ค่อยสนับสนุน ผิดกับการมาฝึกโยคะ สามีสนับสนุนตั้งแต่แรกจนถึงขณะนี้
เคยถามผู้หญิงคนหนึ่งในห้องฝึกโยคะ เป็นผู้หญิงอายุประมาณ 50 กำลังเข้าสู่วัยทอง เธอเล่าให้ฟังว่า ก่อนไปฝึกโยคะ เลิกงานแล้วกลับถึงบ้าน เห็นอะไรก็ไม่พอใจ สามีกับลูกกลัวเธออย่างมาก แต่หลังจากฝึกโยคะแล้ว เธอร้องเพลงกลับบ้านด้วยหน้าตายิ้มแย้มแจ่มใส หากเธอไม่มา สามียังเร่งให้มา พ่อลูกบอกว่า หากแม่สบายใจ ทั้งครอบครัวก็สบายใจไปด้วย
ผู้หญิงวัยกว่า 30 เคยเล่าให้ฟังว่า แต่ก่อน เอวมีปัญหา ค่าใช้จ่ายในการรักษาบำบัดปีหนึ่งตกหลายหมื่นหยวน ที่สำคัญ ไม่สามารถทำงานบ้านอะไรได้ ทำให้สามีและลูกรู้สึกภาระงานบ้านหนักอึ้ง แต่หลังจากฝึกโยคะเป็นเวลาครึ่งปี อาการปวดเอวค่อยๆดีขึ้น ปัจจุบันนี้ ทำงานบ้านได้เกือบทุกอย่างแล้ว สามีจึงสนับสนุนเต็มที่
ส่วนผู้หญิงไปฝึกโยคะอายุ 20 กว่าๆก็มีจำนวนไม่น้อย พวกเธอบอกว่า มาฝึกโยคะเพื่อรักษาหุ่น รักษาความสวยงาม ซึ่งรักษาจากต้นเหตุและอยู่ได้ยาวนาน สามีใครบ้างไม่อยากให้ภรรยาตนเองสวยงาม ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ ผิวพรรณผ่องใส ร่างกายมีสัดส่วนดีและอารมณ์ดี จึงสนับสนุนตลอด
อย่างไรก็ตาม สามีสนับสนุนภรรยาไปฝึกโยคะ มีเหตุผลนานับประการ ที่สำคัญที่สุด คือ ภรรยาไปฝึกโยคะเป็นประโยชน์ต่อสามีเองด้วย